สังคม

บช.น. สั่งตั้งคกก.สอบ ปมบ่อนใหญ่เลียบด่วนรามอินทรา อุ้มซ้อมนักพนันรีดเงิน

โดย panwilai_c

27 ต.ค. 2565

369 views

เพจสายไหมต้องรอด โพสต์เฟซบุ๊ก บ่อนใหญ่ย่านเลียบด่วนรามอินทรา ปล้นเซียนพนัน จับมัด ถุงดำคลุมหัว อุ้มซ้อม รีดเงิน 5 ล้าน!



โดยผู้เสียหายทั้ง 4 ราย จากทั้งหมด 7 ราย เดินทางมาร้องนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด ให้ช่วยเหลือระบุว่าถูกเจ้าของบ่อนโต๊ะเสือมังกร ให้ทหารมาข่มขู่ โดยใช้ถุงดำครอบหัว รีดเงิน และทรัพย์สิน



1 ในผู้เสียหาย เป็นสาวประเภทสอง เล่าเหตุการณ์ ให้ฟังว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณวันที่ 19 สิงหาคม กลุ่มผู้เสียหายทั้ง ทั้งหมด 7 คน แบ่งเป็นชาย 1 คน หญิง 5 คน และสาวประเภท 2 อีก 1 คน โดยกลุ่มของเธอ เข้ามาเล่นเสือมังกรที่บ่อนตอนประมาณ 6 โมงเย็น ซึ่งเคยมาเล่นกันก่อนหน้านี้แล้ว 2 วัน ในกลุ่มนักพนันทราบดีว่า เป็นบ่อนใหญ่ มีนักเล่นในวันนั้น ประมาณ 200 ถึง 300 คน มีบาคาร่า 2 โต๊ะ มีเสือมังกร 2 โต๊ะ มีไฮโล มีถั่ว ซึ่งส่วนใหญ่คนที่เล่นเป็นวีไอพี



วันที่เกิดเรื่องพวกตนเล่นกันได้นิดหน่อย พวกของบ่อนเห็นว่าพวกตนเล่นได้ตลอด ก็เลยสั่งการ์ดเข้ามาล้อมพวกตน ก่อนเรียกให้ไปชั้น 2 และถามว่า "โกงรึเปล่า" พวกตนก็บอกว่า ไม่ได้โกง แต่กลับถูกเอาไปขังในห้องชั้น 2 ของบ่อน นานหลายชั่วโมง ซึ่งตอนนั้น ยังไม่ถูกพันธนาการ



จากนั้น ตนเอง แอบใช้โทรศัพท์มือถือแจ้งตำรวจ 191 ก่อนที่ตำรวจจะประสานตำรวจท้องที่ // ประมาณ 10 นาทีต่อมา ตำรวจก็โทรมาว่า อยู่หน้าที่เกิดเหตุ แต่เมื่อทราบว่าเป็นบ่อน ตำรวจก็เงียบไป และไม่ได้ขึ้นมาช่วย ก่อนจะมีคนแจ้งเจ้าของบ่อนว่ามีคนโทรไปแจ้ง



ต่อมาคนของบ่อน จึงเอานักเล่นทั้ง 7 คน ลงมาจากบ่อน และพาขึ้นรถตู้ป้ายเหลือง ขับออกไปจอด แถวรามอินทรา (ใกล้ห้างแฟชั่น ไอแลนด์) คาดว่าเปิดทางถ่วงเวลาให้ตำรวจเข้าไปค้น เข้าไปเคลียร์



พอผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็พาพวกตนกลับไปที่บ่อน และให้ขึ้นไปชั้น 2 ก่อนที่คนในบ่อนเรียกทหาร 3 คนมา และใช้ถุงดำครอบหัว ทำร้าย ซ้อมนักพนัน 6 คน เหลือเพียงชาย 1 รายที่ไม่ถูกคลุมหัว เพราะมีอาการหอบหืด



โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร 1 คน เป็นคนเอาถุงดำคลุมหัว 1 คน จับมือไพล่หลัง 1 คน นั่งทับขา ก่อนเอามือปิดปาก บังคับให้โอนเงินในบัญชี บอกรหัสมือถือ และเอทีเอ็ม ทำให้ผู้เสียหายต้องยอม เมื่อได้เงิน และทรัพย์สินเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 6 โมงเช้า ก็มีคนของบ่อนพาทั้ง 7 ขึ้นรถ และขับไปปล่อยไว้แถวสายไหม



นักพนันคนนี้ บอกว่า ถูกบังคับให้โอนเงิน รวมถึงเอาเงินสด และชิปเงินไปประมาณ 2 ล้าน 5 แสนบาท หลังเกิดเหตุไปโรงพักในท้องที่ประมาณ 4 ครั้ง ตำรวจบอกว่าเป็นข้อหาทำให้เสียทรัพย์ และพยายามบ่ายเบี่ยงไม่ให้เกี่ยวข้องกับบ่อน วันนี้ที่มาร้องเพราะต้องการให้ดำเนินคดี ให้ถึงที่สุด และต้องการเงินคืน



ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย เป็นคุณป้า ยังคงร้องไห้ และหวาดผวากันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ป้าบอกว่า ที่ไม่อยากไปแจ้งความ เพราะกลัวภัยมืด และคนก่อเหตุก็ยึดบัตรประชาชน-ยึดโทรศัพท์ไป ทุกวันนี้ ไม่สามารถอยู่ในที่มืดได้ จะนึกถึงวันที่โดนซ้อม และล็อก เอาถุงคลุม แล้วปิดจมูก จนทำให้ตนน็อคไปเลย ถุงมันหนามาก พอเอาถุงสวมหัว ก็พยามทรมานพวกตนด้วยการปิดจมูก ปิดปาก และบอกว่า มีเท่าไหร่เอามาให้หมด พยามให้บอกรหัส จนตนช็อกไป ทหารก็เอาถุงออก และพูดกันว่า จะตายไหม ก่อนที่จะพยามเรืยกให้ตนฟื้นคืนสติ



