ชูวิทย์แฉซุปเปอร์ดีลพาทักษิณกลับบ้าน ใช้สูตรเหลือง + แดงพิฆาตส้ม 279 เสียง

วันนี้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้นัดสื่อมวลชนแถลงข่าว ทำไมทักษิณถึงกลับบ้าน โดยนายชูวิทย์ ระบุถึงสาเหตุที่เชิญสื่อมา เพราะเห็นว่ามีการปล้นคะแนนประชาชน ที่มาจากการเลือกตั้ง มีผลออกมาแน่ชัดนั่นคือทรัพย์สมบัติที่ประชาชนมอบให้ แต่เมื่อปรากฏว่าได้ทรัพย์สินไป กลับมาทำร้ายประชาชน นั่นคือสิ่งที่รับไม่ได้นั่น และนั่นคือเหตุผลที่มาพูดในวันนี้



คุณชูวิทย์ อธิบายว่าผลการเลือกตั้งแสดงชัดเจนว่าฝั่งประชาธิปไตยได้ 312 เสียง ส่วนอีกฟากฝั่งได้ 188 เสียง



ในเวลาต่อมา 312 เสียง มีการจับมือทำ MOU ซึ่งเบื้องลึกจริงๆในการเซ็น MOU ตนไม่เอ่ยชื่อ แต่คนที่ไปจับมือบนเวที หลังจากลงมาแล้วก็ยังไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริง ดังนั้น MOU แปดพรรค ล่มตั้งแต่วันแรก หรือมีความตั้งใจ ที่จะให้ล้มตั้งแต่วันแรกแล้ว



ในรอยร้าวนี้ ปรากฏได้จากประธานสภา จะเห็นรอยร้าว ต่อมามีการโหวตนายก รอบแรก ก็คือไม่ผ่านส.ว.  พอโหวตรอบ 2 ก็โหวตไม่ได้ และจะโหวตรอบสาม ก็เลื่อน และไปจบวันที่ 3 สิงหาคม



การที่ก้าวไกล ยกให้เพื่อไทยเป็นแกนนำ เพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ก็ใช้วิธีการอัญเชิญ 188 เสียงอีกฟากฝั่งมาคุยกับเพื่อไทย โดยบอกว่าเป็นการหาแนวทาง ทั้งที่จริงๆในการเมืองร้อยทั้งร้อยก็รู้อยู่ ว่าเป็นการโชว์ให้ผู้สื่อข่าวเห็นว่ามีการจีบกัน มีการชักชวนกัน เมื่อกระแสไม่ดีทุกอย่างก็กลับไปเงียบสงบ



และเมื่อกลับไปเงียบสงบแล้ว ท้ายสุดมีการตกลงกัน ซึ่งตนเรียกว่า “Super Deal”




จากนั้นคุณชูวิทย์ก็เปิดภาพ ของนายทักษิณ ชินวัตร  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  นายพายัพ ชินวัตร และ นายประภัตร โพธสุคน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา และอีกภาพที่นายประภัตร กับ นายทักษิณยกมือไหว้ทักทายกัน



คุณชูวิทย์ ระบุว่า ภาพดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร เวลาบ่าย 3 โมง ที่โรงแรมเพนนินซูล่าฝั่งเกาลูน ของฮ่องกง โดยระบุว่า super deal ที่ว่า มีแกนนำเพื่อไทยไป แกนนำพรรคอื่นๆไป  มีศาสดาไป (หมายถึงธนาธร)  มีนายทุนไป และมีทหารไปก่อน



ดังนั้นถามว่า ทำไมต้องไปคุยกับทักษิณ คุณชูวิทย์ อธิบายว่า ก็เพราะว่าพรรคเพื่อไทยอยู่ตรงกลางระหว่างสองข้างนี้ (ระหว่าง 312 เสียง กับ 188 เสียง) เพื่อไทยหรือที่เดิมเรียกว่าแดง ไปผสมกับเหลืองได้ แล้วทำไปเพื่ออะไร ก็เพื่อไปล้มส้มใช่ไหม  ส่วนส้มผสมเหลืองมันไม่ได้



