มอบตัวแล้ว 2 โจ๋ดักปล้นเสื้อ "ดอนผีบิน" ของแรงงานชาวลาว

วันที่ 4 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบคลิปจากกล้องวงจรปิด เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่ 2 คนร้าย ขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธจี้ชิงเสื้อยืด เมื่อช่วง 5 ทุ่มวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายในซอยเอกชัย 76 แยก 4 ย่านบางบอน กทม.


ซึ่งในคลิป มีชายวัยรุ่น 3 คนเดินอยู่ในซอย ระหว่างนั้น ก็มีคนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามมาทางด้านหลัง จากนั้นชายคนที่ซ้อนท้ายก็ตะโกนถามว่า “เฮ้ยมึงใส่เสื้อดอนเหรอ มึงใส่เสื้อดอนป่าว มึงถอดดิ” ก่อนจะจอดรถจักรยานยนต์แล้วชูอาวุธขึ้นมาข่มขู่


โดยหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายสวมเสื้อยืดแขนยาวของวง “ดอนผีบิน” ซึ่งเป็นวงดนตรีชื่อดังในอดีต เมื่อเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธจึงได้รีบถอดเสื้อแล้วโยนลงพื้นให้คนร้ายหยิบ ก่อนจะรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป


เหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องอุกอาจอย่างมาก ซึ่งคาดว่าเสื้อของวงนี้น่าจะกำลังมีราคา และเป็นที่ต้องการของคนที่ชื่นชอบและอยากมีไว้สะสม จึงได้ลงมือก่อเหตุ ส่วนผู้เสียหายยังไม่ทราบว่าได้เข้าแจ้งความหรือไม่


สำหรับวง “ดอนผีบิน” เป็นวงดนตรีแทรช เมทัลของประเทศไทย เกิดจากการรวมตัวกันเพื่อทำผลงานทางดนตรีของสามพี่น้องตระกูล แก้วทิตย์ เมื่อปี พ.ศ.2528 โดยสร้างงานแบบเพลงใต้ดิน ไม่สังกัดค่ายใดอย่างถาวร และเคยออกอัลบั้มเพลงทั้งกับค่ายเล็กๆ ไปจนถึงค่ายใหญ่อย่างวอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์ และจีราฟ เรคคอร์ดในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่


วงดอนผีบินได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์ดนตรีให้เป็น อุกกาบาตทางดนตรี เนื่องจากเป็นวงดนตรีจากทางชนบทในภาคเหนือที่ไม่มีที่มาที่ไป และไม่ได้สังกัดค่ายเพลงใหญ่ แต่กลับมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างสูงทั้งภาษาที่งดงาม สำเนียงดนตรีและเนื้อหาในเพลง รวมทั้งภาพวาดสีน้ำมันบนปกอัลบั้มที่สมบัติ แก้วทิตย์ มือกีตาร์ผู้เป็นหัวหน้าวงวาดด้วยตนเอง อีกทั้งชื่อของวงที่ตั้งแบบไม่สนใจการตลาด และเพียงแค่การออกอัลบั้มชุดแรกก็สามารถจุดกระแสในวงการเพลงร็อกได้ และได้รับรางวัล Reader Vote จากนิตยสาร The Quiet Strom ในอัลบั้มชุดต่อมา


โดยชื่อ ดอนผีบิน ของวงมาจากชื่อหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของจังหวัดน่าน ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิรบล้างเผ่าพันธุ์ในสมัยอาณาจักรล้านนา ต่อมาได้มีตำนานเล่าขานว่าในคืนวันเพ็ญจะมีแสงสว่างวนเวียนล่องลอยในบริเวณนั้น บางครั้งก็ได้ยินเสียงร้องครวญคราง ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวถูกเรียกขนานนามว่า ดอนผีล่องลอย


ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปในซอยเอกชัย 76 จุดเกิดเหตุ ได้สอบถามกับ นางทองม้วน เย็นจอหอ อายุ 70 ปี นายจ้าง ผู้เสียหาย ได้เล่าว่า ลูกจ้างของเธอทั้ง3คนเป็นคนลาว พึ่งเข้ามาทำงานได้6วัน โดยได้มาขอเข้าทำงานโดยในวันที่เกิดเหตุ คนงานทั้ง 3 คน ได้เดินทางไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ กลางซอยก่อนจะเดินกลับมายังที่พัก


โดย คนงานทั้งสามคนได้มาขอเงินเพื่อไปซื้อเสื้อผ้าใส่ หลังจากเกิดเหตุ ได้มาเล่าให้ตนฟังว่า ป้าผมโดนปล้น ไม่ได้เงิน ได้แต่เอาเสื้อที่ใส่ไป ตนถามว่าโดนอย่างไร คนงานบอกว่าอีกฝ่ายชักมีดดาบใส่ แต่เห็นอาวุธปืน ทำให้ต้องรีบถอด ถ้าไม่รีบถอดมันก็จะฟันผม โดยคนก่อเหตุมากัน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มา ส่วนเด็กทั้ง 3 คนผู้เสียหายนั่นกลัวคนก่อเหตุมาทำร้าย โดยในวันรุ่งขึ้น ก็เก็บข้าวของหนีไป เพราะความกลัว กลัวจะโดนส่งกลับบ้านประเทศลาว โดยตนเองแจ้งกับทางหมู่บ้านไป โดยทางหมู่บ้านบอกจะจัดเรื่องให้ ในส่วนตนเองนั่นก็กลัวเหมือนกัน เห็นแต่คนอื่นบอกกันว่าคนก่อเหตุเป็นเด็กในซอยเหมือนกัน ตนเองอยากให้ตำรวจกวาดล้างเด็กพวกที่มีปัญหาไปให้พ้น


ทางด้านนายธวัชชัย เย็นจอหอ อายุ 41 ปี คนที่เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า วันที่เกิดเหตุตนเองพึ่งกลับจากต่างจังหวัด กำลังจะนอน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายหน้าบ้านจึงเปิดหน้าต่างมอง ได้ยินเสียงว่า เฮ้ยมึงถอดเสื้อ เลยลงมาด้านล่างมาถามกับคนงานทั้ง 3 คนโดยบอกว่าตนเองนั่นโดนปล้น กลุ่มคนร้ายได้เอาเสื้อไป ผู้เสียหายเองบอกว่าไม่เคยเห็นหน้า คนก่อเหตุมาก่อน มีเพียงเจอหน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่คนก่อเหตุจะตามมา โดยผู้เสียหายทั้งหมดก็อยู่ในอาการตกใจ โดยหลังเกิดเหตุนั่นผู้เสียหายนั่นได้หายไปแล้ว คงกลัวโดนส่งกลับประเทศ โดยเสื้อที่ถูกเอาไปนั่นเป็นซื้อที่พึ่งซื้อตลาดนัด โดยป้ายยังไม่ทันได้แกะออกเลย เท่าที่ทราบเป็นเสื้อวงร็อก แต่เสื้อที่คนร้ายเอาไปเป็นเสื้อปลอม


โดย พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผกก.สน.บางขุนเทียน เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังเกิดเรื่องได้สั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมไล่ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ แต่จนขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ ซึ่งทราบว่าเป็นชาวลาว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคดีนี้จะไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความหรือมูลค่าทรัพย์สินจะเล็กน้อย แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นเหตุอุกอาจ ซึ่งพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดฐานชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและโดยมีพาหนะในการหลบหนี ซึ่งตำรวจกำลังตามตัวผู้เสียหายมาแจ้งความประกอบการทำสำนวน พร้อมเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี


ล่าสุดมีรายงานว่า 2 วัยรุ่นที่ก่อเหตุเดินทางเข้ามอบตัวแล้ว พร้อมกับเสื้อยืด “ดอนผีบิน” พบเป็นเยาวชนชายอายุ 13-18 ปี