สังคม
“ทนายเดชา” ชี้กลุ่มไลฟ์ป่วนดาบตำรวจ เข้าข่ายขัดขวางการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่-คุกคาม
โดย nicharee_m
21 มี.ค. 2568
571 views
“ทนายเดชา” ชี้กลุ่มไลฟ์สดป่วนดาบตำรวจ เข้าข่ายความผิดขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่-คุกคามผู้อื่น ส่อโทษหนักคุกไม่เกิน 1 ปี
จากกรณีเพจเพจหนึ่งได้ไลฟ์สดต่อว่ากดดัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด้านพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ตั้งกล้องจับความเร็ว ที่ถนนสายเอเชีย ขาขึ้น ต.บางน้ำเชี่ยว อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเกิดอาการเกร็ง แขน ขา อ่อนแรง หมดสติ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ
ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น กลุ่มที่ไปไลฟ์สดเป็นกลุ่มที่มีทัศนคติไม่ชอบการทำงานของตำรวจ ซึ่งหากมองในมุมการตรวจสอบการทำงานของตำรวจนั้น สามารถทำได้ แต่เมื่อเป็นกลุ่มที่ต่อต้านตำรวจอยู่แล้วก็ต้องดูเจตนาที่แท้จริงว่า ต้องการตรวจสอบหรือจับผิด หรือต้องการกดดันการทำงานของตำรวจ
โดยหากต้องการกดดัน ไปขัดขวางการทำงานของตำรวจ ไม่ให้เกิดความสะดวก ก็อาจมีความผิดฐานขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี
อีกส่วนก็อาจจะเข้าข่ายของการคุกคาม จนตำรวจเกิดอาการเครียด ทำให้โรคประจำตัวกำเริบ จนได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ มีความผิดฐานรังแก ข่มเหง คุกคามผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 397 ซึ่งจะต้องดูจากพยานหลักฐาน และผลการสรุปของแพทย์ด้วยว่า อาการที่เกิดขึ้นเกิดได้ตามปกติ จากโรคประจำตัวเพียงอย่างเดียว หรือเกิดจากถูกกระตุ้นด้วยการกดดัน คุกคามด้วย
อย่างไรก็ตาม หากดูเบื้องต้น ก็ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ เพราะการตรวจจับความเร็ว ต้องใช้สมาธิ จึงทำให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ ยิ่งถูกพูดวิพากษ์วิจารณ์ ก็ทำให้ประหม่า เกิดความเครียด การตรวจจับความเร็วก็จะแม่นยำน้อยลง
ส่วนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุอ้างเรื่องการตรวจสอบการแต่งกายของตำรวจ ก็มองว่า ตำรวจแต่งกายถูกต้องแล้ว และต้องถามกลับว่า มันใช่หน้าที่ของเราหรือไม่ เกินขอบเขตหรือไม่ การตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องกระทำโดยสุจริต หากเกินเลย ล้ำเส้น ไม่มีมารยาท ก็อาจถูกดำเนินคดีได้ ซึ่งเคยมีหลายกรณีที่ถูกดำเนินคดีมาแล้ว เช่น การเข้าไปป่วนในด่านของตำรวจ
แท็กที่เกี่ยวข้อง ทนายเดชา ,ไลฟ์ป่วนตำรวจ