สังคม

ลูกจ้างแสบ! ทำงานได้ไม่ถึงเดือน แอบขโมยของนายจ้างช่วงปีใหม่ รวมมูลค่านับแสนบาท

โดย chiwatthanai_t

4 ม.ค. 2567

95 views

นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านทำป้าย ธนาอาร์ต เลขที่ 220 ถ.สุวินทวงศ์ ต.หน้าเมือง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ที่บันทึกภาพคนร้ายสวมใส่ชุดดำ ซึ่งเป็นลูกจ้างเก่าของทางร้าน แอบเข้ามาขโมยของซึ่งเป็นอุปกรณ์เครื่องมือช่าง และรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในร้านไป ทำให้เจ้าของร้านรู้สึกไม่ปลอดภัย กลัวคนร้ายจะย้อนกลับมาครั้งที่ 3 เพื่อมาเอารถยนต์ที่จอดอยู่หน้าร้านไป เพราะรอบที่สองที่คนร้ายเข้ามาขโมยรถจักรยานยนต์ ได้เอากุญแจสำรองของรถยนต์ไปด้วย ซึ่งในวันนั้นรถยนต์ไม่ได้จอดอยู่ที่ร้าน

ช่วงบ่ายวันนี้ ( 04 ม.ค.67 ) ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายสมศักดิ์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านทำป้าย กล่าวว่า ถูกอดีตลูกจ้างเข้ามาขโมยของในร้านถึง 2 ครั้ง สูญทรัพย์รวมกว่า 1 แสนบาท พร้อมนำภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นพฤติกรรมของคนร้ายให้ผู้สื่อข่าวดู

นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า คนร้ายคือนายวีระยุทธ์ อายุ 40 ปี ตนเองเพิ่งจะรับเข้ามาทำงานได้เพียง 15 วัน พอรับเงินเดือนก้อนแรกก็ออกลายเป็นโจรเข้ามาขโมยของ โดยก่อนหน้านี้นายวีระยุทธ์ ได้ขอเข้ามาทำงานอ้างว่าตกงานมาเป็นปี ไม่มีใครรับเข้าทำงาน ตนเองด้วยความสงสารจึงรับเข้ามาทำงาน ให้ค่าแรงวันละ 400 บาท 15 วันจะออกเงินเดือนหนึ่งครั้ง แต่ตนเองเห็นว่านายวีระยุทธ์ เพิ่งมาทำงานใหม่ คงไม่มีเงินกินในแต่ละวัน ก็ให้เบิกเงินไปใช้กิน ใช้เติมน้ำมันในแต่ละวัน วันละ 200 บาท ส่วนเงินที่เหลือก็มารับตอนเงินเดือนออก


ซึ่งขณะทำงานนายวีระยุทธ์ ไม่มีท่าทีที่แสดงออกมาเลยว่าเป็นโจร จนกระทั่งวันเงินเดือนออก ซึ่งเป็นวันศุกร์ ลูกน้องได้โทรศัพท์มาหาตนว่า วันจันทร์ให้ตนเองขับรถมารับหน่อย เพราะรถจักรยานยนต์ของลูกน้องเสีย ตนเองก็ตอบตกลงว่าจะไปรับลูกน้องที่เช่าห้องพักอยู่ในพื้นที่อำเภอบ้านโพธิ์มาทำงาน แต่เย็นวันอาทิตย์นายวีระยุทธ์ โทรกลับมาบอกว่าไม่ต้องมารับแล้ว เพราะรถซ่อมเสร็จแล้วตนเองก็ไม่ได้เอะใจอะไร บอกแต่เพียงว่าพรุ่งนี้มาทำงานเจอกัน แต่พอตนเองถึงที่ทำงานในวันจันทร์ พบความผิดปกติเมื่อเครื่องอุปกรณ์ช่างทั้งแท่นตัด หินเจีย หายไป จึงได้ย้อนกล้องวงจรปิดดู ก็พบว่านายวีระยุทธ์ ได้เข้ามาขโมยไป เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม 66 ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. หลังจากโทรศัพท์หาตนเองได้ไม่นาน ตนเองจึงนำหลักฐานเข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา



นายสมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทั่งช่วงวันหยุดยาวช่วงปีใหม่ ที่ตนเองเคยบอกลูกน้องในร้านและนายวีระยุทธ์ว่า ร้านจะหยุดยาว 5 วัน ซึ่งตนเองก็ไม่คิดว่านายวีระยุทธ์ จะย้อนกลับมาขโมยของที่ร้านตนเองอีก โดยรอบนี้นายวีระยุทธ์ ได้ย้อนกลับเข้ามาขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ในร้าน ช่วงเวลาประมาณ 11.42 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2566 ซึ่งพฤติกรรมในรอบนี้นายวีระยุทธ์ ได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้าง ให้มาส่งที่หน้าร้าน พยายามเหยียบประตูหน้าร้าน เพราะรู้ว่าปกติแล้วตนเองจะไม่ได้ล็อค เนื่องจากเปิดร้านมาเป็นสิบปีไม่เคยมีของหาย อีกทั้งช่วงเช้าลูกน้องจะมาเปิดร้าน แต่หลังจากโดนนายวีระยุทธ์ เข้ามาขโมยของรอบแรก ตนเองก็เปลี่ยนลูกกุญแจใหม่ทั้งหมด เมื่อนายวีระยุทธ์ เหยียบประตูหน้าร้านแต่ประตูไม่เปิดออก นายวีระยุทธ์จึงเดินเข้าไปหลังร้าน งัดบ้านเกร็ดหน้าต่าง ก่อนจะใช้มือเอื้อมเข้าไปเปิดกลอนด้านใน จากนั้นก็เข้าไปรื้อหากุญแจรถจักรยานยนต์ในออฟฟิศ ซึ่งเป็นกุญแจสำรองที่กุญแจของรถยนต์อยู่ด้วย แต่ในวันนั้นตนเองได้เอารถยนต์ไปจอดไว้ที่บ้าน เพราะเป็นวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ทำให้นายวีระยุทธ์ ได้ไปเพียงรถจักรยานยนต์ รวมๆทรัพย์สินที่นายวีระยุทธ์ ได้ไปสองครั้งร่วมแสนบาท



ผู้เสียหายกล่าวต่อว่า หากเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุม อดีตลูกน้องเก่าของตนตั้งแต่รอบแรก ทั้งๆที่รู้ที่อยู่และมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดที่นายวีระยุทธ์ เข้ามาขโมยของ ไม่ต้องรอหมายจับนานเป็นสิบวัน รถจักรยานยนต์ ที่นายวีระยุทธ์เข้ามาขโมยรอบที่สองก็คงไม่หายไป ตอนนี้ตนเองและภรรยาก็ต้องอยู่ด้วยความหวาดระแวง ต้องขับรถคนละคันออกมาจากบ้านพักกับภรรยาและลูกน้อยวัย 11 เดือน ซึ่งปกติจะขับรถออกมาคันเดียวพร้อมกันจากบ้านพักมาที่ทำงาน ส่วนรถยนต์กระบะก็จะจอดไว้ที่หน้าร้าน แต่ตอนนี้ไม่กล้าจอดไว้แล้ว เพราะนายวีระยุทธ์ มีกุญแจสำรองติดไปกับกุญแจรถจักรยานยนต์ ขนาดจอดหน้าบ้านพักของตนเองดึกๆ ก็ต้องตื่นขึ้นมาดู เพราะไม่รู้ว่านายวีระยุทธ์ จะตามมาขโมยรถยนต์ที่ตนเองใช้ทำมาหากินหรือไม่ วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามจับกุมอดีตลูกน้องเก่าของตนให้ได้โดยเร็ว

คุณอาจสนใจ

Related News