เจ้าของบ้านใจเด็ด! ขับรถชนโจรเข้าไปขโมยของในบ้าน ยังแถต่อแค่เข้าไปอุจจาระ

วันที่ 4 ม.ค.67 ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อช่วงบ่าย 2 วานนี้ (3 ม.ค.) ขณะคนร้ายเข้าไปก่อเหตุของภายในบ้านที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งมีรั้วล้อมรอบ ตั้งอยู่ถนนวังพาพัฒนา หมู่ 1 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังหมู่บ้านวงทอง 2 ซึ่งตอนเข้าไปในบ้านมีสุนัข 3 ตัว ที่เจ้าของบ้านเลี้ยงเอาไว้ให้เฝ้าบ้านส่งเสียงเห่าลั่นทั้งบ้าน และไล่ตามคนร้ายทั้งตอนที่อยู่ในบ้าน และขณะเดินออกจากบ้านแต่คนร้ายก็ไม่สนใจ

แต่ว่ากล้องวงจรปิดได้ส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของบ้าน จึงรีบขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักในตัวเมืองหาดใหญ่ มาดูที่บ้านที่กำลังก่อสร้างหลังนี้ และพบกับคนร้าย ซึ่งกำลังขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไปพอดี จึงเรียกให้จอดระหว่างทาง แต่คนร้ายไม่จอด เจ้าของบ้านจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ชนรถของคนร้ายจนล้มลง และเข้าล็อคตัวเอาไว้ได้

เจ้าของบ้านได้สอบถามคนร้ายยังแถอ้างว่า ไม่ได้เข้าไปขโมยของในบ้าน เพียงแต่เข้าไปถ่ายอุจจาระเท่านั้น อ้างว่าปกติแล้วบ้านทุกหลังที่กำลังก่อสร้างใกล้จะเสร็จจะต้องทำห้องน้ำไว้ก่อน เพื่อให้ช่างที่มาตกแต่งภายในได้เข้าห้องน้ำ ถามยังไงก็ยังย้ำคำเดิมว่าไม่ใช่โจร แค่ปวดท้อง แล้วมาแวะเข้าห้องน้ำถึงแม้ช่างที่สร้างบ้านอยู่ใกล้เคียงจะมายืนยันว่า เคยเห็นชายคนนี้ปีนรั้วเข้าบ้านหลังนี้มาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อ 3 วันก่อน แต่ก็ยังบอกว่าแค่เข้าไปอุจจาระไม่ได้เข้าไปขโมยของ

ต่อมาตำรวจสายตรวจของ สภ.หาดใหญ่ ได้มาตรวจที่เกิดเหตุ และควบคุมตัวคนร้ายเอาไว้ทราบชื่อ นายพงษ์ศิษฐ์ อายุ 31 ปี ภูมิลำเนาเดิมเป็นชาว ต.หารเทา อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ตอนตำรวจถามก็ยังอ้างว่ามาเข้าห้องน้ำเหมือนเดิม แม้ว่าในที่เกิดเหตุจะพบว่ามีเหล็กปล้องตัวซีถูกเก็บใส่ถุงเอาไว้ก็ตาม และเมื่อตรวจสอบประวัติพบว่าเคยโดนจับในคดีครอบครองยาเสพติดเมื่อปี 60

อย่างไรก็ตามผัวเมียเจ้าของบ้านก็ไม่ต้องการที่จะเอาเรื่อง แม้จะรู้ว่าตั้งใจมาขโมยของ แต่ว่ายังเอาอะไรไปไม่ได้ ยังให้โอกาส โดยให้ตำรวจคุมตัวไปทำบันทึกประวัติเอาไว้ เพื่อไม่ให้ก่อเหตุที่อื่นอีก

แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ตำรวจคุมตัว นายพงษ์ศิษฐ์ ออกไป และตรวจสอบภายในบ้าน และตรวจภาพกล้องวงจรปิดพบว่า นายพงษ์ศิษฐ์ ได้เอาของหลายอย่างแอบเอาไว้เตรียมมาขนไป ทั้งปั๊มน้ำ เหล็กปล่องตัวซี และแผ่นไม้กระดาน เสียหายหลายอย่าง เมื่อเจอแบบนี้เจ้าของบ้านถึงกับโมโหเพราะว่าทีแรกได้ให้โอกาสแล้ว และพฤติกรรมหนักกว่าที่คิด จึงได้เข้าความกับตำรวจ สภ.หาดใหญ่ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาเพื่อให้จับกุม นายพงษ์ศิษฐ์ มาดำเนินคดี หลังจากทีแรกเพียงแค่มาทำบันทึกประวัติ และปล่อยตัวไปแล้ว