สังคม

'ทนายวัฒนา' ปัดยุยงครอบครองปรปักษ์ โต้เป็นทนายหิวแสงสติเฟื่อง ไม่รู้ลูกชายโทรหาทนายอีกฝั่ง

โดย nattachat_c

28 ก.พ. 2567

17 views

วานนี้ (27 ก.พ. 67 ) ที่ศาลา 8 วัดบางเตย นายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความฝ่ายคู่กรณีเพื่อนบ้านยึดบ้านอากู๋ ย่านรามอินทรา เดินทางมาร่วมรดน้ำศพ น.ส.ภาณุมาศ สามัคคี หนึ่งในห้าบุคคลที่ถูกฟ้องร้อง พร้อมเปิดเผยว่


ขณะนี้ ยังไม่ได้พูดคุยเรื่องคดีกับครอบครัวผู้ตาย เพราะได้คุยกันไปแล้วก่อนหน้า ซึ่งคดีครอบครองปรปักษ์ที่ น.ส.ศรีพรรณ เป็นผู้ยื่นฟ้องยังอยู่ที่ชั้นศาล หากเจ้าตัวประสงค์ถอนฟ้องก็ขึ้นอยู่กับเจตนาของเขา จะว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น


ส่วนปมที่ว่า น.ส.ภาณุมาศ ผู้ตาย ต้องการให้ถอนฟ้องนั้นตนก็เห็นใจ เพราะเขาเป็นผู้ป่วย แต่บุคคลอื่นที่ฟ้องร้องอาจจะคิดต่างกัน ซึ่งส่วนตัวก็คิดว่าน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้


สำหรับประเด็นที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายของคู่กรณี ระบุว่า ทนายความควรเป็นผู้รับผิดชอบกับการเสียชีวิตนั้น

นายวัฒนาเผยว่า อยากให้ทุกคนกลับไปทบทวนตั้งสติว่า ตัวเองมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นหรือไม่ ทุกสิ่งมีที่มาที่ไป เพราะคดีนี้เริ่มจากสื่อมวลชนมาทำข่าวอย่างต่อเนื่องก่อน ไม่มีการนำข้อเท็จจริง หรือสอบถามคู่กรณีฝั่งตรงข้าม เมื่อคดีอยู่ที่ศาลก็ต้องสู้ที่ศาล


ตนเข้าใจว่าสื่อนำเสนอข้อเท็จจริง แต่ต้องนำเสนอที่ถูกต้องเป็นธรรม เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ใหญ่โต และไม่คิดว่าจะใหญ่โตขนาดนี้ ไม่อยากให้จับตัวเองไปชนกับใคร พร้อมขอให้ข้อคิดว่า คนเราพูดให้ตัวเองดูดีใคร ๆ ก็พูดได้ แต่พูดให้คนอื่นดูร้าย คนดีเขาไม่ทำกัน


นายวัฒนากล่าวด้วยว่า ตัวเองไม่เครียด จะเครียดก็เรื่องที่สื่อมาตามทุกวัน เพราะตนต้องรักษามารยาททนายความ เนื่องจากคดีอยู่ในชั้นศาล แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไร เพราะไม่ได้เป็นทนายหิวแสงสติเฟื่อง ทั้งนี้ ขอปฏิเสธไม่ทราบว่าลูกชายตนโทรศัพท์ไปหาทนายเดชา เพื่อพูดคุยอะไรกัน


เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าทนายความเป็นผู้แนะนำให้ไปตอบโต้จนเกิดเป็นคดีอาญาในข้อหาบุกรุก

นายวัฒนา ปฏิเสธว่า บ้านดังกล่าวไม่เคยมีการครอบครองมาก่อน และ น.ส.ศรีพรรณไม่ได้สละสิทธิครอบครองปรปักษ์ เพราะมีสิทธิมาก่อนจะเกิดคดีอาญา แต่มีผู้นำกุญแจมาคล้องประตูไว้ และบังเอิญมีคดีอาญามาแทรกเสียก่อน


ยืนยันว่าไม่ใช่การตอบโต้ เรื่องดันทุรังสู้แม้ว่าจะแพ้คดีนั้นเป็นการประโคมข่าว พูดอยู่ฝ่ายเดียว ตนจะพยายามไม่พูดและไปสู้ในชั้นศาล


ส่วนที่อากู๋บอกว่าต้องปลดตนออกจึงจะยอมเจรจานั้น

ต้องบอกว่า จะนำตนเป็นที่ตั้งไม่ได้ หากลูกความตนต้องการจะเปลี่ยนทนายก็ยินดี เพราะตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับลูกความ แต่มองเป็นข้อต่อรองที่ผิดปกติ เพราะไม่มีใครทำกันอย่างนี้ เพราะเคยตกลงกันมาแล้ว แต่ตกลงกันไม่ได้เพราะตัวเลขที่ตั้งไว้นั้นสูงเกินไป


สำหรับปมคลิปเสียงสนทนาที่ น.ส.ภาณุมาศกราบเท้าตนขอถอนคดีนั้น

นายวัฒนาปฏิเสธว่า ก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่ต้องไปถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ หากตนพูดเองก็ไม่มีน้ำหนัก

---------------

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของอากู๋ เปิดเผยว่า ตนรับผิดชอบในทุกคดี


ทนายเดชาเปิดเผยว่า ลูกชายของทนายรายนี้ โทรมาหาทนายกุ้ง เมื่อวานนี้ คุยกันประมาณ 1 ชั่วโมง โดยบอกว่าเรียนกฎหมายอยู่ที่ ม.ธรรมศาสตร์ และเรื่องนี้ทำให้เขาไม่อยากเป็นทนายแล้วหลังจากเรียนจบ เพราะกลัวเป็นแบบพ่อ


นอกจากนี้ ยังเคยเตือนพ่อไปแล้วด้วยว่า อย่าไปออกสื่อ เดี๋ยวทัวร์ลง และบอกกับพ่อว่าไม่ควรทำแบบนี้เลย แต่ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากพ่อเป็นแบบนี้


สำหรับแนวทางหลังจากนี้อากู๋พร้อมที่จะเจรจา และจบเรื่องนี้ด้วยดี ไม่ได้ติดเรื่องของเงิน เพราะอากู๋ก็เป็นคนมีฐานะ เป็นผู้บริหารระดับของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่มีทนายคนนี้ “มีเขา ไม่มีเรา”
---------------

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/BlSfdkFKPVA

คุณอาจสนใจ

Related News