2 ชายระทึก คลื่นแรงซัดเรือประมงล่ม เกาะถังน้ำมันลอยคอกลางทะเลดอนหอยหลอด

ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม รับแจ้งเหตุ เรือประมงพื้นบ้านล่ม มีชาวประมงพื้นบ้านสูญหาย 2 คน เหตุเกิดทะเลดอนหอยหลอด ห่างจากฝั่งประมาณ 5 กิโลเมตร จึงไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม

ที่บริเวณดอนหอยหลอด พบชาวบ้านมาช่วยกันออกตามหาผู้สูญหาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายไพรัตน์ อายุ 43 ปี และ นายคุนานนท์ อายุ 30 ปี โดยมีเรือประมงอีป้าบที่จมอยู่กลางทะเล ชาวบ้านจึงช่วยกันลากเข้ามาเก็บไว้ที่บ้าน

นายอภิรักษ์ อายุ 19 ปี หลานชายนายไพรัตน์ กล่าวว่า นายไพรัตน์ ออกไปวางอวนหาปู ประมาณบ่าย 3 โมง ปกติครึ่งชั่วโมง จะกลับเข้าบ้าน แต่วันนี้รอจน 1 ทุ่ม ก็ยังไม่กลับ จึงออกไปตามหา ซึ่งคลื่นลมแรงมาก กระทั่งพบเรือจมหัวเรือโผล่เหนือน้ำ แต่ไม่พบลูกเรือทั้ง 2 คน จึงลากเรือเข้าฝั่ง แจ้งเจ้าหน้าที่และเพื่อนบ้าน ช่วยกันออกตามหา

ต่อมาเวลา 22.19 น. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า นายไพรัตน์ และ นายคุนานนท์ ลอยคออยู่แถวชายทะเลโรงกุ้ง ม.6 ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม ชาวบ้านช่วยขึ้นฝั่งที่ท่าเรือศาลเจ้าพ่อเซียนซี ห่างจากดอกหอยหลอดเกือบ 10 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่จึงรีบไปให้ความช่วยเหลือ พบว่าทั้ง 2 ราย มีอาการอิดโรย จึงให้น้ำดื่ม แล้วล้างตัวก่อนจะให้พักผ่อน และจะพาไปโรงพยาบาล แต่ทั้ง 2 ราย คิดถึงครอบครัว จึงขอกลับบ้านก่อน หากอาการไม่ดีจะรีบไปโรงพยาบาล

โดย นายไพรัตน์ เล่านาทีชีวิต ว่า ขณะที่ขับเรืออยู่กลางทะเล คลื่นซัดแรงมาก ทำให้น้ำเข้าเรือจนเรือจม จังหวะนั้น ตนตั้งสติคว้าถังน้ำมันกอดไว้ที่หน้าอกให้พยุงไม่ให้จมน้ำ แล้วใช้ไม้พายเกาะกันมา 2 คน ลอยคอตามกระแสน้ำเข้าฝั่ง คิดว่าต้องมีคนออกมาตามหา เมื่อเห็นเรือ แต่เรียกไม่ทันและมีคลื่นสูง และมืดจนเรือที่ตามหาก็ไม่เห็นตน โชคดีที่รอดชีวิตมาได้ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ที่ผ่านมาเคยแค่ตกน้ำ แต่ไม่เคยลอยคอในน้ำนานกว่า 6 ชั่วโมง

ด้าน นายคุนานนท์ เล่าว่า ช่วงที่เรือล่ม ตนนึกถึงหน้าลูกสาววัย 7 เดือน ตนจึงคิดว่ายังไงก็ต้องรอดกลับไปหาลูกน้อยที่เพิ่งคลอด จึงกอดถังน้ำมันไว้ และเกาะไม้พายกับนายไพรัตน์ คนละด้าน เพื่อไม่ให้หลุดออกจากกัน กระทั่งถึงฝั่งรอดชีวิตในครั้งนี้