‘พิรงรอง’ ขอบคุณทุกกำลังใจ อุบตอบ ถูกล็อบบี้ให้ลาออก แลกถอนฟ้องคดี

ศาลอาญาทุจริตฯ พิพากษา “พิรงรอง” มีความผิด ม.157 จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ปมทรูไอดียื่นฟ้อง ออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล มีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออกทางทรูไอดี ผิดกฎ “Must Carry” ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้

ภายหลังศาลมีคำพิพากษาจำคุก 2 ปีไม่รอลงอาญา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อ.พิรงรอง ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์  โดยศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้ประกันระหว่างอุทธรณ์ ตีราคา 120,000 บาท โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล

หลังจากได้ประกัน อ.พิรงรอง เดินออกจากศาล  นักข่าวพยายามเข้าไปสอบถาม เจ้าตัวยิ้มแย้ม แต่ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ เพียงยกมือไหว้สื่อมวลชน บอกว่า “ขอบคุณที่มาทำข่าว ซึ่งถือเป็นกำลังใจอย่างดี”

เมื่อนักข่าวพยายามสอบถามถึงบทบาทการทำหน้าที่ กสทช. จากนี้จะเป็นอย่างไรต่อนั้น รวมทั้งสอบถาม ถึงประเด็นที่มีคนใน ของ กสทช. ล็อบบี้ ให้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแลกถอนฟ้องก่อนการอ่านคำพิพากษา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรนั้น อาจารย์พิรงรอง ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแค่ยิ้ม และยกมือไหว้ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ  ก่อนขึ้นรถกลับในทันที

ขณะเดียวกันยังพบว่ากลุ่มสภาองค์กรผู้บริโภคนำโดย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค และคณะฯ เดินทางมาให้กำลังใจอาจารย์พิรงรองที่ศาลฯด้วย  พร้อมกับยืนชูป้ายข้อความ ระบุว่า “ให้กำลังใจอาจารย์พิรงรอง บอร์ด กสทช. โดนทรูไอดีฟ้องร้อง คุ้มครองผู้บริโภคแต่โดนคดี ฯลฯ

จากนั้น น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากฟังคำพิพากษา ระบุว่า ตนรู้สึกผิดหวังในคำพิพากษา คิดว่าคำพิพากษาจะเป็นประโยชน์กับอ.พิรงรอง ซึ่งเป็นการพิพากษาครั้งแรกแต่กลับไม่รอลงอาญาฯ แต่ก็เคารพคำพิพากษาของศาล ว่าไปตามกระบวนการ

คุณสารี บอกว่า ส่วนตัวคิดว่าตอนนี้คนใน กสทช. คงหวาดกลัวในการออกมาคุ้มครองผู้บริโภค อาจจะคิดกันว่ารักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภคแล้วจะได้อะไร ถ้าสุดท้ายจะถูกฟ้องคดีและมีคำพิพากษาจำคุกเช่นนี้

ส่วนคำว่า “ล้มยักษ์” ที่ผู้พิพากษาพูดให้ห้องพิพากษา น.ส.สารี อ๋อง บอกว่า ต้องรอดูในคำพิพากษา ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้

คุณสารี กล่าวต่อว่า ตามจริงแล้ว กสทช. มี มาตรา 27 พูดไว้ชัดว่า สำนักงาน กสทช. มีหน้าที่ลงโทษ และบังคับใช้กฎหมาย หากมีการละเมิดจดทะเบียน กสทช. สามารถออกคำสั่งหรือเพิกถอนใบอนุญาตได้ ในการต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่ทราบว่าทางอ.พิรงรองได้นำกฎหมายตัวนี้มาใช้หรือไม่ ซึ่ง กสทช.มีหน้าที่คุ้มครอง และพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคโดยตรง ขอให้อ.พิรงรองต่อสู้คดีและทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคอย่างเข้มข้น และผู้บริโภคจะคุ้มครองอาจารย์เองในท้ายที่สุด และส่งกำลังใจให้อาจารย์ในการสู้คดี

ต่อจากนี้สภาองค์กรผู้บริโภคจะสำรวจรอบด้าน ว่ากิจการ OTT เขาปฏิบัติกันอย่างไร ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างไร ซึ่งเป็นหน้าที่สภาองค์กรของผู้บริโภค โดยตรง ถ้าไม่ชอบโฆษณาก็ต้องให้ผู้บริโภคพิจารณาเอาเอง

อีกประเด็นที่หลายคนพูดถึงและจับตามองอย่างมาก เนื่องจากว่าช่วงเช้าวานนี้ก่อนศาลอ่านคำพิพากษา เพจ “สภาองค์กรของผู้บริโภค” โพสต์ข้อความนระบุว่า “ทราบว่า มี กสทช. เจรจากับอาจารย์พิรงรอง ให้ลาอกแล้วจะถอนฟ้องทุกคดี”  ซึ่งในภายหลังได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกไป

ประเด็นนี้ คุณสารี อ๋อง ได้แฉว่า เมื่อวันก่อน ซึ่งเป็นวันก่อนมีคำพิพากษา  มีคนบางกลุ่มล็อบบี้ บอกให้ อ.พิรงรอง ลาออกจาก กสทช.เพื่อป้องกันการฟ้องคดี   เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าบุคคลนั้นคือใคร เป็นคนนอกหรือคนในขององค์กร คุณสารี บอกว่า “ไม่อยากจะบอก เพราะกลัวถูกคดี เพราะคณะกรรมการที่อยู่ใน กสทช.หลายคนก็ถูกฟ้องร้องกันหลายคน แต่ใบ้ให้ว่า "คนในองค์กรมีทั้งหมด 7 คน ก็ลองไปหาดู เชื่อว่านักข่าวเก่งอยู่แล้ว"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/z0VdGLiIVKo