'หมอปลาย' แจงไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ หาเงินซ่อมวัดในศรีลังกา - 'แพรรี่' ซัด ผ้าเหลืองไม่ใช่เครื่องหมายการค้า

ภิกษุณีสุทัสสนา หรือหมอปลาย พรายกระซิบ แจงดรามาไลฟ์ขายสบู่ผสมน้ำมนต์ แก้ดวงตก ทำไปเพื่อหาปัจจัยไปช่วยสร้างหอฉัน - โรงทานที่วัดในศรีลังกา เพราะความเป็นอยู่ของภิกษุณี แสนลำบาก ต้องขุดหัวมันมากิน เพราะชาวบ้านเดือดร้อนจากพิษเศรษฐกิจ ไม่มีของมาถวาย บางทีไฟก็ดับ จวกศรีสุวรรณ หิวแสง ร้องเรียนให้เป็นเรื่องใหญ่

ด้าน แพรรี่ ไพรวัลย์ เตือนภิกษุณีปลาย ต้องเลือก ถ้าจะขายของก็ควรสึกออกมา ไม่ควรใช้สถานะนักบวชแสวงหาลาภปัจจัยในทางที่ไม่ถูกต้อง

วานนี้ (28 ก.ย. 65) ภิกษุณีสุทัสสนา หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ “หมอปลาย พรายกระซิบ” แถลงข่าว ชี้แจงถึงประเด็นดรามา กรณีโพสต์คลิป-ไลฟ์ขายสบู่น้ำมนต์ ซึ่งมีการอวดอ้างสรรพคุณที่เสริมดวงชะตา หมอปลายยอมรับว่าได้ไลฟ์สด และขายของจริง

แต่ทุกครั้งที่ไลฟ์สดได้ระบุตลอดว่า ไม่อยากจะขอให้ซื้อ แต่เป็นตามกำลังศรัทธา ไม่ได้อยากให้ช่วยฟรี แต่อยากให้มีของแลกเปลี่ยน โดยเงินทั้งหมดที่ได้จากการขายสบู่ จะนำไปสมทบทุนซ่อมแซมศาสนสถานที่ประเทศศรีลังกา และนำไปเป็นกองทุนสวัสดิการด้านอาหารข้าวของเครื่องใช้ของภิกษุณีด้วย เนื่องจากไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาสนับสนุนเลย

ทั้งนี้ ขอกราบขอโทษพระสงฆ์ไทยและพระภิกษุณีไทยทุกๆ รูป ที่ทำให้เสื่อมเสีย รู้สึกผิดอย่างถึงที่สุด ยอมรับว่าประมาท เพราะไม่ได้ปรึกษาจากผู้รู้ที่ประเทศไทยก่อน เพราะพอไปอยู่ที่โน่น ได้ขออนุญาตพระอุปชาญะตลอด ซึ่งท่านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร

สำหรับสรรพคุณสบู่ล้างสิ่งอัปมงคลและสิ่งสกปรกนั้น หมอปลายระบุว่า ปกติอาบน้ำมนต์ 7 วัดแต่ไม่สะดวกเลยต้องหานวัตกรรมใหม่มาช่วย ยอมรับว่าคิดสั้น ลืมว่ามันเป็นเรื่องของความเหมาะสม

ส่วนกรณีที่พระพยอมออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทำให้ภิกษุณีทางเสื่อมเสีย ส่วนตัวยอมรับขอโทษที่คิดน้อย และทำให้เสื่อมเสีย ภิกษุณีปลายฝากทิ้งท้าย โดยระบุว่า ใครที่เคยร่วมบุญกันรบกวนขอรีวิวด้วยจะได้เอาปัจจัยตรงนี้ไปช่วยต่อ

-------------
วานนี้ (28 ก.ย. 65) ไพรวัลย์ วรรณบุตร โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

