สังคม
จับตาศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดพิพากษา กสทช. “พิรงรอง” ปมออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัลแทรกโฆษณา
โดย nicharee_m
4 ก.พ. 2568
443 views
“มูลนิธิผู้บริโภค” เผยศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดพิพากษาคดี กสทช. “พิรงรอง” 6 ก.พ.นี้ หลังทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ปมออกหนังสือเตือนทีวีดิจิทัล แจ้งว่ามีโฆษณาแทรกในสัญญาณที่นำไปออก ผิดกฎ Must Carry ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้ ชี้ถ้าศาลไม่ให้ประกันตัวแม้เพียงวันเดียว พิรงรอง หลุด กสทช.ทันที เผยก่อนหน้า ทรูดิจิทัลฯ เคยร้องขอให้ศาลสั่งให้ พิรงรอง ยุติการปฏิบัติหน้าที่มาแล้ว
จากกรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ในคดีที่บริษัท ทรูดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด ฟ้องศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรทัศน์ ซึ่งกลุ่มนักวิชาการและผู้บริโภค เห็นว่าเป็นคดีตัวอย่างที่ ‘กสทช.’ ทำหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภคแต่ถูกฟ้องร้อง สืบเนื่องจากที่มีผู้บริโภคร้องเรียนมาที่สำนักงาน กสทช. ในปี 2566 หลังจากพบว่าบนแพลตฟอร์มของแอปพลิเคชันทรูไอดี มีการโฆษณาแทรกในช่องทีวีดิจิทัลของผู้ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งบริษัททรูดิจิทัล กรุ๊ป ในฐานะผู้ให้บริการแอปฯ ทรูไอดี ได้นำสัญญาณมาถ่ายทอดในแพลตฟอร์มของตนเอง
ต่อมา คณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ ได้พิจารณาและเสนอความเห็นในเรื่องดังกล่าว และสำนักงาน กสทช. ได้ออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ให้ตรวจสอบว่า มีการนำช่องรายการที่ได้รับอนุญาตไปออกอากาศผ่านโครงข่ายใดหรือนำไปแพร่ภาพในแพลตฟอร์มใด และให้ปฏิบัติตามประกาศ กสทช.และเงื่อนไขแนบท้ายใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด ตามหลัก “มัสแครี่” (Must Carry) ที่มีโฆษณาแทรกไม่ได้
แม้หนังสือดังกล่าว ไม่ได้ส่งตรงไปยังบริษัททรูดิจิทัลฯ เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้ได้รับใบอนุญาต และไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. แต่บริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่า การออกหนังสือดังกล่าวทำให้ตนเองเสียหาย จึงนำมาซึ่งการฟ้องร้อง กสทช.พิรงรอง รามสูต
ในคำร้องของบริษัททรูดิจิทัลฯ อ้างว่า หนังสือดังกล่าวเป็นเหตุที่ทำให้ตนเองได้รับความเสียหาย เนื่องจากผู้รับใบอนุญาตประเภทช่องรายการโทรทัศน์ อาจทำการระงับการเผยแพร่รายการต่างๆ ผ่านทางแพลตฟอร์มของตน โดยในคำร้องได้อ้างว่าทางสำนักงาน กสทช. ยังไม่มีระเบียบเฉพาะในการกำกับดูแลกิจการ OTT (Over-The-Top หรือ การให้บริการสตรีมเนื้อหาผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต)
อย่างไรก็ตาม กสทช. พิรงรอง ยืนยันว่า การออกหนังสือของสำนักงาน กสทช. เป็นการทำตามหน้าที่คุ้มครองผู้บริโภค ที่ได้รับผลกระทบจากการ ‘แทรกโฆษณา’ ในบนแพลตฟอร์มทรูไอดีในการรับชมเนื้อหาตามประกาศมัสต์ แครี่ และดูแลลิขสิทธิ์เนื้อหาของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัล เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เสรีและเป็นธรรม ซึ่งการตรวจสอบของ กสทช. จนนำไปสู่การออกหนังสือดังกล่าว มาจากการร้องเรียนของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากการแทรกโฆษณาบนกล่องทรูไอดี ทั้งนี้ ไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ประกอบกิจการรายหนึ่งรายใดเป็นพิเศษ
เป็นที่สังเกตได้ว่า หนังสือดังกล่าวที่ออกโดยสำนักงาน กสทช. มิใช่คำสั่งทางปกครอง จึงไม่มีผลบังคับใช้ตามกฏหมาย อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้รับหนังสือข้างต้นและจะปฏิบัติตามประกาศ กสทช. ในประเด็น ‘มัสแครี่’ อย่างเคร่งครัดหรือไม่ ก็ยังไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย และผู้ได้รับใบอนุญาตมีสิทธิที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อรายการที่อยู่ภายใต้การประกอบการของตน
ทั้งนี้ คำพิพากษาของศาลในวันที่ 6 ก.พ.นี้ หาก กสทช.พิรงรอง ถูกตัดสินว่ามีความผิดและไม่ได้รับสิทธิให้ประกันตัว ระหว่างรอการอนุมัติการอุทธรณ์ จะต้องสิ้นสภาพการเป็น กสทช.ทันที
อนึ่ง ผู้ที่กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษคุกตั้งแต่ 1 – 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนคุณสมบัติของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 มาตรา 7 (6) และ (7) กำหนดลักษณะต้องห้ามของกรรมการ กสทช.ว่า เป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกและถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล หรือ เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
ทั้งนี้ ในเดือน เมษายน 2567 บริษัททรูดิจิทัลฯ ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ ‘กสทช.พิรงรอง’ ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการ กสทช. และ ประธานอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ไว้ชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีนี้ แต่ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2567 ศาลยกคำร้องดังกล่าว โดยพิจารณาว่าจำเลยไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า เป็นปฏิปักษ์ ขัดขวาง หรือกลั่นแกล้งการประกอบธุรกิจของโจทก์ตามที่กล่าวอ้าง
แท็กที่เกี่ยวข้อง มูลนิธิผู้บริโภค ,ดร.พิรงรอง รามสูต ,กสทช.พิรงรอง