สังคม

อบต.ขอโทษดรามาครูจับเด็กแข่งขันเปลี่ยนเสื้อผ้า - จังหวัดนัดผู้ปกครองเคลียร์

โดย gamonthip_s

11 มี.ค. 2567

49 views

วันที่ 11 มี.ค.67 จากกรณีที่มีผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ของศูนย์เด็กเล็กแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้โพสต์ข้อความระบุถึง การแข่งขันกีฬาสี ในเพจ “จิตวิทยาเด็กและครอบครัว ปรึกษาเรื่องเลี้ยงลูก” แสดงความไม่พอใจกับการแข่งขันที่เอาเด็กขึ้นเวที โดยให้เด็กผู้ชายแก้ผ้าส่วนเด็กผู้หญิงเหลือแค่กางเกงใน ก่อนจะให้เแข่งขันกันสวมใส่เสื้อผ้า ต่อหน้าครู ผู้ปกครอง นักเรียน และผู้ที่มาร่วมในงาน แต่กลับมีกระแสสะท้อนกลับไป และเกิดกระแสดรามาทำให้ผู้ปกครองคนอื่นๆ ต่างพากันช่วย Save ครู และอ้างว่าแม่เด็กรับรู้ และรับทราบกับกิจกรรมดังกล่าว พร้อมให้ไปคุยกันในครอบครัวว่าเป็นกิจกรรมสร้างความสนุกสนาน ไม่ได้มีเจตนาลงโทษหรือกลั่นแกล้งให้เกิดความอับอาย ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนในวงกว้าง



โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 พบเพจ “Drama-addict” โพสต์ข้อความระบุว่า “รู้แล้วว่าโรงเรียนในข่าวที่ให้เด็กเล็กแข่งเปลี่ยนเสื้อผ้าคือโรงเรียนอะไร ที่ตกใจกว่า คือ มีการเอาภาพเด็กตอนเปลี่ยนเสื้อแข่งกันมาเผยแพร่ลงเพจสาธารณะด้วย” ซึ่งทราบว่าเป็นเพจกองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมของอบต.แห่งหนึ่ง ในจ.สุรินทร์ โดยโพสต์ข้อความ แชร์ภาพการแข่งขัน “โครงการแข่งขันกีฬาหนูน้อย ประจำปี 2567” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และปลูกฝัง ให้เด็กเล็กรักการออกกำลังกาย พัฒนาความพร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ให้สมกับวัย พร้อมกับแนบรูปภาพ บรรยากาศการจัดงานแข่งขันกีฬาสีหนูน้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาพ ขณะที่เด็กๆ ที่ต่างแก้ผ้าเพื่อแข่งขันเปลี่ยนเสื้อผ้า ภาพดังกล่าวอาจจะมีผลกับตัวเด็กโดยตรงในอนาคต ที่จะสร้างความอับอายในวัยที่เขาโตขึ้นต่อไป 



ทั้งนี้หลังจากที่มีประเด็นกระแสดรามา เพจดังกล่าว ได้ทำการลบรูปภาพ และข้อความดังกล่าวทั้งหมดออกไปแล้ว จนช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง อบต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ หลังทราบว่ากิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของ อบต.นอกเมือง โดยได้พบกับ นายอนุชา พิสมัย ปลัด อบต.นอกเมือง ซึ่งได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ก่อนอื่นต้องขออภัยกับประเด็นที่เกิดขึ้น ของการจัดกีฬาเกี่ยวกับหนูน้อยที่สร้างความไม่พอใจ และลำบากใจให้กับผู้ปกครอง ต้องขอชี้แจงว่าทางเราไม่ได้มีเจตนาหรือนำภาพ สร้างความเสื่อมเสียหรือสร้างความอับอายให้กับเด็ก กิจกรรมเราที่จัดขึ้นมา เพื่อมุ่งเน้น ในเรื่องของการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ ซึ่งการแข่งขันกีฬาหนูน้อยทางเราก็ได้มีการจัดขึ้นมาเป็นประจำทุกปี และประเภทกิจกรรมที่จัดเข้าไปในโปรแกรมการแข่งขันนั้นก็เป็นกิจกรรมที่พัฒนาในเรื่องของร่างกายทุกกิจกรรม รวมทั้งการแข่งขันกีฬาประเภทการแต่งกายนี้ด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นทุกครั้งเราจะมีการเชิญครูผู้ดูแลเด็กมาทำความเข้าใจ และให้เตรียมตัวนักกีฬาที่จะเข้าร่วมทำการแข่งขันในแต่ละประเภท ซึ่งการแข่งขันกีฬาการแต่งกายนั้น จริงๆ แล้วเด็กที่จะร่วมแข่งขันจะต้องได้รับการเตรียมตัว ในเรื่องของการเซฟร่างกายตนเอง อาจจะมีบ็อกเซอร์ มีเสื้อกล้าม แต่บังเอิญว่าภาพที่หลุดออกไปนั้นเป็นเด็กที่ไม่ได้เตรียมไว้ ซึ่งทราบข่าวมาจากศูนย์เด็กบางศูนย์ว่าเด็กที่เตรียมไว้หาไม่เจอก็เลยได้มีการจัดเด็กที่ไม่ได้เตรียมตัวมาจัดทำการแข่งขัน จึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น



