สังคม

ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ อยากไลฟ์สดกับ "เจนนี่" หวังกระตุ้นคนไทยใส่ใจสุขภาพ ให้ความรู้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น

16 ต.ค. 2568

404 views

วันที่ 16 ตุลาคม 2568 จากกระแส “ปรากฏการณ์เจนนี่” หรือ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ศิลปินและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เปิดไลฟ์สดขายสินค้าร่วมกับดาราและอินฟลูเอนเซอร์ระดับประเทศหลายราย อาทิ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” จนสามารถสร้างยอดขายทะลุ 100 ล้านบาท ภายในเวลาอันสั้น มียอดผู้ชมต่อเนื่องตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้านคน สร้างกระแสฮือฮาในโลกออนไลน์ทั่วประเทศ

ท่ามกลางกระแสดังกล่าว ศาสตราจารย์นายแพทย์สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ และอายุรแพทย์ระบบประสาท จ.ขอนแก่น ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า“อยากทำลายสถิติอั้ม มากกว่า 1,000,000 คนไทยจะได้รับการรักษาที่ดีที่สุด ถ้าผมไปไลฟ์สดกับเจนนี่ รณรงค์ Stroke Fast Track จะมีคนดูเป็นแสนหรือเปล่า”

ภายหลังโพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ ศาสตราจารย์นายแพทย์สมศักดิ์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้สึกชื่นชม “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ที่สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในการสื่อสารกับประชาชนได้อย่างมีพลังและเข้าถึงทุกกลุ่ม โดยมองว่าหากวงการแพทย์ปรับรูปแบบการให้ความรู้ด้านสุขภาพให้มีความร่วมสมัยและเข้าถึงง่ายแบบเดียวกับที่เจนนี่ทำ อาจทำให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลด้านสุขภาพได้อย่างกว้างขวางและเข้าใจง่ายมากขึ้น

“ที่ผ่านมา ผมพยายามรณรงค์ให้ความรู้เรื่องระบบประสาท โดยเฉพาะโครงการ Stroke Fast Track 270 นาทีชีวิต มานานกว่า 16 ปี ใช้สื่อหลากหลายรูปแบบ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ และออนไลน์ แต่ยังพบว่าการเข้าถึงประชาชนไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร แม้หน่วยงานรัฐ หรือ สสส. จะมีการทำแคมเปญประชาสัมพันธ์เรื่องสุขภาพอยู่แล้วก็ตาม แต่เมื่อเห็นปรากฏการณ์ของเจนนี่ที่มีคนดูหลายแสนถึงล้านคนต่อไลฟ์ และสามารถดึงผู้ชมให้อยู่ต่อเนื่อง 18–24 ชั่วโมง ถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ถ้าเรานำเทคนิคแบบนี้มาประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์ในการสื่อสารเรื่องสุขภาพหรือบริการฉุกเฉิน เช่น ทางด่วนโรคหลอดเลือดสมอง หรือทางด่วนโรคหัวใจ ผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนอย่างมหาศาล” ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว

ศาสตราจารย์นายแพทย์สมศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีแพทย์หลายคนใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก หรือ ติ๊กต็อก เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางการแพทย์อยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่จะมียอดผู้ชมเพียงหลักร้อยถึงหลักพันเท่านั้น หากนำเทคนิคการสื่อสารและการดึงดูดผู้ชมแบบที่เจนนี่ใช้มาผสมผสานกับเนื้อหาความรู้ด้านสุขภาพ อาจทำให้การรณรงค์เข้าถึงประชาชนได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น

“ถ้ามีโอกาสได้ร่วมไลฟ์สดกับเจนนี่จริง ๆ ผมยินดีอย่างยิ่ง อยากศึกษาและสัมผัสด้วยตนเองว่า ปรากฏการณ์นี้สามารถนำมาปรับใช้เพื่อให้ความรู้เรื่องสุขภาพได้อย่างไร ถึงแม้ผลลัพธ์อาจไม่ยิ่งใหญ่เท่าเจนนี่ แต่หากทำให้คนไทยตระหนักรู้และเข้าถึงข้อมูลการรักษาได้มากขึ้น ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว”

ศาสตราจารย์นายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ศึกษาแนวทางนี้อย่างจริงจัง ว่าจะสามารถนำ “โมเดลเจนนี่” มาเป็นต้นแบบของการปรับวิธีการสื่อสารสุขภาพให้เข้าถึงประชาชนได้หรือไม่ พร้อมย้ำว่าการให้ความรู้ทางการแพทย์ยุคใหม่ ต้องกระชับ เข้าใจง่าย และมีลูกเล่นแบบเดียวกับการขายของผ่านไลฟ์สด เพื่อสร้าง “ปรากฏการณ์สุขภาพเข้าถึงประชาชน” อย่างแท้จริงในอนาคต

คุณอาจสนใจ

Related News