ซึ่งทั้งหมดบอกว่า ตระเวนเล่นมาหลายแห่ง และมาที่นี่เพราะเห็นเป็นบ่อนใหญ่ ยืนยันก่อนหน้าเกิดเหตุ ก็มาเล่นอยู่ 2 วัน ยอมรับว่าดวงขึ้นเล่นได้บ้าง เสียบ้าง แต่ไม่ได้โกง ซึ่งทางบ่อนคงเข้าใจว่บพวกตนโกง จึงพยามรีดทรัพย์คืนกลับมารวม 7 คน มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท



ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า ผู้เสียหายแจ้งความไปแล้วคดีกลับไม่มีความคืบหน้า จึงจะสอบถามไปยังผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และที่แปลกใจคือ ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งตนมองว่าพฤติการณ์ดังกล่าว เข้าข่ายความผิดปล้นทรัพย์ และทราบข้อมูลว่า เป็นบ่อนของเฮีย ต. ที่เปิดพื้นที่ ให้เจ้ามือคนอื่นมาเช่าสถานที่เพื่อเปิดให้นักพนันมาเล่น โดยเสือมังกร ที่เกิดเหตุ มีหญิงที่ชื่อซาร่า มาขอเช่าจากเฮีย ต. เพื่อเปิดให้นักพนันเสี่ยงโชค



จากนั้นทีมผู้เสียหาย ทีมสายไหมต้องรอด พาทีมข่าวไปชี้พิกัดบ่อนที่ถูกกล่าวอ้าง ตั้งอยู่ใกล้กับเลียบด่วนรามอินทรา โดยภายนอกจากที่สังเกตเปิดเป็นโต๊ะสนุ๊กเกอร์ มีรั้วรอบขอบชิด มีป้ายระบุเปิดทำการ 24 ชั่วโมง ยังคงเปิดให้บริการปกติ มองจากด้านนอกเข้าไป เห็นว่าด้านหลัง มีอาคารที่เชื่อมกับด้านหน้า ซึ่งมี 2 ชั้น ซึ่งจุดนี้ ผู้เสียหายอ้างว่า เป็นสถานที่ที่ถูกพาขึ้นไปทรมาน



แต่ระหว่างนั้น ปรากฎว่ามีชายคนหนึ่ง สวมเสื้อขาว ขี่จักรยานยนต์เข้ามาใกล้ๆ สถานที่ ก่อนจะอ้างว่า ตนเองเป็นแฟนของคนที่ทำงานในโต๊ะสนุ๊ก ยืนยันว่าภายในไม่มีบ่อน ตามที่กล่าวอ้าง ซึ่งแฟนมาทำงานได้ไม่นาน ตนเองมาเล่นสนุ๊กรอแฟน ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยเห็นว่าด้านในมีบ่อน



แต่ 1 ผู้เสียหาย ดันจำหน้าชายรายนี้ ได้ว่าชายคนนี้เป็นคนที่เคยเข้าไปโรงพัก และให้ทำสัญญาชดเชยเงินที่ถูกรีดไถคืน ทางนายเอกภพ จึงเรียกชายรายนี้มาสอบถามอีกรอบว่าสรุปแล้ว เป็นใครกันแน่ ซึ่งชายดังกล่าว อ้างว่ามาเล่นสนุ๊กเกอร์เท่านั้น แต่ถามไปมาจนยอมรับว่า ตนเองเป็นคนที่ไปหาผู้เสียหายที่โรงพักเพื่อทำสัญญาชดใช้เงินจริง แต่เป็นการทำตามคำสั่ง โดยได้เงินค่าจ้างมา 1,000-2,000 บาท และก็ไม่ทราบตัวตนที่แท้จริงว่าใครเป็นคนจ้าง



เบื้องต้น นายเอกภพ บอกว่า พาผู้เสียหายมาดูสถานที่ที่ระบุว่าเป็นบ่อนพนัน พบว่ามีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะที่จะประกอบกิจการ แต่จะใช่บ่อนหรือไม่ ต้องให้ตำรวจมาตรวจสอบ



ตำรวจนครบาลสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุอุ้มลักพาตัวและปล้นเซียนพนัน ว่าตำรวจท้องที่มีการปล่อยปะละเลยให้เปิดบ่อนการพนันหรือไม่



ล่าสุด พลตำรวจตรี จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ตำรวจท้องที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์ผ่านสายด่วน 191 ตั้งแต่เมื่อไหร่ และได้มอบหมายให้ พลตำรวจตรี นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับตำรวจท้องที่ว่ามีการปล่อยปะละเลยหรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่



ซึ่งพลตำรวจตรี นิตินันท์ ได้บอกว่า จากข้อเท็จจริง มีการลักลอบเล่นการพนันจริง และมีการ ติดหนี้พนันจึงไปสู่การทวงหนี้โดยใช้กำลังทำร้ายร่างกาย ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความแล้วที่ สน.โคกคราม และได้ตกลงกันไปแล้ว ซึ่งไม่ได้มีการติดใจเอาความอะไร จนกระทั่ง มีการไปร้องเรียนยังเพจดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจจะต้องตรวจสอบย้อนหลังว่าการเล่นพนันในครั้งนั้นเป็นการลักลอบหรือไม่ ยืนยันไม่ปล่อยปะละเลยเรื่องนี้


https://youtu.be/m4ZPf4_QYUU

คุณอาจสนใจ

Related News