สังคม

'ภิกษุณีปลาย' แถลงปมไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ นำเงินช่วย 'วัดศรีลังกา' รับคิดน้อย ขอโทษคณะสงฆ์ไทยทุกรูป

โดย parichat_p

28 ก.ย. 2565

126 views

กรณีนายศรีสุวรรณ ร้องเอาผิด ภิกษุณีปลาย ไลฟ์ขายน้ำมันมนต์ ว่ามีพฤติการณ์อาจเข้าข่ายละเมิดพระธรรมวินัย และมิใช่กิจของสงฆ์ อันจะสร้างความเสื่อมในบวรพุทธศาสนาได้ //ล่าสุดภิกษุณีสุทัสสนา หรือ หมอปลาย พรายกระซิบ ตั้งโต๊ะแจงปมดรามา ยอมรับคิดน้อย ขอโทษต่อคณะสงฆ์ไทยทุกรูป แจงเหตุไลฟ์สดเพื่อนำปัจจัยไปช่วยสร้างหอฉัน และโรงทานที่วัดในศรีลังกา


นี่เป็นคลิปต้นเหตุที่ "ภิกษุณีสุทัสสนา" หรือที่หลายคนรู้จักว่า "หมอปลาย พรายกระซิบ" การไลฟ์สดขายสบู่ผสมน้ำมนต์และบางช่วงของการไลฟ์ ได้พูดถึงสรรพคุณสบู่ว่า "หลวงพี่พยามทำให้ เพื่อที่สำหรับทุกคนที่มีปัญหาในเรื่องของการดวงตก ใครที่โดนของนะคะ ใครที่เคยทำแท้ง ทำอะไรนู่นนี่นั่น แล้วปวดบ่าปวดไหล่ แล้วแบบรู้สึกว่าโดนเกาะ"


ซึ่งบางคนติงว่าไม่เหมาะสม ที่ภิกษุณีมาไลฟ์ขายของเช่นนี้ รวมถึงมาพูดถึงสรรพคุณว่าแก้ดวงตกบ้าง หรือใช้กับคนที่โดนของบ้าง ขณะเดียวกันก็พบว่า มีการโฆษณา โปรดีๆ หลวงพี่จัดให้ ซื้อสามแถมหนึ่ง มีทั้งสบู่ สีผึ้ง เซรั่ม ยมรูป เทวรูป


รายการโฆษณาสบู่ ณ จรัส ที่อ้างว่า เสริมเสน่ห์เทียบได้กับการลงนะหน้าทอง พร้อมกับคำอธิบายเพิ่มเติมว่าเสริมนะเมตตา หลงใหล เสน่ห์ให้มีราศีโดดเด่น มีออราเจิดจรัสทั่วร่างดึงดูดเพศที่ชอบ ผู้คนเมตตาเกื้อหนุนเพิ่มความรักหลงเสน่ห์หา ด้วยยมคุณ


ส่วนสบู่ที่เป็นประเด็น สบู่ ณ กายา มีการระบุว่า ล้างสิ่งไม่ดี เทียบได้กับการอาบน้ำมนต์ // พร้อมคำอธิบายว่าล้างคุณไสย ของต่ำมนต์ดำ อัปมงคล โดนทำของใส่ โดนลมเพลมพัด ขับไล่ผีวิญญาณติดตาม สิ่งชั่วร้าย เสริมยมคุณครบถ้วนสมบูรณ์ พุทธคุณติดคงทนไม่เสื่อมสลายได้ง่าย


นอกจากนี้ยังมีเซรั่ม ณ เสน่ห์ เสริมเสน่ห์เลอค่าได้ทุกวันเทียบเท่าการลงนะหน้าทอง // ที่นอกจากจะบรรยายสรรพคุณแล้ว ยังระบุว่าผ่านการทำพิธีปลุกเสกเสริมมงคลแบบเดียวกับการลงนะหน้าทอง ที่ช่วยเสริมให้คนใช้มีเสน่ห์สง่าราศีมีเมตตามหานิยม ผู้คนหลงใหลอุปถัมภ์สนับสนุนเมตตา เป็นที่รักของคนทั่วไป //พร้อมระบุข้างล่างว่าโปรดใช้วิจารณญาณเป็นความเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ในเพจของหมอปลาย ยังมีการนำข้อความ ของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่รีวิวความรู้สึกหลังใช้ ที่เปลี่ยนไป มานำเสนอและโฆษณา


ล่าสุดวันนี้ "ภิกษุณีปลาย" ตั้งโต๊ะแถลงข่าว ชี้แจงและตอบเป็นเด็นดรามาที่เกิดขึ้น โดยภิกษุณีปลาย บวชที่ศรีลังกามาได้ 4 เดือนแล้ว ตั้งใจบวช 1 ปี แต่ครั้งนี้กลับมาประเทศไทย เพื่อไปร่วมทำบุญ ที่เชียงใหม่


