สังคม
หนุ่มเตือนภัย โจรอาศัยช่วงเวลาหน่วงล็อกรถอัตโนมัติ แอบเปิดประตูก่อนค้นรถหวังขโมยทรัพย์สิน
โดย nutda_t
1 ธ.ค. 2567
621 views
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น Part 6 โพสต์เรื่องราวของชายหนุ่มรายหนึ่ง แชร์ประสบการณ์ หลังจอดรถที่ศูนย์การค้าฯแห่งหนึ่งในย่านบางใหญ่ แล้วถูกค้นรถโดยไม่รู้ตัว โชคดีที่ไม่มีทรัพย์สินสูญหาย
เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อชายผู้เสียหายจอดรถ และคิดว่ารถล็อกอัตโนมัติเหมือนทุกครั้ง แต่มีคนร้ายอาศัยช่วงเวลาหน่วงก่อนล็อก ทำการสะกิดเปิดประตูหลังไว้ เมื่อกลับมาที่รถ เขาพบขวดน้ำแปลกปลอมบนเบาะ จึงเอะใจและตรวจสอบกล้องในรถ Tesla ซึ่งบันทึกภาพการค้นรถไว้ทั้งหมด
จากคลิปพบว่าคนร้ายทำทีคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา และอาจมีทีมงานช่วยระวังหน้า-หลัง ลักษณะทำเป็นขบวนการ แต่ทรัพย์สินสำคัญ เช่น MacBook และของมีค่าอื่นๆ ไม่ได้ถูกขโมยไป คาดว่าคนร้ายค้นไม่ละเอียด
ผู้เสียหายได้แจ้งเหตุให้ทางศูนย์การค้าฯและหน่วยรักษาความปลอดภัยทราบ พร้อมฝากเตือนผู้ขับขี่ทุกคนให้ระมัดระวังและตรวจสอบการล็อกรถทุกครั้ง พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า “จากนี้ผมคงต้องเช็กให้มั่นใจว่ารถล็อกทุกครั้งที่จอด ขอฝากเตือนทุกคนให้ระวังภัยในลักษณะนี้ด้วยครับ”
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นายอรรณพ อายุ 30 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 67 เวลาประมาณ 18.30 น. ตนขับรถมาทานข้าวกับคุณแม่ ในศูนย์การค้าฯแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ ซึ่งรถยนต์ Tesla ของตนเป็นระบบล็อกอัตโนมัติ ระหว่างนั้นมีคนเดินสวนทางกับตน ออกมาจากศูนย์การค้าฯ ไม่แน่ใจว่าจะทำอะไรกับรถ เพราะตนไม่ได้สังเกตและไม่ทันระวังตัว เท่าที่ดูจากกล้องในรถ เห็นคนร้ายเดินอ้อมตัวรถและกดเปิดประตูด้านหลัง เพื่อไม่ให้ประตูรถล็อก และเดินหายไป 4-5 นาที ก่อนจะเดินกลับมา แล้วเปิดประตูด้านหลังฝั่งคนขับ เข้าไปค้นรถของตน ซึ่งในนั้นมี MacBook ราคา 4 หมื่นกว่าบาท วางอยู่ 1 เครื่อง แต่คาดว่าคนร้ายคงไม่ทันเห็น จึงย้ายมาค้นคอนโซลตรงกลางรถ คาดว่าคงมีของมีค่า
จากนั้นคนร้ายได้เผลอไปปิดประตูรถ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปในรถได้ ทำให้ขวดน้ำดื่มที่ถือมาด้วยเผลอวางไว้ที่เบาะของคนขับ จากนั้นเดินหายไป หากตนไม่เห็นขวดน้ำดื่มที่คนร้ายว่าทิ้งไว้ ก็ไม่รู้เลยว่ารถตนถูกโจรกรรม จากนั้นตนจึงแจ้งทางรปภ.ของศูนย์การค้าฯทราบ และดูวงจรปิดว่าคนร้ายรายนี้ได้ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับรถลูกค้าคันอื่นหรือไม่ เพราะดูจากลักษณะแล้วน่าจะทำเป็นกระบวนการ คนร้ายมีการถือโทรศัพท์มือถือและพูดคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา คาดว่าคงมีคนช่วยดูต้นทางให้และร่วมก่อเหตุด้วย อาจจะไม่ใช่รถของตนคันเดียวที่โดน ตนจึงอยากเตือนภัยให้กับทางศูนย์การค้าฯทราบด้วยว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
จากที่ตนดูในกล้องของรถ จับภาพคนร้ายลักษณะเป็นวัยรุ่น สวมหมวก และใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า ดูตั้งใจมาก่อเหตุ ใส่เสื้อผ้ามียี่ห้อและแต่งตัวดี น่าจะมีทักษะความรู้เรื่องรถ เพราะรถยนต์รุ่นใหม่จะมีระบบ Walk Away Lock รถจะล็อกให้อัตโนมัติ เมื่อเดินห่างจากตัวรถ เดินเข้าไปใกล้หรือจับตัวรถก็จะเปิดให้อัตโนมัติ ตนดูว่าคนร้ายน่าจะมีความเชี่ยวชาญ หากเจ้าของรถไม่ทันระวังตัว ก็จะทำให้เป็นช่องว่างที่คนร้ายสามารถมาก่อเหตุได้ ตนคิดว่าคนร้ายเลือกจากยี่ห้อรถ เลือกประเภทรถในการก่อเหตุ จึงได้ออกมาโพสต์คลิปเตือนภัยกับทุกคน อยากให้ทุกคนระวังตัวมากขึ้น สมัยนี้เทคโนโลยีพัฒนาเพิ่มมากขึ้น คนร้ายก็พัฒนาทักษะในการก่อเหตุมากยิ่งขึ้นเช่นเดียวกัน โชคดีที่ตนได้ที่จอดที่ติดกับทางเข้า-ออก และคนพลุกพล่านมาก ทำให้คนร้ายต้องรีบใช้เวลาในการก่อเหตุ ทำให้ระแวงและไม่สามารถได้ทรัพย์สินมีค่าไป
หลังจากที่ตนได้โพสต์เตือนภัยตามโซเชียลต่างๆ มีหลายคอมเมนต์เข้ามาพูดคุยว่าหลายๆคนไม่ทันได้ระวังตัวกับเรื่องนี้ ซึ่งตนก็คิดไปไกลว่าหากคนร้ายยังอยู่ในรถและจี้ตน อาจจะทำให้สูญเสียมากกว่านี้ จึงอยากออกมาเตือนภัยเพื่อให้ทุกคนระมัดระวังตัวมากขึ้น และเรื่องนี่ตนอยากทราบว่าหากทรัพย์สินของตนไม่ได้หายไป จะสามารถแจ้งความเอาผิดกับคนร้ายรายนี้ได้หรือไม่ หากเอาผิดได้ ตนก็จะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป เพราะไม่อยากให้มีเหยื่อรายต่อไปอีก
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามคดีความกับ พ.ต.อ.รณภัฎ ทับทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ เปิดเผยว่า แม้ว่าผู้ร้องเรียนจะไม่ได้สูญเสียทรัพย์สิน แต่จากการตรวจสอบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในตัวรถยนต์ เบื้องต้นถือว่าการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิดฐานพยายามลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจ แนะนำให้ผู้ร้องเรียนเดินทางมายัง สภ.บางใหญ่ เพื่อแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย เนื่องจากหลักฐานแสดงให้เห็นถึงเจตนาที่จะกระทำการลักทรัพย์
แท็กที่เกี่ยวข้อง ขโมยทรัพย์สิน ,ค้นรถ