ทางผู้บริหารของเราก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสื่อมเสียกับทางเด็กหรือผู้ปกครองแต่อย่างใด และก็ต้องการให้เด็กมีการพัฒนา ทั้งร่างกายจิตใจ และกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ ซึ่งศูนย์เด็กเล็กที่เกิดเหตุในเรื่องดังกล่าวก็เป็นศูนย์ที่เราได้เชิญเข้ามาในปีแรก เพื่อสร้างเครือข่ายของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นศูนย์นอกเขตพื้นที่ แต่ว่าเราก็ได้มีการพูดคุยกันในเบื้องต้น และก็จะได้มีการขออภัย และขอโทษอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้คงจะสร้างเป็นบทเรียนให้กับทางผู้ปฏิบัติ และเป็นบทเรียนในการเตรียมโครงการและกิจกรรมในโอกาสต่อไป ปลัด อบต.นอกเมือง กล่าว



ผู้สื่อข่าวรายงาน เวลาประมาณ 14.00 น. ทางอบต.นอกเมือง จะได้มีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ ครู และผู้ปกครอง เข้ามาประชุมทำความเข้าใจ และร่วมกันขอโทษผู้ปกครองของเด็กๆ อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งกล่าวกับทางผู้ปกครองว่าจะไม่ให้มีการเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ผู้ปกครองทุกคนต่างก็พอใจ และไม่ติดใจเอาความ มีนายสุภณัฐ ศิริทอง ผอ.กลุ่มงานกฏหมายฯ สนง.ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.สุรินทร์ เป็นประธานการประชุมมีนายอนุชา พิสมัย ปลัด อบต.นอกเมือง เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว คุณครูประจำศูนย์เด็กเล็กตำบลนอกเมือง พ่อ แม่ของเด็กเล็กในศูนย์เด็กเล็ก เจ้าหน้าที่ศูนย์ประจำ อบต.นอกเมืองสุรินทร์



นายสุภณัฐ ศิริทอง ผอ.กลุ่มงานกฏหมายฯสนง.ส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จ.สุรินทร์ กล่าวว่า การเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพื่อทำการสืบสาวราวเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กระทั่งมีการยอมรับว่าไม่พบตัวตนผู้ปกครองรายดังกล่าวที่มีการเรื่องเรียน ไปทางสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการสอบถามหาตัวผู้ที่ร้องเรียนก็ไม่พบตัวตน และเมื่อทราบว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นทางคณะครูที่อยู่ในเหตุการณ์วันแข่งขันกีฬาก็ไม่พบตัวตนของผู้ปกครอง ทีมงานทั้งหมดลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของเด็กรายดังกล่าว ก็ไม่พบคุณพ่อที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าว และผู้ปกครองที่มีประชุมกันกว่า 10 ราย ก็ไม่มีใครสนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่เด็กๆ แต่อย่างใด



คุณแม่ชื่อ น.ส. อรสา อายุ 29 ปี ผู้ปกครองเด็กที่อยู่ในภาพ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า วันนั้นมีงานจัดกิจกรรมกีฬา คุณแม่ก็ไปร่วมกิจกรรมกับน้อง แล้วตอนนั้นน้องก็แข่งกีฬา ไม่ได้คิดว่ามันจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ทราบว่ามันจะมีการใส่ชุดนักเรียนแบบนี้ แต่แม่ก็ไม่ทราบว่ามันจะโป๊ ถือว่าเป็นการเสริมพัฒนาการเด็ก เพราะว่าการที่น้องใส่เสื้อผ้าเองได้ ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการอย่างหนึ่งของเด็กวัย 2-3 ขวบ คิดว่าเป็นการกีฬา ไม่ได้คิดว่าเป็นแบบอื่นหรือการเอาเด็กมาถอดเสื้อผ้า คุณแม่เต็มใจในการร่วมแข่งกีฬากับน้อง เพราะวันนั้นแม่ก็ไปกับน้องแล้วก็ช่วยเชียร์น้อง ไม่มีการร้องเรียนใดๆ ทั้งสิ้นเลย ไม่ติดใจเลย เพราะว่าคุณแม่เห็นชอบในเรื่องการแข่งขันกีฬากัน มีกีฬาเสริมพัฒนาการ



ขณะที่ผู้ปกครองในที่ประชุมหลายคน แม้ไม่ติดใจเอาความ เอาเรื่องนี้กับคุณครู และก็อยากให้คณะผู้จัดการแข่งขันเปิดเผยตัวตนของผู้ปกครองที่นำเรื่องนี้ไปนำเสนอต่อสื่อออนไลน์ จะได้ทราบจากปากผู้ปกครองท่านนี้ มีความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่เปิดขึ้นอย่างใด เพราะมันทำให้โรงเรียนของเด็กๆตำบลนอกเมือง ได้รับความเสียหายมาก และควรมาทำความเข้าต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อที่ประชุมรวมทั้งครู และผู้ปกครองเพื่อแนวทางเดียวกันต่อไป เสียใจที่ไม่เจอผู้ปกครองเด็กที่ปรากฏต่อสื่อมวลชน และสื่อออนไลน์

คุณอาจสนใจ

Related News