สังคม
เตรียมฝากขัง ค้านประกัน ‘อดีตเมีย-ลูกสาวหมอบุญ’ จ่อออกหมายจับล็อต 2 พุ่งเป้าโบรกเกอร์
โดย thichaphat_d
5 ชั่วโมงที่แล้ว
10 views
ความคืบหน้าการออกหมายจับนายแพทย์บุญ วนาสิน ในข้อหาฉ้อโกง สมคบกันฟอกเงิน โดยตำรวจคุมตัวอดีตภรรยาและลูกสาวของหมอบุญ วนาสิน มาควบคุมตัวที่ สน.พญาไท เมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา
ช่วงบ่ายวานนี้ (24 พ.ย.67) เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งสองคนมาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำลูกสาวของหมอบุญเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงสอบปากคำอดีตภรรยาของนายแพทย์บุญ ที่เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ย.ได้ขอพักและขอรับประทานยาโรคประจำตัวหลายครั้ง จึงต้องพักการสอบสวนไว้ก่อน และได้สอบปากคำเพิ่มเติมในช่วงบ่ายวานนี้ เบื้องต้นทั้งคู่ยังคงให้การภาคเสธ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่ยืนยันว่าได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคดี และเตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ
คดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก แค่เฉพาะในพื้นที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 มีผู้เสียหายแล้วกว่า 247 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาท ยังไม่นับรวมพื้นที่อื่นๆ และในต่างจังหวัด ส่วนนายแพทย์บุญ ที่อดีตภรรยาและลูกให้ข้อมูลว่าอยู่ที่ประเทศจีนนั้น พนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องไปที่กองการต่างประเทศ เพื่อยื่นขอให้ตำรวจสากลออกหมายแดงต่อ โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ สน.พญาไท ว่า ทั้ง 2 คนอยู่ในห้องคุมขัง มีความเครียดเป็นปกติ แต่ด้วยความที่แม่ลูกได้อยู่ด้วยกัน ก็ทำให้คลายกังวลช่วยเหลือกันได้บ้าง และไม่ได้มีการร้องขออะไร ช่วงเช้าวานนี้ ก็มีญาติขอเข้าเยี่ยมด้วย แต่ไม่สะดวกให้ข้อมูลและไม่สะดวกให้สื่อบันทึกภาพ
จากนั้นช่วงเที่ยง คนขับรถที่บ้านของหมอบุญ เดินทางมาที่ สน.พญาไท พร้อมหิ้วถุงใหญ่ 2 ถุง เพื่อขอเข้าเยี่ยมอดีตภรรยา และลูกสาวหมอบุญ เจ้าตัวให้ข้อมูลว่า ทำงานเป็นคนขับรถที่บ้านหมอบุญมา 5 ปี ที่ผ่านมานายจ้างดูแลตนเป็นอย่างดี ทางแม่บ้านฝากกับข้าวใส่ปิ่นโตมาให้นายจ้างทั้ง 2 คน มีข้าวสวย ผัดกะเพรา และน้ำเปล่าขวดเล็ก 2 ขวด และไม่มียารักษาโรค ไม่มีเอกสารสำคัญใดๆ แต่เท่าที่ทราบทั้งคู่ ก็ไม่ได้ร้องขออะไรมาเป็นพิเศษ รวมถึงไม่ได้ร้องขอเรื่องเอกสารสำคัญ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง จะดำเนินการฝากขังผู้ต้องหาภรรยาและลูกของหมอบุญ ภายในวันนี้ (25 พ.ย.) โดยพนักงานสอบสวนมีความเห็นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากป้องกันการเข้ามายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และมีลักษณะความผิดเข้าข่ายกระทำความผิดเป็นขบวนการ ผู้เสียหายจะเข้ามายื่นเรื่องคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาดังกล่าวในวันนี้ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังพบว่าคดีฉ้อโกงของหมอบุญ มีอีกคดีที่ผู้เสียหาย 12 คน ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรณีหลอกลงทุนในโครงการต่างๆ มูลค่าความเสียหาย 1,900 ล้านบาท ซึ่ง บก.ปอศ. พิจารณาแล้วเห็นว่า มีผู้เสียหายจำนวนมากและความเสียหายสูง ทางพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. จึงเร่งรวบรวมสำนวนคดี และพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอในสัปดาห์หน้า พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ ส่วนคดีของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่มีผู้เสียหาย 247 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 7,600 ล้านบาทนั้น ก็มีรายงานว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสั่งให้โอนสำนวนไปที่ดีเอสไอ เพื่อรวมเป็นคดีเดียวกันเช่นกัน
ด้านพันตำรวจตรีวรนันท์ ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นยังดีเอสไอยังไม่ได้รับสำนวนคดีของหมอบุญไว้เป็นคดีพิเศษ แต่หากทางตำรวจส่งสำนวนมาแล้ว ก็ต้องนำสำนวนดังกล่าวยื่นต่อคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ กคพ. พิจารณาในรายละเอียดและพฤติการณ์ ว่าจะเข้าข่ายความผิดในคดีพิเศษหรือไม่
ส่วนการออกหมายจับล็อต 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะมุ่งเป้าไปที่เหล่าบรรดาโบรกเกอร์ ที่ชักชวนผู้เสียหายร่วมลงทุน หรือกู้เงิน เพราะจากการสืบสวนพบว่า ผู้เสียหายส่วนใหญ่จะหลงเชื่อโบรกเกอร์มากกว่า เพราะเป็นตัวแทนในการลงทุนซื้อขายหุ้นกันมาเป็นเวลานาน และถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในเปอร์เซ็นต์ หรือส่วนแบ่งจากการลงทุนกับหมอบุญ จึงต้องมีส่วนรับผิดชอบในคดีดังกล่าว ส่วนจะมีจำนวนเท่าใด อยู่กับจำนวนของผู้เสียหายที่เข้ามาแจ้งความ และให้การพาดพิงไปถึงโบรกเกอร์ที่ชักชวน
ด้านสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่า นายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยผ่านการทำสัญญากู้ยืมเงินนั้น สำนักงาน ก.ล.ต. ได้ติดตามข่าวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนายแพทย์บุญ เป็นอดีตประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (THG)
โดยในเบื้องต้นจากข้อมูลที่ปรากฏตามข่าวพบว่า นายแพทย์บุญ ได้กระทำในนามส่วนตัวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ THG จึงอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งยังไม่เข้าข่ายการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ที่มุ่งเน้นการทุจริตฉ้อโกงในบริษัทที่ออกเสนอขายหลักทรัพย์กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. จะติดตามกรณีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยหากพบการกระทำที่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ก็จะเร่งดำเนินการและประสานงานกับพนักงานสอบสวนต่อไป
สำหรับกรณีบริษัท THG ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 เกี่ยวกับการตรวจพบรายการอันควรสงสัยของบริษัทย่อยของ THG ในการทำรายการให้กู้ยืมเงินให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มครอบครัววนาสิน รวมทั้งการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งในประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่ได้รับมอบสินค้าจริงนั้น ก.ล.ต. ได้ดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการกระทำที่อาจเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ โดยปัจจุบันมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ทั้งนี้ ในปัจจุบันนายแพทย์บุญไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2565 ก.ล.ต. ได้ขอให้พนักงานอัยการฟ้องนายแพทย์บุญ ต่อศาลแพ่ง กรณีเผยแพร่ข้อความที่อาจก่อให้เกิดความสำคัญผิดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานและราคา THG เพื่อขอให้กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง และกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/N0nFSD5af-U
แท็กที่เกี่ยวข้อง หมอบุญ ,บุญวนาสิน ,ฉ้อโกง ,ออกหมายจับ ,โบรกเกอร์