“ทนายเดชา” ชี้ “ทนายตั้ม” โอกาสรอด 50% แนะถ้าผิดก็สารภาพ ติดคุกแป๊บเดียว

“ทนายเดชา” เชื่อ “นุ-สารินี” กลับคำให้การ หวังลดโทษกึ่งหนึ่ง ชี้โอกาสรอด “ทนายตั้ม” มี 50% แนะสู้ตามหลักฐาน หากผิดก็ให้รับสารภาพ ติดคุกแป๊บเดียว รอกลับมากินไวน์ด้วยกัน

จากกรณี นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือ นุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม และ น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนนายนุ จำเลยที่ 3 และ 4 ขอถอนคำให้การเดิมที่ปฏิเสธมาเป็นให้การรับสารภาพ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ในคดีเงินจำนวน 39 ล้านบาท ของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย

ทีมข่าวจึงสอบถามความคิดเห็นไปยัง นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา เจ้าของเพจ ทนายคลายทุกข์ ผ่านทางวิดีโอคอล ทนายเดชา มองว่าการที่ทั้ง 2 คนกลับคำให้การส่งผลเสียต่อของนาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เพราะกลายเป็นว่ามีจำเลยบางคนรับสารภาพ และซักทอดไปถึงทนายตั้ม ซึ่งทนายตั้มก็จะลำบากมากยิ่งขึ้นเดิมทีก็ลำบากอยู่แล้ว แต่ทนายตั้มจำเป็นที่จะต้องแก้ก็กล่าวหามากขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวให้วิเคราะห์ว่าทำไมทั้ง 2 คนถึงกลับคำให้การ ทนายเดชา ระบุว่าไม่มีอะไรมากก็กลัวติดคุก ถ้าหากรับสารภาพก็ลดโทษกึ่งหนึ่ง เพราะตอนนี้ไม่ได้ประกันตัว อีกอย่างโทษของเขาทั้งสองคนก็ไม่ได้หนักหนา รับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง และคิดว่าศาลก็น่าจะให้ประกันตัว อย่างนายเล็กคนขับรถ และลูกน้องของทนายตั้มก็ไปเข้าข้างฝ่ายโจทก์หมดแล้ว จึงมองว่าสถานการณ์ของทนายตั้มลำบากมากขึ้น

โดยการสู้คดีของทนายตั้มหลังจากนี้ มองว่า ทนายตั้มต้องชี้แจงการกระทำของจำเลยคนอื่นว่าตัวทนายตั้มไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ไม่ได้เป็นผู้จ้างวานใช้ ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุน ไม่ได้ตัวการร่วมคงสู้ได้แค่นี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทนายตั้มควรจะรับสารภาพในบางเรื่องหรือไม่ ทนายเดชาระบุว่า คงไปสั่งเขาไม่ได้ เคยคุยกับเขาก่อนที่จะติดคุก เขาก็มั่นใจว่าคดีนี้เขาไม่ได้ผิดไม่ได้ฉ้อโกง ไม่ได้ฟอกเงิน เขาก็ต้องหาทางไปเขาเอง ซึ่งขณะนี้เส้นทางการเงินต่างๆ ค่อนข้างชัดเจนแล้ว เหลือแต่เงินที่ได้มาจากเจ๊อ้อยต้องไปพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไรกันแน่ จะเป็นการให้โดยเสน่หา หรือเป็นการยักยอกฉ้อโกงหรือไม่ ทนายตั้มจะต้องชี้แจงต่อศาล ถ้าหากชี้แจงได้ก็ชนะ ถ้าหากชี้แจงไม่ได้ก็ติดคุกชีวิตก็มีเท่านี้

ทนายเดชา กล่าวว่า “ชีวิตทนาย ของทนายแบรนด์เนมคนนี้ 50 50 ในการสู้คดี คืออีก 50% อยู่ในคุก อีก 50% ก็รอด ก็เป็นบทเรียนราคาแพง”

ซึ่งคดีแบบนี้เขาจะดูที่เส้นทางการเงินเป็นหลัก ถ้าเส้นทางการเงินไม่ชัดศาลคงให้ประกันตัวไปแล้ว และเชื่อว่าศาลคงไม่ให้ประกันตัวทนายตั้ม เชื่อว่าน่าจะติดคุกไปเป็นปี จนกว่าจะสืบพยานซึ่งถ้าทนายนายตั้มมีโอกาสรอดเขาก็อาจจะให้ประกันตัว แต่ถ้าหากสืบพยานแล้วพบว่า ทนายตั้มไม่มีหลักฐานมาหักล้างคำกล่าวหาศาลก็ไม่น่าจะให้ประกันตัว

เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงทนายตั้มหรือไม่ทนายเดชา ระบุว่า “ให้สู้ตามพยานหลักฐานอย่าไปบิดเบือน ถ้าเราไม่ได้ทำผิด เราก็ไม่ต้องกลัว ให้ยึดตามคำสอนของพุทธทาสภิกขุ ถ้าวันนี้ทำถูกต้อง พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องกลัวอะไร แต่ถ้าทำผิดก็รับสารภาพเถอะน้อง หนักจะได้เป็นเบาติดคุกแป๊บเดียวก็ออก ไม่นานหรอก มานั่งกินไวน์กัน พี่ก็รออยู่ อย่าคิดมาก”

พร้อมบอกว่าทางกฎหมายการซักทอดถ้าเกิดจำเลยบางคนรับสารภาพว่าตัวเองทำผิด แล้วบอกว่าจำเลยคนอื่นทำผิดด้วย คำรับสารภาพจะมีผลต่อทนายตั้ม ซึ่งตอนนี้ทั้ง 2 คนรับสารภาพบางส่วน ไม่ได้รับสารภาพทั้งหมด ศาลจึงไม่ให้ประกันตัว ซึ่งคิดว่าในครั้งหน้าทั้ง 2 คน คงจะรับสารภาพทั้งหมด เพราะศาลอาจจะให้ประกันตัว โดยทั้ง 2 คนรับในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ส่วนคดีฟอกเงินเขาปฏิเสธ เพราะโทษหนักจำคุก 10 ปี แต่คดีฟอกเงินหากรับสารภาพก็จำคุกแค่ปีเดียว “แป๊บเดียวก็ออกมากินไวน์ได้แล้ว”



และตนเชื่อว่าฝั่งโจทก์ พนักงานสอบสวนกองปราบปราม และอัยการน่าจะมีพยานหลักฐานพอสมควรและแน่นหนาพอสมควร จึงอยากฝากไปถึงทนายตั้ม “ถ้าไม่ไหวก็รับสารภาพไปเถอะแป๊บเดียวก็ได้ออกมาแล้วไม่มีอะไรหรอก แต่ถ้าเกิดไม่ได้ทำผิดก็สู้ไป”