เลือกตั้งและการเมือง

‘ศิริกัญญา’ มองคดี ‘พิรงรอง’ เข้าข่ายฟ้องปิดปาก – ‘ธนาธร’ โพสต์หนุน ไม่หวั่นนายทุน ปกป้องผลประโยชน์ปชช.

โดย petchpawee_k

7 ก.พ. 2568

53 views

“ศิริกัญญา” ชี้ คดี “พิรงรอง” เป็นการฟ้องปิดปากสร้างความหวาดกลัวเจ้าหน้าที่รัฐ เผย ไม่ใช่แค่คนใน กสทช. แต่เป็นคนในกระบวนการยุติธรรมต่อรองลาออกแลกถอนฟ้องคดี ไม่อยากเชื่อคำพิพากษาเป็นไปตามข่าวลือ ขอบอร์ด กสทช. ยืนหยัดทำหน้าที่บนหลักการที่ถูกต้อง

วานนี้ (6 ก.พ.68) นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษา จำคุก 2 ปี นางพิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ว่า จากข้อมูลที่รับทราบจากเอกสารข่าวจากทางศาลยังไม่มีรายละเอียดครบถ้วน ต้องรอฟังข้อมูลจากนางพิรงรองว่าข้อต่อสู้เป็นอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้กลไกตรวจสอบถ่วงดุลสั่นสะเทือน เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐในฐานะกำกับดูแลถูกฟ้องฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ แต่สิ่งที่ต้องพิจารณาจริงๆ คือเจตนาว่าต้องการคุ้มครองผลประโยชน์ของผู้บริโภคหรือไม่


จึงอยากเรียกร้องว่าควรมีการแก้กฎหมายเพื่อสร้างกลไกคุ้มครองการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐโดยเฉพาะหน่วยที่ทำหน้าที่กำกับดูแลไม่ใช่เฉพาะ กสทช. แต่ยังมีหน่วยงานที่กำหับดูแลอีกมากมายที่กำลังอกสั่นขวัญแขวนไม่ว่าจะเป็น กกพ. ที่กำกับดูแลไฟฟ้าและพลังงาน กขค. ที่กำกับดูแลการแข่งขันทางค้าของประเทศ ซึ่งหลังจากที่ศาลตัดสินในวันนี้ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐหวาดกลัวเมื่อปฏิบัติหน้าที่อาจจะถูกบริษัทเอกชนมาฟ้องร้องหรือไม่ ซึ่งอาจจะทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบถ่วงดุลได้อย่างเข้มแข็ง


นางสาวศิริกัญญา กล่าวอีกว่า ยังถือว่ายังโชคดีที่กฎหมายที่จะช่วยคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าสู่สภาอยู่ในชั้นกรรมาธิการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นการต่อต้านการฟ้องปิดปากเช่นกรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐถูกฟ้องร้องระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ได้

เมื่อถามย้ำว่ากรณที่เกิดขึ้นกับนางพิรงรอง เป็นการฟ้องปิดปากใช่หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา ยอมรับว่าใช่ เข้ากรณีการฟ้องปิดปาก เพราะมีหลายกลไกที่บริษัทเอกชนสามารถร้องเรียนในกรณีที่ได้รับการปฏิบัติไม่เป็นธรรมจากหน่วยงานที่กรรมกับดูแล แต่บริษัทเอกชนกับใช้กลไกทางศาลอาญา ซึ่งมองว่าเป็นช่องทางที่ลัดขั้นตอน ทำให้หลังจากนี้นางพิรงรองจะไม่สามารถทำหน้าที่ใน กสทช. เข้าร่วมพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวกับบริษัทเอกชนแห่งนี้ได้ ทำให้ไดนามิกซ์ใน กสทช. เปลี่ยน จากเดิม 7 คน จะเหลือ 6 คน คือ ฝ่ายประธานกรรมการ 3 คน และนางพิรงรอง 3 คน ทำให้การตัดสินใจอะไรต่างๆ ยากมากขึ้น และยังมีอีกหลายเรื่องใน กสทช. ต้องติดตาม นอกจากกรณีการควบรวมทรูและดีเทค เช่น การตั้งที่ปรึกษามาตรวจสอบค่าบริการว่าแพงกว่ากำหนดหลังมีการควบรวมหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการควบรวมอินเตอร์เน็ตบ้านระหว่างเอไอเอสกับ 3BB ก็หวั่นจะซ้ำรอยแม้ว่าจะเป็นเอกชนคนละราย

ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่ามีคนใน กสทช. ขอให้นางพิรงรองลาออกดจากตำแหน่งเพื่อแลกกับการถอนฟ้อง นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เท่าที่ได้ยินมาคอนเฟิร์มว่าเป็นเรื่องจริง และยิ่งกว่าคนใน เพราะทราบว่าเป็นคนในกระบวนการยุติธรรมที่เป็นคนยื่นข้อเสนอนี้ เพื่อต่อรองให้ถอนฟ้องแลกกับการลาออกจาก กสทช. ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ  และเรื่องที่ไม่คิดว่าน่าจะเกิดขึ้น คือรู้ผลกันล่วงหน้าแล้วว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่มีคนล่วงรู้มาก่อนว่าจะมีการตัดสินจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ครั้งแรกที่ได้ยินก็ไม่อยากจะเชื่อ คิดเพียงแค่ว่าเป็นปักมีดไว้ที่หลังนางพิรงรองไม่ให้เข้าร่วมประชุม ร่วมตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเอกชนรายดังกล่าวได้ ไม่คิดว่าผลการตัดสินจะเป็นไปตามข่าวลือ

เมื่อถามว่าเรื่องนี้ตรวจสอบแบบคู่ขนานกันไปหรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ทำได้แค่ตรวจสอบแบบคู่ขนานเพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการยุติธรรม แต่สิ่งที่ทำได้คือทำกฎหมายต่อต้านการฟ้องปิดปากโดยเร็ว เพื่อคุ้มครองผู้ปฏิบัติงานรวมถึงรื้อกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกิจการ OTT  ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรมยังต้องต่อสู้อีกหลายชั้นศาล ซึ่งส่วนตัวยังคิดว่านางพิรงรองยังมีสิทธิโดยสมบูรณ์ในการต่อสู้ในคดีนี้จนถึงที่สุด

เมื่อถามว่า กสทช. คนอื่นๆ ควรที่จะออกมาแสดงจุดยืนต่อเรื่องนี้หรือไม่ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ก็อยากเห็นความเป็นปึกแผ่น ส่งเสียงให้กำลังใจ แต่ก็อย่างที่บอกของอย่างนี้ถ้าไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ พอเจอแบบนี้เข้าไปก็มีความกังวล  ตนจึงอยากให้กำลังใจ กสทช. ทุกคน อย่าเป็นกังวลมากเกินไป ขอให้ยืนหยัดทำหน้าที่บนหลักการที่ถูกต้องต่อไป
----------------------------

“ธนาธร” ประกาศจุดยืนหนุน “พิรงรอง” ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน  ชวนประชาชนยืนเคียง ปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม

เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.68) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “อาจารย์พิรงรอง เป็น กสทช. ที่มาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อมวลชน เป็น 1 ใน 2 เสียง (จากทั้งหมด 5 เสียง ณ ขณะนั้น) ของ กสทช. ที่โหวตคัดค้านการควบรวมทรู-ดีแทค พร้อมยืนยันว่า กสทช. มีอำนาจในการระงับยับยั้งดีลควบรวมนี้

คดีล่าสุด อาจารย์พิรงรองถูกทรูฟ้องร้องดำเนินคดีและถูกศาลตัดสินจำคุกถึง 2 ปี จากการออกหนังสือเตือนเกี่ยวกับการแทรกโฆษณาบนช่องทางออนไลน์ โดยอ้างอิงหลัก Must Carry

สิ่งต่างๆ เหล่านี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าท่านเป็นกรรมการ กสทช. ที่ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนโดยไม่เกรงกลัวหรือเกรงใจอำนาจทุน

หากผู้ที่ทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์พี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นบทบาทที่ควรจะเป็นอย่างยิ่งของ กสทช. ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีไปจนถึงการต้องติดคุก แล้วใครจะกล้ายืนหยัดทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนต่อไป

ผมขอแสดงจุดยืนสนับสนุนการทำงานของอาจารย์พิรงรอง และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนที่รักในความเป็นธรรมและต้องการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนผู้บริโภคมากกว่าประโยชน์ของทุนใหญ่ มายืนอยู่เคียงข้างอาจารย์ด้วยกัน ไม่ปล่อยให้อาจารย์ทำหน้าที่อย่างโดดเดี่ยว”

---------------------------------

“หนุ่ม เมืองจันทร์“ ยกข่าว ศาลตัดสิน ”พิรงรอง กสทช.“ มีความผิด ม.157 จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ปมทรูฟ้อง ระบุ ”นี่คือ ตัวอย่างที่ดีที่สุดของ ชนะศึก แต่แพ้สงคราม“


วานนี้ (6 ก.พ.68) “หนุ่ม เมืองจันทร์” โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก แชร์ข่าวศาลอาญาคดีทุจริตฯ ตัดสิน ‘พิรงรอง กสทช.’ มีความผิด ม.157 จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ข้อความระบุว่า  “นี่คือ ตัวอย่างที่ดีที่สุดของประโยคนี้

“ชนะศึก แต่แพ้สงคราม”ชนะในสมรภูมิของกฏหมาย  แต่พ่ายแพ้ยับเยินในเรื่องภาพพจน์ ถ้าเป็นสมัยฮ่องเต้ คนที่แนะนำแบบนี้มีสิทธิถูกเอาไปประหาร แต่ยุคนี้แค่จำไว้ก็พอ และถ้าลูกน้องคนนี้แนะนำอะไรครั้งต่อไป อย่าเชื่อเด็ดขาด…”


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wwe5FoXJi8k

คุณอาจสนใจ

Related News