สังคม

ทนแรงกดดันไม่ไหว! 2 โจ๋ขี่จยย.ชักมีดขู่จี้ชิงเสื้อ 'ดอนผีบิน' โผล่มอบตัวแล้ว อ้างทำไปเพราะคึกคะนอง

โดย petchpawee_k

5 ม.ค. 2567

376 views

2 วัยรุ่น อายุ 13 และ 18 ปี  ก่อเหตุอุกอาจใช้มีดจี้ชิงเสื้อ ‘ดอนผีบิน’ โผล่มอบตัวตำรวจแล้ว ยอมรับ ก่อเหตุเพราะความคึกคะนอง ส่วนผู้เสียหาย 3 คน เป็นชาวลาวหลังเกิดเหตุหวาดกลัวหนีไปแล้ว 


จากกรณีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 2 คน ขี่และซ้อนจยย.ฮอนด้า คลิก สีดำ ไม่ทราบทะเบียน มาจอดก่อนใช้มีดจี้ชิงเสื้อวงดนตรีแนวเมทัลร็อก ชื่อดัง “ดอนผีบิน”  แล้วหลบหนีไปลอยนวล เหตุเกิดคืนวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ในซอยเอกชัย 76 แยก 4 แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพฯ ท้องที่ สน.บางขุนเทียน


วานนี้ (4 ม.ค.) ภายหลังปรากฏการนำเสนอข่าวออกไป รวมทั้งชุดสืบสวน สน.บางขุนเทียน ลงพื้นที่กดดันอย่างหนัก ทำให้วัยรุ่นที่ก่อเหตุ 2 คน จากภาพวงจรปิด ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน เป็นที่เรียบร้อย ประกอบด้วย นายหรั่ง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี และ นายนก (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี โดยคนขี่รถ จยย.เป็นเยาวชนชาย อายุ 13 ปี ส่วนคนลงมือเยาวชนอายุ 18 ปี ทั้ง 2 รายนำของกลางมีดดาบด้ามสีแดง จำนวน 1 เล่ม และ รถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีขาวร ยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุมามอบให้พนักงานสอบสวน


จากการสอบปากคำทั้ง 2 ราย ยอมรับ ก่อเหตุเพราะความคึกคะนอง โดยก่อนเกิดเหตุ นายนก เป็นผู้ขับขี่รถ จยย.ของกลาง พานายหรั่ง ซ้อนท้าย ไปพบกลุ่มผู้เสียหายเดินอยู่กลางซอย 3 คน จากนั้นนายนก จึงจอดรถ ให้นายหรั่ง ลงไปชักดาบชิงทรัพย์เสื้อยืดแขนยาวสีดำ ลายค้างคาวของวงดนตรีดอนผีบิน แล้วพากันหลบหนี ต่อมาทราบว่าเรื่องที่พากันก่อขึ้นเป็นข่าวโด่งดังและตำรวจติดตามกดดันอย่างหนัก จึงตัดสินใจเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


เหตุการณ์นี้มีคลิปจากกล้องวงจรปิด ขณะที่ 2 คนร้าย ขี่รถ จยย.ใช้อาวุธจี้ชิงเสื้อยืด เมื่อช่วง 5 ทุ่มวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายในซอยเอกชัย 76 แยก 4 ย่านบางบอน กทม. ซึ่งในคลิป มีชายวัยรุ่น 3 คนเดินอยู่ในซอย ระหว่างนั้นก็มีคนร้ายเป็นชาย 2 คนขี่รถ จยย.ตามมาทางด้านหลัง จากนั้นชายคนที่ซ้อนท้ายก็ตะโกนถามว่า "เฮ้ยมึงใส่เสื้อดอนเหรอ มึงใส่เสื้อดอนป่าว มึงถอดดิ" ก่อนจะจอดรถจย.แล้วชูอาวุธขึ้นมาข่มขู่


โดยหนึ่งในกลุ่มผู้เสียหายสวมเสื้อยืดแขนยาวของวง ‘ดอนผีบิน’ ซึ่งเป็นวงดนตรีชื่อดังในอดีต เมื่อเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธจึงได้รีบถอดเสื้อแล้วโยนลงพื้นให้คนร้ายหยิบ ก่อนจะรีบขี่รถจยย.หลบหนีไป เหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องอุกอาจอย่างมาก ซึ่งคาดว่าเสื้อของวงนี้น่าจะกำลังมีราคา และเป็นที่ต้องการของคนที่ชื่นชอบและอยากมีไว้สะสม จึงได้ลงมือก่อเหตุ


ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ซอยเอกชัย 76 จุดเกิดเหตุ สอบถามกับนางทองม้วน อายุ 70 ปี นายจ้าง ผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกจ้างของเธอทั้ง 3 คนเป็นคนลาว พึ่งเข้ามาทำงานได้ 6 วัน โดยได้มาขอเข้าทำงานโดยในวันที่เกิดเหตุ คนงานทั้ง 3 คน ได้เดินทางไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ กลางซอยก่อนจะเดินกลับมายังที่พัก โดยคนงานทั้ง 3 คนได้มาขอตังค์เพื่อไปซื้อเสื้อผ้าใส่


หลังจากเกิดเหตุได้มาเล่าให้ตนฟังว่า ป้าผมโดนปล้น ไม่ได้เงิน ได้แต่เอาเสื้อที่ใส่ไป ตนถามว่าโดนอย่างไร คนงานบอกว่าอีกฝ่ายชักมีดดาบใส่ แต่เห็นอาวุธปืน ทำให้ต้องรีบถอด ถ้าไม่รีบถอดมันก็จะฟันผม โดยคนก่อเหตุมากัน 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มา


ส่วนเด็กผู้เสียหายทั้ง 3 คน นั้น กลัวคนก่อเหตุมาทำร้าย วันรุ่งขึ้นก็เก็บข้าวของหนีไป กลัวจะโดนส่งกลับบ้านประเทศลาว โดยตนเองแจ้งกับทางหมู่บ้านไปโดยทางหมู่บ้านบอกจะจัดเรื่องให้ ส่วนตนเองก็กลัวเหมือนกัน เห็นแต่คนอื่นบอกว่าคนก่อเหตุเป็นเด็กในซอยเหมือนกัน ตนเองอยากให้ตำรวจกวาดล้างเด็กพวกที่มีปัญหาไปให้พ้น


 นายธวัชชัยอายุ ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า วันที่เกิดเหตุตนเองพึ่งกลับจากต่างจังหวัด กำลังจะนอน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายหน้าบ้านจึงเปิดหน้าต่างมอง ได้ยินเสียงว่า เฮ้ยมึงถอดเสื้อ เลยลงมาด้านล่างมาถามกับคนงานทั้ง 3 คน โดยบอกว่าตนเองนั่นโดนปล้น กลุ่มคนร้ายได้เอาเสื้อไป ผู้เสียหายเองบอกว่าไม่เคยเห็นหน้า คนก่อเหตุมาก่อน มีเพียงเจอหน้าร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่คนก่อเหตุจะตามมา โดยผู้เสียหายทั้งหมดก็อยู่ในอาการตกใจ โดยหลังเกิดเหตุนั่นผู้เสียหายนั่นได้หายไปแล้ว คงกลัวโดนส่งกลับประเทศ โดยเสื้อที่ถูกเอาไปนั่นเป็นซื้อที่พึ่งซื้อตลาดนัด โดยป้ายยังไม่ทันได้แกะออกเลย เท่าที่ทราบเป็นเสื้อวงน็อค แต่เสื้อที่คนร้ายเอาไปเป็นเสื้อปลอม


ด้านนายสุทัศน์ หิรัญ กรรมการหมู่บ้านเอกชัย 76 ยอมรับว่าในพื้นที่มีเหตุลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจตราพื้นที่แต่คนร้ายก่อเหตุแบบไม่เลือกเวลา สร้างความหวาดกลัวแก่ประชาชน หลังจากนี้จะเพิ่มความเข้มงวดโดยร่วมมือกันระหว่างตํารวจและเครือข่ายชุมชน เพิ่มช่องทางการแจ้งเตือนและเพิ่มมาตรการป้องกันเหตุต่าง ๆ ทั้งนี้กรรมการหมู่บ้าน เปิดเผยด้วยว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม เวลาประมาณ 19.00 น. เกิดเหตุคนร้ายลักจักยาน ต่อมาวันที่ 2 มกราคม เวลาประมาณ 10.00 น. มีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องภายในบ้านเรือนของประชาชนก่อนหลบหนีไป จนกระทั่งล่าสุดมาเกิดเหตุคนร้ายชิงเสื้อ


 พ.ต.อ.กฤติเดช จันทร์เพชร ผู้กำกับการ สน.บางขุนเทียน เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องได้สั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมไล่ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด จนขณะนี้ยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งควา,แม้ว่าคดีนี้จะไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความหรือมูลค่าทรัพย์สินจะเล็กน้อย แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นเหตุอุกอาจ ซึ่งพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดฐานชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธและโดยมีพาหนะในการหลบหนี


 สำหรับวง “ดอนผีบิน” เป็นวงดนตรีแทรช เมทัลของประเทศไทย เกิดจากการรวมตัวกันเพื่อทำผลงานทางดนตรีของสามพี่น้องตระกูล แก้วทิตย์ เมื่อปี พ.ศ.2528 โดยสร้างงานแบบเพลงใต้ดิน ไม่สังกัดค่ายใดอย่างถาวร และเคยออกอัลบั้มเพลงทั้งกับค่ายเล็ก ๆไปจนถึงค่ายใหญ่อย่างวอร์นเนอร์ มิวสิก ไทยแลนด์ และจีราฟ เรคคอร์ดในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่


วงดอนผีบินได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์ดนตรีให้เป็นอุกกาบาตทางดนตรี เนื่องจากเป็นวงดนตรีจากทางชนบทในภาคเหนือที่ไม่มีที่มาที่ไป และไม่ได้สังกัดค่ายเพลงใหญ่ แต่กลับมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างสูงทั้งภาษาที่งดงาม สำเนียงดนตรีและเนื้อหาในเพลง รวมทั้งภาพวาดสีน้ำมันบนปกอัลบั้มที่สมบัติ แก้วทิตย์ มือกีตาร์ผู้เป็นหัวหน้าวงวาดด้วยตนเอง อีกทั้งชื่อของวงที่ตั้งแบบไม่สนใจการตลาด และเพียงแค่การออกอัลบั้มชุดแรกก็สามารถจุดกระแสในวงการเพลงร็อคได้ และได้รับรางวัล Reader Vote จากนิตยสาร The Quiet Strom ในอัลบั้มชุดต่อมา


โดยชื่อ ดอนผีบิน ของวงมาจากชื่อหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งทางตอนเหนือของจังหวัดน่าน ซึ่งเคยเป็นสมรภูมิรบล้างเผ่าพันธ์ในสมัยอาณาจักรล้านนา ต่อมาได้มีตำนานเล่าขานว่าในคืนวันเพ็ญจะมีแสงสว่างวนเวียนล่องลอยในบริเวณนั้น บางครั้งก็ได้ยินเสียงร้องครวญคราง ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวถูกเรียกขนานนามว่า ดอนผีล่องลอย


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/OtZTm9CSTJo


คุณอาจสนใจ

Related News