“ถึงท่านภิกษุณีปลาย

ดิฉันขออนุญาตพูดถึงประเด็นของภิกษุณีปลายหน่อยนะคะ ด้วยเห็นว่า ท่านเจ้าคุณอาจารย์พยอม อยากให้ดิฉันพูด ถือเป็นการแบ่งภาระในให้ความเห็นทางพระศาสนาแทนเจ้าคุณอาจารย์ท่าน

ในความเห็นของดิฉัน ต่อให้ภิกษุณีปลาย จะไม่ได้อยู่ในสังกัดหรือความดูแลของคณะสงฆ์ไทย แต่ท่านก็ถือว่าเป็นนักบวชในพระพุทธศาสนาค่ะ

เมื่อเป็นแบบนี้ ดิฉันคิดว่า ถ้าท่านอยากจะทำธุระกิจหรือค้าขายอะไรโดยอาศัยความเชื่อ ท่านควรทำอย่างตรงไปตรงมานะคะ สัมมาอาชีวะ เป็นเรื่องพื้นฐานที่แม้แต่ฆราวาสก็ควรต้องรู้

คำว่า ทำอย่างตรงไปตรงมา ในความหมายของดิฉัน คือดิฉันอยากให้ท่านทำในฐานะของฆราวาสค่ะ ของหมอปลาย พลายกระซิบ หรืออะไร ก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่ในฐานะของภิกษุณี ของนักบวชในพระพุทธศาสนา แบบนี้ดิฉันไม่ติดค่ะ

ในความเห็นของดิฉัน การที่ท่านตัดสินใจออกบวชแล้ว นั่นควรหมายความว่า ท่านมีศรัทธาต่อพุทธศาสนาจริงๆ ต่อคำสอนที่มุ่งเน้นเรื่องการใช้สติปัญญาในการดับทุกข์ ท่านควรประพฤติตนตามหลักการข้อนี้ และสอนคนอื่นที่มีความนับถือในตัวท่านด้วย

ศาสนาไม่ได้สถานที่ชุบตัว ผ้าเหลืองไม่ได้มีไว้สำหรับเป็นเครื่องหมายทางการค้า หรือเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ใครใช้ประกอบอาชีพนะคะ

ท่านคิดว่า สิ่งที่ท่านทำอยู่ตอนนี้ถูกต้องหรือเปล่าคะ ไม่ว่าเรื่องการทำนาย การขายสบู่อวดอ้างสรรพคุณต่างๆ ทุกวันนี้ มีสตรีหลายคนบวชเป็นภิกษุณี และพวกเธอพยายามศึกษาเคร่งครัด เพื่อยืนยันให้เห็นว่า ผู้หญิงเมื่อเข้าไปบวชก็สามารถเป็นนักบวชที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบได้

ดิฉันมองว่า การที่ท่านอุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลไปถึงต่างประเทศ หาลู่หาทางในการบวชจนเป็นภิกษุณีได้ แล้วกลับเอาผ้าเหลืองที่ตนเองได้มา มาทำเรื่องไม่เหมาะสมแบบนี้มันน่าเสียดายนะคะ เรียกว่าไม่คุ้มค่าหรือเปล่าประโยชน์ก็ว่าได้

ดิฉันขอถือวิสาสะถวายคำแนะนำให้ท่าน คือท่านควรต้องเลือกค่ะ ถ้าจะขายของก็ควรออกมา ไม่ควรใช้สถานะนักบวชแสวงหาลาภปัจจัยในทางที่ไม่ถูกต้อง แต่ถ้ามีท่านศรัทธาในพระพุทธศาสนาจริงๆ ท่านก็ควรทิ้งวิถีแห่งไสยศาสตร์ หรือแม้แต่ความเป็นแม่ค้าที่ท่านทำนะคะ

อันนี้ดิฉันพูดด้วยความจริงใจในฐานะของน้องสาว ของคนที่เคยออกรายการสัมภาษณ์กับท่าน และพูดในฐานะที่เจ้าคุณอาจารย์พยอม ท่านขอให้ดิฉันพูด หวังว่าท่านจะรับฟังและไม่โกรธเคืองดิฉันนะคะ”

-------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/SIs0VLYrFJU