ภิกษุณีปลายเล่าว่า วัดที่อยู่เป็นวัดชานเมืองของโคลัมโบ ศรีลังกา มีภิกษุณี 6 รูป ความเป็นอยู่ลำบาก ข้าวของแพงกว่าที่ไทย 3 เท่าตัว //บางครั้งไฟก็ดับอาหารที่ฉัน บางทีต้องขุดหัวมันมาปอก ประกอบอาหารเอง //ชาวบ้านไม่มีอาหารมาถวายให้นักบวช บางครั้งชาวบ้านมาขอ นักบวชก็จะให้ข้าวให้อาหาร จนบางครั้ง ต้องอดมื้อกินมื้อ


ทางภิกษุณี จึงตั้งใจที่จะทำให้ชีวิตของนักบวชดีขึ้น โดยจะมืการสร้างโรงทาน และหอฉัน จึงได้ขออนุญาตพระอุปัชฌาย์ ในการไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ เพื่อหาเงินมาบำรุงพระพุทธศาสนาได้ เพราะนักบวชที่ศรีลังกา ต้องเป็นผู้ให้ พระที่นั่นสามารถเป็น ส.ส.ได้ สู้เพื่อประชาชน จึงเป็นที่มาของการไลฟ์ขายของ


โดยยอมรับว่า ตนเองไลฟ์ขายสบู่จริง จากที่ศรีลังกา โดยนำสบู่น้ำมนต์ ที่เคยทำมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นฆราวาสเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาไลฟ์ขาย และเมื่อขายได้ ก็จะนำเงินบาท ไปแลกเป็นเงินศรีลังกาเพื่อนำไปถวายที่วัดที่นั่น //การขายแต่ละครั้ง ไม่ได้มีการขอเงิน และทุกครั้งที่ไลฟ์ ทางพระอุปัชฌาย์ จะดูและคุมคามประพฤติในการไลฟ์สดทุกครั้ง


ประเด็นที่เกิดขึ้น ยอมรับว่า คิดน้อย ไม่ได้ปรึกษาคณะสงฆ์ที่ประเทศไทย ปรึกษาแต่พระอุปัชฌาย์ที่ศรีลังกา ตนรู้สึกผิด และต้องขอโทษต่อคณะสงฆ์ไทย และภิกษุณีทุกรูป ที่ทำให้เสื่อมเสีย ยอมรับว่า ประมาท คิดสั้น ที่ไม่ได้ปรึกษาก่อน


ส่วนกรณีที่นายศรีสุวรรณ ได้ยื่นคำร้องถึงมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนานั้น มองว่า นายศรีสุวรรณ อาจจะเข้าใจผิดว่าบวชที่ประเทศไทย


ส่วนกรณีนายศรีสุวรรณ ไปร้องเอาผิดตนเอง ก็มองว่าควรมาคุยกับตนก่อน ไม่ควรนำมาเป็นเรื่องใหญ่ และมองว่าอาจจะหิวแสง แต่ก็ต้องขอขอบคุณที่ทำให้มีโอกาสได้ชี้แจง ส่วนตัวอยากจะไปชี้แจงต่อแมหาเถรสมาคมด้วยตัวเอง แต่ไม่ทราบว่าจะเข้าไปอย่างไร


ส่วนประเด็นเรื่องอวดอ้างสรรพคุณของสบู่น้ำมนต์ ภิกษุณีปลาย ชี้แจงว่า ขายใน 129 บาท ไม่ใช่ 199 บาท และที่บอกว่า สบู่น้ำมนต์อาบน้ำมนต์ ช่วยล้างสิ่งอัปมงคลขี้ไคล นั่นก็เป็นการชำระสิ่งสกปรกในร่างกาย และมองว่าเวลาคนไทย ไม่สบายใจหรือคิดว่าดวงตกก็จะไปอาบน้ำมนต์ เลยคิดทำสบู่ขึ้นมา


ยืนยัน ว่าเงินทั้งหมด จากการขายสบู่ ไม่หักต้นทุน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ถวายให้พระอุปัชฌาย์ฝ่ายภิกษุ // และถวายให้พระอุปัชฌาย์ฝ่ายภิกษุณี ซึ่งตั้งแต่บวชชี และมาบวชเป็นภิกษุณี ตลอดเวลา 4 เดือน ช่วยหาปัจจัยไปถวายวัดที่ศรีลังกาแล้วกว่า 1 ล้านบาท ทั้งจากไลฟ์ขายของ และเงินของตัวเองด้วย


ในวันพรุ่งนี้ ภิกษุณีปลายก็จะเดินทางกลับศรีลังกาในช่วงเช้า เพราะการกลับมาประเทศไทย มาเพียงแค่ 7 วัน 6 วันตามระเบียบ โดยทุกครั้ง จะนำข้าวของที่จำเป็นไปให้นักบวชที่นั่นได้ใช้ เพราะข้าวของต่างๆ ราคาเพิ่มขึ้นไปหลายเท่าตัว และไม่สามารถหาซื้อได้แล้ว


หลังจากนี้ จะมีการไลฟ์ขายสบู่หรือไม่นั้น ภิกษุณีบอกว่า อยากให้คนที่เคยร่วมบุญ เอาของไปใช้ช่วยรีวิวให้ จะได้พูดน้อยหน่อย ยืนยันว่า ผ้าเหลืองไม่ร้อน ยิ่งเหนียวแน่นกว่าเดิม อยากทำให้วัดที่ศรีลังกามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/WZqJ3qISH7w

คุณอาจสนใจ

Related News