ดังนั้นถ้าตนพูดไป อย่ามาตำหนิผม เพราะสิ่งที่พูด เป็นประโยชน์กับบ้านเมือง เนื่องจากสิ่งที่คุณทำต่างหาก เป็นคุณปล้นทรัพย์สินประชาชนมา จึงเรียกว่า 1 เสียง แลก 26 ล้านเสียงมันคุ้มค่าไหม



เพราะฉะนั้น super deal คือ การให้ทักษิณกลับบ้าน เมื่อกลับมาแล้วถ้าไม่ปล่อยออกมา ก็จะไม่มีดีลนี้ ซึ่งหลายคนมองว่า คุณทักษิณ เป็นตัวประกัน แต่ตนดูว่า เป็นคนคุมเกม โดยมองว่า การกลับมา กลับได้เป็นร้อยเป็นพัน จะกลับเวลาไหนไม่กลับ มากลับเวลา climax



แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ดีลนี้นายทักษิณจะต้องกลับก่อนถึงจะเกิด เพราะทักษิณคือผู้นำจิตวิญญาณ และเห็นหลักฐานแล้วว่าทุกคนจะต้องไปหาทักษิณถึงฮ่องกงทำไมล่ะ



แต่การจะแยกข้าวต้มมัดอย่างไร คุณชูวิทย์ จึงมีการนำตัวเลขที่นั่งของ เพื่อไทย ไปบวกภูมิใจไทย พลังประชารัฐ และยกรวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน หากรวมไปรวมมา จะกลายเป็น 279 ต่อ 221 ซึ่งตนมองว่า 279 คือสูตรที่จะทำการสำเร็จ แต่จะเป็นสูตรที่ตนเรียกว่าปล้นคะแนนประชาชน




เพราะฉะนั้น แต่ถ้าถามตนว่าจะเลิกกันยังไง ก็ให้ย้อนไปดูครั้งแรกก้าวไกลจัดตั้งไม่สำเร็จ มองให้พรรคอันดับสอง คือพรรคเพื่อไทย จัดก็ไม่สำเร็จ





จากนั้นจึงต้องให้พรรคอันดับสาม ก็คือพรรคภูมิใจไทยจัดตั้งได้สำเร็จ เมื่อถามว่าทำไมสำเร็จ เพราะว่าสูตรที่ตนบอก เมื่อเป็นการนำภูมิใจไทย ก็จะเป็นเจ้าบ้าน เป็นคนเชิญพรรคต่างๆ มาร่วม แต่ไม่เชิญก้าวไกล และการเจรจาครั้งนี้ก็ได้ให้บุคคลคนหนึ่ง เป็นว่าที่นายก ในการโหวตครั้งที่สามหรือครั้งที่สี่ก็ได้



สูตรนี้เป็นสูตรล่าสุด ให้ภูมิใจไทยเป็นแกนนำแกะข้าวต้มมัด เพราะจะให้เพื่อไทยเป็นคนพูดเองก็ไม่ได้ในการแกะเค้าต้มมัด ดังนั้นก้าวไกล เป็นฝ่ายค้านชัดเจน สวนกับกระแสประชาชน ก้าวไกลตกอันดับทั้งประธานสภานายกรัฐมนตรี  รัฐบาล  แม้กระทั่งผู้นำฝ่ายค้าน



การใช้วิธีนี้ คือการยืมมือพรรคภูมิใจไทยการยืมปากภูมิใจไทย แต่มันไม่ตรงกับเจตนารมย์ของประชาชนที่เลือกตั้ง



คุณชูวิทย์ ยังขยายความต่อว่า ตนเป็นคนคุก ทราบดีว่า หากอายุเกิน 70 ปี เค้าเรียกว่าคนแก่ เมื่อคนแก่เข้าไป โดยหลักการแม้กระทั่งชั่วโมงเดียว 2 ชั่วโมง หรือหนึ่งวัน จะสามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ โดยการยืนไม่สามารถยื่นก่อนได้ และคนที่จะยื่นต้องสละยศ ซึ่งในกรณีของนายทักษิณได้มีการถอดยศแล้ว และอายุ 74 ปีบริบูรณ์ ถ้าในภาษาคนคุกก็จะเรียกว่า ออกลูกคนแก่



และในบางกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้ต้องขังที่มีอายุเกิน 70 ปีขึ้นไป ถ้าอายุมาก กึมีเงื่อนไขใส่กำไล em นั่งอยู่ที่บ้านก็ยังได้อีก



จากนั้น คุณชูวิทย์ ก็เอาแสตนดี้เงาชายตัวสูงคนหนึ่งมา พร้อมมีข้อความว่า “นายกคนใหม่ประเทศไทย ความซื่อสัตย์ เป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ?



