หนุ่มช่างเชื่อมใจเด็ด กระโดดถีบโจรย่องขโมยอะไหล่รถเครนเป็นครั้งที่ 4

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 12 ก.พ.67 นายฐานพงศ์ อายุ 42 ปี เจ้าของบริษัท ตั้งอยู่ที่ซอยสวนผัก 15 หมู่ 4 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นำหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วีรชัย มงคลไทร รอง สว.สอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี กรณีถูกคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อและนามสกุล เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ ที่ข้างบริษัทดังกล่าว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 12 ก.พ.67 เวลา 01.00 น.

ภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะคนร้ายขับรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ไอ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดที่บริเวณข้างกำแพงของบริษัทดังกล่าว จากนั้นเดินมาดูลาดเลา และทำการยกอะไหล่รถเครนน้ำหนักประมาณ 6 กก.นำไปวางไว้ที่ท้ายรถจยย.ที่คนร้ายขับมา ขณะเดียวกันพนักงานซึ่งเป็นช่างเชื่อมเห็นเหตุการณ์พอดี จึงรีบวิ่งเข้าไปห้ามปรามแต่คนร้ายพยายามจะขับรถจยย.หลบหนี จึงใช้เท้ากระโดดถีบรุจยย.ไป 1 ครั้ง จนทำให้อะไหล่รถเครนที่คนร้ายลักไปหล่นลงพื้น สุดท้ายคนร้ายก็ขับรถหลบหนีไปได้


นายฐานพงศ์ เจ้าของบริษัท กล่าวว่า เมื่อเวลา 01.00 น ลูกน้องที่นอนอยู่ในป้อมยามเห็นรถจักรยานยนต์ มีคนขับมา 1 คน ได้ขับมาจอดที่ด้านหลัง แต่ตอนนั้นช่างยังไม่กล้าออกมา จากนั้นคนร้ายได้เดินดูลาดเลาประมาณ 10 นาที และได้มาหยิบชุดขับเครนยกไปใส่ท้ายรถจยย. จังหวะนั้นลูกน้องได้วิ่งออกมาเพื่อที่จะชาร์จตัว แต่คนร้ายขึ้นคร่อมรถจยย.อยู่ และพยายามจะขับหลบหนี ลูกน้องจึงถีบรถให้ล้ม แต่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ออกไปก่อน ชุดขับเครนก็เลยหล่นอยู่ที่พื้น โดยชุดขับเคลื่อนเครนตัวนี้มีราคาประมาณ 35,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมีขาเครนด้วยที่ถูกขโมยไปก่อนแล้ว จึงคาดว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกัน โดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยของ ครั้งแรกเข้ามาขโมยตะขอเครน ครั้งที่ 2 ก็มอเตอร์ ครั้งที่ 3 เป็นอะไหล่ของชุดขับเครน และครั้งที่ 4 คือเมื่อคืนนี้ หลังจากแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าจะมาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง ช


นายชาญวิทย์ อายุ 21 ปี ช่างเชื่อมที่กระโดดถีบคนร้าย เป็นชาว จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 01.00 น.ขณะที่เจ้านายขับรถมาจอดหน้าบ้าน โจรก็ขับรถจยย.มาจอดบริเวณข้างบ้าน พอเจ้านายเดินเข้าไปในบ้าน โจรก็เดินดูของแล้วก็ยกของขึ้นท้ายรถจยย.เตรียมจะขับหลบหนี ตอนนั้นตัดสินใจเปิดประตูห้องออกมา และใช้เท้าถีบรถจยย.ของคนร้ายไป 1 ครั้ง แต่คนร้ายก็ขับรถหนีไปได้ ความรู้สึกตอนนั้นไม่ได้กลัวว่าคนร้ายจะมีอาวุธหรือจะถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายเพราะคนร้ายมาคนเดียว ตนเองก็รู้สึกหมั่นไส้คนร้ายด้วย ถ้าของเจ้านายหาย ตนเองก็กลัวว่าจะถูกดุด่าได้ จึงต้องพยายามปกป้องรักษาของมีค่าทุกอย่างเอาไว้ให้ได้

เบื้องต้นเหตุ 3 ครั้งก่อนผู้เสียหายไม่ได้แจ้งความ เพิ่งเดินทางเข้าแจ้งความเป็นครั้งแรกเพราะเห็นว่าโจรได้ใจมาก่อเหตุซ้ำ ด้านพนักงานสอบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป