สังคม

ศาลอาญาฯ ยกคำร้อง "ดร.พิรงรอง" หลังทรูไอดี ยื่นฟ้องปฏิบัติไม่เป็นธรรม

โดย nutda_t

14 พ.ค. 2567

740 views

ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำสั่งคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ คดี 147/2566 ตามที่บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวหาว่า ดร.พิรงรอง ในฐานะกรรมการ กสทช. และคณะอนุกรรมการด้านกิจการโทรทัศน์ ดำเนินการให้สำนักงานฯ ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์และวิทยุ 127 แห่งให้ตรวจสอบการแพร่เสียงแพร่ภาพผ่านการให้บริการกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (Internet TV Box) และแอปพลิเคชัน True ID เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้บริการ ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดว่าโจทก์กระทำผิดกฎหมาย จนอาจถูกระงับเนื้อหารายการ ที่ได้ส่งไปออกอากาศ และโจทก์เห็นว่าการกระทำดังกล่าว มีพฤติการณ์ หรือเหตุที่มีสภาพร้ายแรงที่แสดงถึงความมีอคติและความไม่เป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่

ผลการพิจารณาของศาลยกคำร้อง เพราะเห็นว่าพฤติกรรมไม่ได้เป็นไปตามคำร้อง ถือเป็นโอกาสดีที่ กรรมการ กสทช. ยังคงได้ขับเคลื่อนภารกิจสำคัญโดยเฉพาะงานด้านโทรทัศน์ และการพัฒนาสื่อคุณภาพให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีต่อไป โดยงานสำคัญที่อยู่ภายใต้การดูแลของ ดร.พิรงรอง ประกอบด้วย

การจัดทำ (ร่าง) ประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การสนับสนุนการผลิตรายการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ที่รวมถึงการส่งเสริมการผลิตคอนเทนต์พิเศษสำหรับเด็ก คนดูทุกกลุ่ม และผลิตคอนเทนต์สนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์


การกำหนดทิศทางและก้าวต่อไปของโทรทัศน์ภาคพื้นดินหรือทีวีดิจิทัล ที่สิ้นสุดใบอนุญาต มีการบ้านที่ต้องพิจารณาต่อไปหลายข้อว่ามีการประมูลต่อไปหรือจะกำหนดอนาคตทีวีดิจิทัล กสทช. กำลังศึกษาและสังเคราะห์ฉากทัศน์ในอนาคตของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ทางเลือกในเชิงนโยบายในการให้อนุญาตและการกำกับดูแล เพื่อเสนอทางเลือกรองรับการสิ้นสุดใบอนุญาต

การศึกษาและกำหนดแนวทางรองรับการผลักดันต้นแบบแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งระดับชาติ เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์สามารถแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล National Steaming Platform ที่อยู่ระวางการวางรูปแบบ และทางเลือก ในการเข้าถึงกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล การประมาณการต้นทุนของแต่ละทางเลือก

การกำหนดกระบวนการ (ทดลอง) และให้อนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ชุมชนสำหรับประเทศไทย (Roadmap ทีวีชุมชนต้นแบบ) รวมทั้งมีการจัดทำมาตรการส่งเสริมผู้ให้บริการทีวีชุมชน

การทดลองทดสอบการนำเทคโนโลยี UHD (4K) ไปใช้งานในกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินและกิจการทางเลือกอื่น  และการพัฒนาหลักเกณฑ์และกลไกในการกำกับดูแลกิจการโทรทัศน์ไทยให้สอดคล้องกับระบบนิเวศของอุตสาหกรรมและการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป โดยลดการกำกับดูแลโทรทัศน์แบบดั้งเดิม เพิ่มการกำกับแพลตฟอร์ม

การกำหนดขอบเขตการโฆษณาให้ชัดเจนและพัฒนากลไกการกำกับโฆษณา (Self-regulation) การบังคับใช้ประกาศออนไลแพลตฟอร์ม/รวมกลุ่ม/ส่งเสริมบริการชุมชน/ส่งเสริมผลิตรายการ

การปรับปรุงประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (Must Carry)

การจัดให้มีการจดแจ้งขององค์กรวิชาชีพที่มีการรวมกลุ่มเพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลกันเองภายใต้มาตรฐานทางจริยธรรมของสื่อ (ประกาศรวมกลุ่ม)

งานส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในกิจการฯ โดยเฉพาะในบทบาทผู้ประกาศข่าว ผู้รายงานข่าว ผู้ดำเนินรายการ อย่างเป็นมืออาชีพ มีความเป็นกลาง และมีจิตสำนึกรับผิดชอบ โดยสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้ประกอบวิชาชีพและเครือข่ายผู้ชมผู้ฟัง

การดำเนินมาตรการตามแผน USO การส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ประสาสความร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคทำศูนย์ USO กับ กสทช. และ มูลนิธิต่างๆ เช่น มูลนิธิอินเทอร์เน็ตร่วมพัฒนาไทย มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี

ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์และการใช้สื่อเพื่อการยอมรับความหลากหลายและเข้าใจบริบททางสังคมและการอยู่ร่วมกัน (Diversity and Inclusion) และส่งเสริมคนพิการและผู้ด้อยโอกาสให้สามารถเข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้เพิ่มมากขึ้น

การสำรวจระดับการเข้าถึง รับรู้ และใช้ประโยชน์จากข้อมูลข่าวสาร อย่างรู้เท่าทันของประชาชน และเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไปของคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส รวมถึงผู้ที่มีความหลากหลายในด้านสังคมและวัฒนธรรมด้วย ไม่ใช่เพียงทางด้านกายภาพ

ยังมีงานที่กำลังเดินสาย สร้างความร่วมมือเพื่อ online safety, literacy and competency สำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็กและเยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้อยู่ห่างไกล ผู้ด้อยโอกาสในเมือง  การจะสร้างเกณฑ์ให้ยุติธรรม เป็นที่ยอมรับ การทำระบบการตัดสินตามเกณฑ์ จะใช้คน บวกกับ AI ตรวจจับ การจะดึงภาคีเข้ามาร่วม เช่น ธุรกิจห้างร้าน เอเจนซี่โฆษณา ในการพัฒนาไปสู่การทำสื่อโฆษณาที่ดีเพื่อสังคม

หากคำสั่งศาลมีคำสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ย่อมทำให้งานในการสร้างสรรค์สื่อที่มีคุณภาพ รวมถึงงานด้านการกำกับกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ ที่มีเรื่องต้องตัดสินใจและขับเคลื่อนเรื่องสำคัญที่เป็นประโยชน์อาจจะชนะงาน แน่นอนว่าด้วยกระบวนการการทำงานของสำนักงาน กสทช. สามารถขับเคลื่อนเรื่องสำคัญต่างๆต่อเนื่องไปได้ แต่หากไม่มีผู้เป็นกำลังสำคัญในการกำหนดยุทธศาสตร์การขับเคลื่อน ย่อมทำให้งานที่ควรจะพัฒนาไปต้องขาดกำลังส่งในการขับเคลื่อนทำให้บรรลุตามเป้าหมายไม่ได้เต็มที่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ดร.พิรงรอง รามสูต ,ทรูไอดี

คุณอาจสนใจ

Related News