ผบช.ภาค 5 คุมตัวหนุ่มชิงทอง 70 บาท ทำแผน พบพฤติกรรมเลียนแบบเกม

พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำทีมคุมตัว นายนิพิฐพนธ์ อายุ 26 ปี คนร้ายชิงทองน้ำหนักประมาณ 70 บาท มูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท บนห้างดังกลางเมืองเชียงใหม่ ไปชี้จุดฆ่า ว่าที่ร้อยโทสุเทพ อายุ 48 ปี ก่อนชิงรถยนต์ซึ่งเรียกผ่านแอปพลิเคชัน แล้วทิ้งศพหมกป่าดอยสุเทพ พบวางแผนก่อเหตุมาเป็นอย่างดีทุกขั้นตอน ตั้งแต่เอารถไปจอดทิ้ งแล้วเรียกเรียกรถผ่านแอปฯ มารับ ก่อนลงมือฆ่าคนขับรถและทิ้งศพ แล้วนำรถไปใช้ชิงทองและหลบหนี ขณะเดียวกันพบว่า ผู้ต้องหาติดเกมประเภทใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะวางแผนต่อสู้และฆ่าฟันกัน เชื่อส่วนหนึ่งได้จากพฤติกรรมเลียบแบบเกม

โดยก่อนก่อเหตุมีการวางแผน ทั้งการไปดูร้านทองเป้าหมายหลายวันต่อเนื่อง มีการวางแผนเส้นทางหลบหนี หาอุปกรณ์และเครื่องมือในการก่อเหตุ มีการซื้อปืนเตรียมไว้ วางแผนเรื่องของขั้นตอนการหารถเพื่อใช้หลบหนี ศึกษาและสำรวจเส้นทางเดินป่าของดอยสุเทพ เพื่ออำพรางศพ โดยเริ่มก่อเหตุเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 ก.ค. ขับรถเก๋งส่วนตัวไปจอดไว้ที่เส้นทางเดินป่าใกล้อ่างเก็บน้ำกาแล แล้วเดินเท้าเข้าป่าใช้เส้นทางที่จะเดินป่าลัดมาออกที่วัดผาลาด และเดินออกมายังถนนห้วยแก้ว-ดอยสุเทพ ไปยังน้ำตกผาลาด ซึ่งอยู่ริมถนน หลังจากนั้นสุ่มเรียกรถโดยสารผ่านแอปพลิเคชันหนึ่งเพื่อให้ขึ้นมารับ ก่อนจะชักปืนที่เตรียมไว้จ่อยิงที่ท้ายทอยทันที

หลังจากนั้นลากศพของผู้ตายมาไว้ด้านหลัง และเปลี่ยนไปขับรถลงจากจุดที่เรียกรถไปไม่ไกล และช่วงที่ก่อเหตุนั้นยังเป็นช่วงเช้ามืด ยังไม่ค่อยมีคนใช้ถนนผ่านไปมา หลังจากนั้นนำรถมาจอดที่ศาลาที่พักริมทาง ช่วงก่อนที่จะขึ้นมาถึงวัดผาลาดด้านหลังศาลาเป็นป่ารกและลาดชัน หลังจากนั้นก็ลากศพลงไปทิ้งอำพรางในป่า ห่างจากศาลาลงไปประมาณ 50 เมตร ก่อนที่จะใช้รถของผู้ตายขับออกไป และเปลี่ยนเป็นชุดของไรเดอร์ และปิดบังอำพรางใบหน้า ขับรถไปที่ห้างเข้าไปก่อเหตุในช่วงเวลาประมาณ 11.30 น. ซึ่งช่วงเปิดจะยังไม่มีคนเข้าไปใช้บริการมากนัก

หลังจากก่อเหตุ ได้นำรถของผู้ตายขับขึ้นดอยสุเทพอีกครั้ง และนำมาจอดทิ้งไว้บริเวณจุดที่เคยเรียกรถให้มารับ และเดินกลับเข้ามาตามเส้นทางป่า เพื่อลงมาเอารถของตนเองที่กาแล ก่อนที่จะขับกลับเข้ามาในเมือง เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อหลืองแขนยาว เปิดหน้า สวมแว่นสายตา และตระเวนนำทองไปเดินขายตามร้านทองย่านตลาดวโรรส แต่ไม่มีร้านไหนรับซื้อ เนื่องจากทองทุกเส้นมีสัญลักษณ์ของห้างทองที่ถูกชิงทอง และมีการแจ้งข่าวกันในกลุ่มร้านทอง จึงได้ขับรถไปยังพื้นที่ อ.สันกำแพง เพื่อขายทอง 1 เส้นหนัก 2 บาท และไปขายร้านทองที่อำเภอดอยสะเก็ดอีก 1 เส้น หนัก 2 บาท ก่อนที่จะกลับบ้านพักในอำเภอดอยสะเก็ด และตำรวจแกะรอยติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักในที่สุด พร้อมของกลางทองที่เหลืออีก 70 บาท

ด้าน พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนและลักษณะการก่อเหตุแล้ว เชื่อว่าคนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี เนื่องจากตามประวัติพบว่าคนร้ายเป็นเด็กติดเกม ชื่นชอบการเล่นเกมวางแผนและใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะวางแผนต่อสู้และฆ่าฟันกัน เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบในการวางแผนก่อเหตุเป็นขั้นเป็นตอน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้น คาดว่ามาจากปัญหาทางการเงิน เพราะไม่ได้ทำงาน หรือประกอบอาชีพใดๆ อย่างไรก็ตามจะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด