สังคม

สวดถอนวิญญาณ ย้ายรูปปั้น ‘ครูกายแก้ว’ เจ้าของ รร.ปะทะเดือด เจ้าของรูปปั้น ปมค่าปรับ 1.3 ล้าน

โดย thichaphat_d

29 ธ.ค. 2566

61 views

เจ้าของโรงแรม เดอะ บาซาร์ฯ ทำพิธีย้าย “ครูกายแก้ว-จิ้งจอก 9 หาง-พระพรหม -พระแม่อุมาเทวี -ขุนแผน -เทพเห้งเจีย-เทพนาจา-เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย รวม 8 รูปปั้น ยึด “ครูกายแก้ว” เป็นตัวประกัน ลั่นหากอยากได้คืนต้องเอาเงินมาจ่าย 1.3 ล้าน เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าชาวจีน ปะทะเดือดหลังบริษัทครูกายแก้ว ระบุ เช่าถูกต้องตามสัญญายันฟ้องศาลเรียกค่าเสียหาย

วานนี้ (28 ธ.ค.) นายไพโรจน์ ทุ่งทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทสวนลุมไนท์บาร์ซ่า รัชดาภิเษก จำกัด และเจ้าของโรงแรม เดอะ บาซาร์ แบงค็อก และผู้บริหารโรงแรมฯ ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีทางศาสนา เพื่อถอนรูปปั้นครูกายแก้ว / รูปปั้นจิ้งจอก 9 หาง พระพรหม / พระแม่อุมาเทวี / ขุนแผน / เทพเห้งเจีย / เทพนาจา และเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย รวม 8 รูปปั้น ออกจากพื้นที่ลานด้านหน้าโรงแรม และเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ หลังจากนำมาให้ประชาชนที่มีความเชื่อได้กราบไหว้เพียง 4 เดือน

ทั้งนี้พบว่า บริเวณลานดังกล่าว มีการเก็บข้าวของที่เคยใช้เป็นอุปกรณ์ในการไหว้ครูกายแก้วออกไปบางส่วนแล้ว เหลือเพียงโต๊ะ กระถางธูป และพาน บางส่วนเท่านั้นและไม่ได้อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ซึ่งการเคลื่อนย้ายในครั้งนี้ เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้สั่งให้ บริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ ย้ายรูปปั้นออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน หรือภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 พร้อมกับให้บริษัท จ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 1.3 ล้านบาท เพราะในพื้นที่ดังกล่าวห้ามมีการก่อสร้างใดๆ ที่ผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งทางบริษัทฯ ได้จ่ายค่าปรับไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา

แต่ระหว่างที่ทางโรงแรม ได้เตรียมเครน มาเคลื่อนย้ายรูปปั้นครูกายแก้ว ก็ปรากฎว่านายเทพฤทธิ์ แป้นสุข กรรมการผู้จัดการบริษัทครูกายแก้ว จำกัด พร้อมทีมงาน ได้เดินทางมาติดตามดูการเคลื่อนย้าย ทำให้ทาง ทนายความของบริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้เข้าไปพูดคุยเจรจา

โดยทนายความ ยืนยันว่า จำเป็นต้องย้ายออก เนื่องจากพื้นที่ของการรถไฟ ไม่สามารถอนุญาตให้มีการปล่อยเช่าช่วงได้  และผู้บริหารชุดเก่า ที่ใช้ชื่อบริษัทสวนลุมไนท์บาร์ซ่า ไปปล่อยให้เช่าก็ไม่สามารถทำได้ เพราะเจ้าของพื้นที่จริงๆที่ได้รับสิทธิ และทำสัญญากับการรถไฟฯ คือ บริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์

โดยการรถไฟฯ สั่งให้รื้อถอน และขนย้ายสิ่งปลูกสร้างออกไปภายใน 30 วัน ดังนั้นเมื่อทางบริษัทหนังสือจากการรถไฟก็กลัวถูกบอกเลิกสัญญา จึงได้ดำเนินการเสียค่าปรับ และรีบทำตามระเบียบของการรถไฟทันที พร้อมทั้งมองว่าบริษัทครูกายแก้ว น่าจะถูกผู้บริหารชุดเดิมที่ให้เช่าหลอก เพราะหากดูสัญญาเช่า จากผู้ให้เช่าแต่เดิม ก็จะรู้ว่าไม่มีสิทธิที่จะให้เช่าช่วงได้อย่างแน่นอน

ทำให้ผู้บริหารบริษัทครูกายแก้ว ก็ยืนยันว่า ตนเองดำเนินการถูกต้องตามสัญญาเช่าเช่นกัน และไม่แสดงความจำนงค์ว่าไม่ยินยอมที่จะให้ย้ายออก พร้อมโชว์ใบแจ้งความ ที่ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่า ตนเองไม่ยินยอมให้ย้ายออก

โดยนายเทพฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทครูกายแก้ว บอกภายหลังเจรจา ว่าบริษัทตนเองได้ดำเนินการตามสัญญาเช่าที่อย่างถูกต้อง และหลังจากนี้จะยื่นให้ศาลพิจารณาและมีความคุ้มครอง เพราะมองว่าจะเป็นทางออกได้ดีที่สุด ส่วนการเคลื่อนย้าย ถ้าเขายกเขาก็ต้องรับผิดชอบไป

