สังคม
เปิดใจพ่อแม่ 'น้องจีฮุน' เด็ก 7 ขวบดับ หลังถูกลืมในรถตู้ เผยคาใจหลายเรื่อง วอนขอความยุติธรรม
โดย paweena_c
31 ส.ค. 2565
114 views
หลังจากครอบครัวของน้องจีฮุน มาออกรายการโหนกระแสแล้ว ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณแม่ของน้อง คุณแม่ยังทำใจไม่ได้ ยังร้องไห้อย่างหนัก
ช่วงหลังจากที่ออกรายการโหนกระแสเสร็จ คุณแม่เมทิกา แม่ของน้องจีฮุน ยังคงร้องไห้ พร้อมกับกอดกระเป๋านักเรียนของลูกสาว และผ้าเช็ดตัวผืนสีชมพูไม่ห่างตัว ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนของลูกสาว และอยากให้รับรู้ว่า คุณแม่ไม่ทิ้งน้อง ไม่ว่าจะเกิดอะไร ถึงแม้จะจากไปแล้วก็จะสู้ และทวงความยุติธรรมให้ถึงที่สุด
ตนอยากบอกกับลูกว่า รักลูกมาก อยากให้ได้รับความยุติธรรม อยากให้คนผิด ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องถูกดำเนินการ และอยากให้รู้ว่าแม่จะสู้ทุกอย่างเพื่อความยุติธรรม จะทำทุกทางที่แม่ทำให้ลูกได้
คุณแม่ยืนยันกับทีมข่าวว่า ยังมีข้อสงสัยคาใจหลายประเด็น ตั้งแต่เกิดเรื่อง พอทราบว่าลูกเสียชีวิต ทำไมไม่รีบแจ้งผู้ปกครอง แต่กลับไปแจ้งครู ไปปรึกษาผู้อำนวยการ ทั้งที่ผู้ปกครองควรมีสิทธิ์ที่จะรู้ว่าลูกเป็นยังไง ยื้อชีวิต และช่วยเหลือไหม
ประเด็นต่อมา ลูกสาวก็เป็นเด็กที่สูงประมาณ 130 เซนติเมตร ไม่ใช่เด็กเล็กที่ถูกลืมไว้ในรถ และยืนยันว่าน้องจีฮุนทำเป็นหมด ทั้งปลดล็อกรถ กดกระจกขึ้นลง น้องทำเป็นหมด เพราะกับรถส่วนตัวที่บ้านก็ทำเป็น และเคยให้ลูกดูคลิปวิดีโอ ว่าถ้าติดอยู่ในรถต้องทำยังไง เพราะมันเคยมีเหตุการณ์ที่เคยเป็นข่าว อีกทั้งครูขับรถก็ให้ข้อมูลว่า รถไม่ได้ล็อกด้วยตามนโยบายของผู้บริหารที่ไม่ให้ล็อกรถ จึงยิ่งเป็นไปได้ยากที่ลูกสาวจะไม่เปิดประตูออกมาก
ส่วนตัวมองว่า เกิดจากความสะเพร่า สำหรับชีวิตของเด็กคนหนึ่ง ลูกของตนเป็นคน ไม่ใช่ที่จะมาทิ้งขว้าง ควรจะตรวจทานให้ดี ยิ่งวันเกิดเหตุรับเด็กมาน้อยกว่าทุกวัน ทำให้ยิ่งสงสัยว่าทำไมถึงตกหล่นได้อีก
เช่นเดียวกับคุณพ่อที่ยืนยันว่า ลูกสาวเปิดประตูรถเองได้ เพราะกับรถที่บ้าน ลูกสาวก็สามารถทำได้หมด ยอมรับว่า ทำให้เกิดข้อสงสัยในแง่อื่น โดยเฉพาะตอนที่เกิดเหตุ กลับมาถามว่าลูกสาวไม่สบายตรงไหนรึเปล่า ซึ่งควรรีบแจ้งไม่ควรจะมาถามบ่ายเบี่ยงแบบนี้
และการที่ครอบครัวจ่ายค่าเทอมในราคาสูง ก็เพื่อแลกกับคุณภาพที่ดี แต่สิ่งที่เจอกลับแย่มากๆ ไม่คุ้มค่าไม่คุ้มกับสิ่งที่สรรหาให้ลูก เงินกี่ล้านบาท ก็ชดใช้ไม่หมด เพราะไม่สามารถเรียกลูกกลับมาได้และตนก็มีแค่คนเดียว
"อยากบอกกับลูกว่า อยากกลับมาเป็นพ่อลูกกันอีก ไม่อยากให้จากไปเลย อยากให้กลับมาอยู่ด้วยกัน"
ขณะที่คุณป้าของน้องจีฮุน ซึ่งได้คุยกับครูขับรถ (ครูบุญลือ) เมื่อเช้าที่ผ่านมา ครูที่ขับรถยอมรับว่า ปกติจะมีการตรวจเช็คเด็กในรถ แต่ในวันเกิดเหตุ ครูพี่เลี้ยงบอกกับเขาว่า เด็กลงหมดแล้ว จึงเอารถไปเก็บ และไม่ได้เช็ค ซึ่งให้เห็นถึงความละเลยความไม่ใส่ใจ ความสะเพร่าอย่างมาก ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ทั้งคนขับ และครูพี่เลี้ยง โดยเฉพาะครูพี่เลี้ยงมีต้องดูแลเด็กเป็นพิเศษ จึงสงสัยว่าตอนเกิดเหตุครูทำอะไร ทำไมไม่เห็นน้อง
และช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ไม่มีคนเห็นน้องเลยหรือ เพราะครูขับรถแจ้งว่า น้องนั่งแถวสาม แต่มาพบร่างที่แถวแรก แสดงว่ามีเคลื่อนที่ และหลานเป็นเด็กตัวโต ถ้าลุกขึ้นมา ก็ต้องมีคนเห็น ยิ่งถ้าบอกว่ารถไม่ได้ล็อก แล้วทำไมหลานจะเปิดไม่ได้
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/tXDKwJXPIhc