สังคม
รวบโบรกเกอร์เครือข่าย 'หมอบุญ' หลังถูกจับที่จีน จนท.รับตัวสนามบินสุวรรณภูมิ
โดย passamon_a
8 เม.ย. 2568
43 views
เมื่อวันที่ 7 เม.ย.68 เวลา 22.00 น. ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ พลตำรวจโทสำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวการจับกุมตัว นางสาวฐิติพร ผู้ต้องหาตามหมายจับ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งผู้ต้องหารายนี้เป็นโบรกเกอร์ ในเครือข่ายนายแพทย์บุญ วนาสินธ์ โดยจับกุมตัวได้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ หลังจากผู้ต้องหาหลบหนีไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน
คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญา จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 พบพฤติการณ์ร่วมกันเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ จำนวน 16,000 ล้านบาท ใน 5 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า 4,000 พันล้าน, โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมเเม่น้ำเจ้าพระยา 4,000-5,000 ล้าน, สร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว 3 เเห่ง รวม 2 พันล้านบาท, เข้าร่วมลงทุนโรงพยาบาลในเวียดนาม 4,000-5,000 ล้านบาท เเละ เมดิคอร์ อินเทเลเจนท์ บางละมุง ชลบุรี งบลงทุน 100 ล้าน โดยอ้างว่าหลังระดมทุนแล้วจะมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาบริหารต่อ และมีแผนนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์
พฤติกรรมการหาแหล่งเงินทุนของนายแพทย์บุญ กับพวก จะเป็นลักษณะการไปกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้ มีภรรยาและลูกสาว เป็นผู้ค้ำประกัน เซ็นสลักหลังเช็คทุกฉบับแล้วมอบให้ผู้เสียหาย ช่วงแรกยังมีการชำระดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการจ่ายเงินคืนเลย และเจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีการให้โบรกเกอร์ที่ร่วมขบวนการ ทยอยถอนเงินครั้งละเป็นร้อยล้าน โดยโบรกเกอร์จะได้ดอกเบี้ยและเปอร์เซ็นต์เป็นค่าตอบแทน ทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง มีผู้กล่าวหาและผู้เสียหายกว่า 605 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนและบุคลากรในวงการแพทย์
โดย กองกิจการอำนวยความยุติธรรม ดีเอสไอ ได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมทั้งอายัดทรัพย์ ส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมทั้งดำเนินคดีนายแพทย์บุญ กับพวก รวม 16 ราย ซึ่งจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 13 ราย มีผู้ต้องหา 3 ราย ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ได้แก่ นายแพทย์บุญ, นางสาวกชพร และนางสาวฐิติพร จึงได้แจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (INTERPOL) ออกประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice)
ต่อมา ชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ฐิติพร หลบหนีไปยังนครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงประสานไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งตำรวจนครกวางโจวได้รายงานเมื่อวันที่ 31 มี.ค. ว่าสามารถควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร ได้แล้ว และจะผลักดันตัว น.ส.ฐิติพร กลับมายังประเทศไทย โดยสายการบินไชน่า เซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน CZ361 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วานนี้ เวลา 22.00 น. เมื่อผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ชุดจับกุมจึงเข้าควบคุมตัวและส่งตัวผู้ต้องหาให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการต่อไป
สำหรับ น.ส.ฐิติพร เป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ที่ถูกจับกุมตัว โดยหลังจากดีเอสไอรับตัว น.ส.ฐิติพร แล้ว จะนำตัวไปควบคุมไว้ยังห้องคุมขัง ชั้น 6 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสอบปากคำว่าผู้ต้องหาประสงค์ให้การหรือไม่ให้การอย่างไรหรือไม่ รวมถึงจะได้เเจ้งสิทธิของผู้ต้องหา ในการขอพบทนายความ หรือบุคคลในครอบครัว โดยพนักงานสอบสวนมีอำนาจในการควบคุมตัว 48 ชม. ซึ่งคาดว่าอย่างเร็วที่สุดในวันนี้ (8 เม.ย.) ไม่เกินช่วงเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ดีเอสไอจะได้นำตัว น.ส.ฐิติพร ไปสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการคดีพิเศษ สำนักงานคดีพิเศษ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เพื่อพนักงานอัยการจะได้ดำเนินการส่งฟ้องผู้ต้องหาตามหมายจับต่อศาลอาญา ทั้งนี้ ผู้ต้องหามีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาลได้ แต่การอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่นั้น ถือเป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณา
ในส่วนของนายแพทย์บุญ และ น.ส.กชพร เจ้าหน้าที่ยังคงอยู่ระหว่างติดตามเบาะแสการหลบหนีกบดานในต่างประเทศ ส่วนภรรยาและบุตรสาวของนายแพทย์บุญ ยังคงถูกฝากขังระหว่างพิจารณาคดีอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง กรุงเทพฯ
แท็กที่เกี่ยวข้อง โบรกเกอร์ ,จับโบรกเกอร์ ,เครือข่ายหมอบุญ ,บุญวนาสินธ์