ส่วนจะเอาไปไว้ไหนคงไว้ในนี้ก่อน ยังไม่เอาออกไปไหน เพราะเราก็มีหนังสือ มีสัญญาถูกต้อง ถ้าหากการย้าย การยก แล้วเสียหายก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะประเมินมูลค่าความเสียหายแล้ว ก็หลาย 10 ล้านบาท ส่วนที่อ้างว่า บริษัทครูกายแก้วถูกหลอกนั้น มองว่าทางบริษัทก็มีเอกสารชี้แจงชัดเจน และยืนยันว่าหลังจากนี้ดำเนินการฟ้องกลับแน่นอน

หลังจากมีการเจรจากันเสร็จสิ้น ทางเจ้าของโรงแรมฯ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ก็สั่งให้เครน ดำเนินการยกรูปปั้นครูกายแก้ว ออกทันที รวมถึงรูปปั้นอื่นๆ จนครบทั้ง 8 รูปปั้น และนำขึ้นรถเพื่อไปเก็บไว้หลังโรงแรมก่อน เพื่อรอให้บริษัทครูกายแก้ว มาขนย้ายออกไป ส่วนแท่นตั้งรูปปั้นก็จะดำเนินการทุบทิ้ง และปรับปรุงพื้นที่ใหม่ทั้งหมดด้วย

จากนั้นนายไพโรจน์ เจ้าของโรงแรม เดอะ บาซาร์ แบงค็อก และผู้บริหารบริษัท แบงค์ค็อกไนท์บาซาร์ ได้แถลงข่าวยืนยันว่าก่อนหน้านี้ผู้บริหารชุดเก่า มีการทำแผนฟื้นฟูกิจการไม่สุจริตและไม่ตรงตามแผน ทำให้ตนเองได้กลับมาบริหารโรงแรมอีกครั้ง โดยจะทำให้โรงแรมสะอาดปลอดภัย ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบใหม่ทั้งหมด

ส่วนสาเหตุการเคลื่อนย้ายรูปปั้นครูกายแก้ว เนื่องจากการเคลื่อนย้ายครูกายแก้วและองค์เทพอื่นๆ มาในช่วงบริษัทกำลังทำแผนฟื้นฟูกิจการกับศาลล้มละลาย ซึ่งกรรมการของบริษัทไม่เห็นด้วย จึงได้มีการฟ้องร้องต่อศาลล้มละลายว่า นายชาญ ตุลยาพิศิษฐ์ชัย ผู้ที่ทำแผนฟื้นฟู นำที่ดินด้านหน้าโรงแรมไปให้บริษัทครูกายแก้วไปเช่าช่วงต่อ  ทั้งที่บริษัทเช่าจากการรถไฟทำให้บริษัทผิดสัญญาเช่าการรถไฟ และยังมีเรื่องความผิดปกติการบริหาร

อย่างเอาไดโรเสาร์ที่เป็นสัญลักษณ์ของโรงแรม ไปขาย 2 ล้านบาท แต่ในบัญชีบริษัท ระบุเพียง 2 แสนบาทเท่านั้น ทำให้ศาลฟื้นฟูมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งฟื้นฟูกิจการ ให้ผู้บริหารชุดเก่าคือตนเองเข้ามาบริหารบริษัท  ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และปลดนายชาญ ออกจากทุกตำแหน่ง และจ่ายค่าปรับ 1,330,000 บาท ให้การรถไฟ นอกจากสัญญาเช่าการรถไฟแล้ว ครูกายแก้วและองค์เทพต่างๆ ยังผิดกฎหมายกรุงเทพมหานคร ด้วย

ซึ่งหลังจากนี้จะมีการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามติดต่อไปที่บริษัทครูกายแก้ว ให้มาเจรจาแล้วแต่ก็ไม่มาถึงสองครั้ง โทรศัพท์ติดต่อไปที่คนนำครูกายแก้วมาตั้งก็บ่ายเบี่ยง จึงตัดสินใจเคลื่อนย้ายครูกายแก้วไปเก็บไว้ในพื้นที่ของโรงแรมรอการติดต่อจากเจ้าของตัวจริง  จนวันนี้มีเจ้าของมาแสดงตัวและยังสั่งห้ามไม่ให้รถเครนยกซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีตนเองจะได้รู้ว่าใครเป็นเจ้าของตัวจริงจะได้ไปเรียกเก็บค่าปรับที่ตนเองเสียให้การรถไฟ  

และตนเองรวมถึงกรรมการบริหารที่เข้ามาบริหารต้องการที่จะทำเพื่อนักท่องเที่ยวชาวจีน และคนในละแวกนี้ที่เคยหวาดกลัวครูกายแก้ว เพราะก่อนหน้านี้เป็นไดโนเสาร์ มีหน้าตาน่ารักและเป็นสัญลักษณ์ให้คนจีน เรียกว่า ‘โรงแรมไดโนเสาร์’ พร้อมยอมรับว่า 40% ที่ย้ายออก เพราะรูปปั้นครูกายแก้ว

ตนเองจึงต้องเคลื่อนย้ายคู่กายแก้วและองค์เทพอื่นๆ ที่นายชาญ เคลื่อนย้ายมาออกไปทั้งหมด ตามที่โลกโซเชียลได้เรียกร้องเพราะที่นี่เป็นโรงแรมไม่ใช่สำนักจอมขมังเวทย์ และส่วนหนึ่งก็เพราะเจ็บใจที่เอารูปปั้นไดโนเสาร์ตนเองไปขายด้วย ส่วนเรื่องการที่บริษัทครูกายแก้วทำสัญญาเช่า กลับบริษัทสวนลุมไนท์บาซ่า ตนเองยังไม่เคยเห็นเงินค่าเช่าและสัญญาเช่า


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ih9cmid6T6Y


คุณอาจสนใจ

Related News