ก่อนบอกว่า ผมขอเปิดอภิปรายนอกสภาตามสไตล์ตนเอง พร้อมเปิดภาพชายคนหนึ่ง โดยบอกว่ามีนามฉายาว่า “ขงเบ้ง” ผู้เป็นเบื้องหลังว่าที่นายกฯคนต่อไป ในวงการหุ้น ที่ดิา อสังหาริมทรัพย์จะรู้จักดี จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตาดู




พร้อมฟันธงว่า ทุกสิ่งจะเกิดขึ้นไม่เกินวันที่ 15 สิงหาคม จะมีนายก บวก ครม. ใหม่แน่นอน




เมื่อถามว่าคุณทักษิณจะกลับไทยแน่นอนหรือไม่ และ เมื่อกลับมาจะทำอะไรเป็นอย่างแรก คุณชูวิทย์ บอกว่าตนคิดว่า 80% จะกลับมา เพราะคุณทักษิณอยู่ในสถานะตัวประกัน และอยู่ในสถานะผู้คุมเกม ที่พูดแบบนั้นเพราะคุณทักษิณจะกลับมา คุณทักษิณต้องเป็นตัวประกันก่อน และเมื่อมาถึงก็อาจจะมีการก้มกราบพื้นแผ่นดินไทยเพราะจากประเทศไทยไปนาน 17 ปี



เมื่อถามว่า หากภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้ง แต่ทำไมนายกฯ เป็นคนตัวสูง ชูวิทย์บอกว่า ก็เพราะเพื่อไทย มีคะแนนมากที่สุด //ส่วนภูมิใจไทย ก็ได้รัฐมนตรืคมนาคม สาธารณสุข และ อาจจะพ่วงรัฐมนตรีเกษตรไปด้วย



พร้อมบอกว่า ตนไม่สนใจหรอก เค้าได้เป็นนายก แต่เขาก็จะแปดเปื้อนตั้งแต่วันแรกที่รับตำแหน่ง ด้วยข้อมูลที่ผมมี โดยตนจะทำเป็นซีรี่ย์คนตัวสูงๆ และจะพูดถึงขงเบ้งด้วย ซึ่งยืนยันว่านายกของตนจะต้องเป็น มีความสุจริตซื่อตรง ตามมาตรา 160 ในรัฐธรรมนูญที่ระบุว่านายกจะต้องมีความซื่อสัตย์ เป็นที่ประจักษ์ เป็นนายกที่มีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ไม่ใช่ทำการซ่อนเร้นอำพรางเป็นที่ประจักษ์



เลยมีการถามว่า จะมีการแฉนายกรัฐมนตรีตัวสูงตั่งแต่วันแรกที่รับตำแหน่งเลยใช่ไหม คุณชูวิทย์ตบมือ พร้อมยืนยันว่าตนไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวอะไรกับคนนั้น และไม่มีใครจ้างตนพูด



และมีการถามว่า แสดงว่ารอบที่สาม จะมีการเสนอชื่อของใครระหว่างผู้หญิง หรือผู้สูงอายุ นายชูวิทย์กล่าวว่าเท่าที่ได้เท่าที่ได้รับฟังมาจะเป็นคนที่สูงอายุ และการโหวตเลือกนายกรอบที่ 3 จะเป็นการโหวตทดลอง และจะโหวตไม่ผ่าน



พร้อมย้ำว่าการจะจัดตั้งรัฐบาลผสม ดีลจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อนายทักษิณได้กลับบ้านก่อน



เมื่อถามว่าการจัดการจัดตั้งรัฐบาลสูตร 279 เสียงตามที่นายชูวิทย์กล่าวอ้าง พี่มีพรรคพลังประชารัฐรวมอยู่ด้วย พลเอกประวิตรเท่ากับว่าพลเอกประวิตร จะต้องวางมือหรือไม่ นายชูวิทย์บอกว่า แน่นอนว่าบิ๊กป้อม ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว แต่เป็นน้องชายหรือพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยตามที่พลเอกประวิตรมีการจองไว้