‘ชูวิทย์’ แฉมีคนเตรียมแผน 2 รอตั้งรัฐบาล ดีลลับที่สนามกอล์ฟ เพื่อเปิดทางให้ ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน

ชูวิทย์แฉมีคนเตรียมแผน 2 รอตั้งรัฐบาล ดีลลับที่สนามกอล์ฟให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ยื่นข้อเสนอให้เพื่อไทย ร่วมกับพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย เพื่อเปิดทางให้ทักษิณกลับบ้าน แนะควรยกประธานสภาให้ก้าวไกล - ชี้ เพื่อไทยได้กระทรวงเกรด A ไปเกือบหมด ส่วนกรณีปมนายแพทย์ชลน่าน และ น.ต.ศิธา ชี้เป็นรอยร้าว แตกทีละนิดระวังแผลใหญ่ ยันมีขบวนการทำให้แตกกัน

วานนี้ (25 พ.ค. 66) เวลา 15.00 น. ที่ศูนย์ต่อต้านกัญชาเสรี โรงแรมเดอะเดวิส ซอยสุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาล ว่า การเมืองยุคปัจจุบัน ควรจะเป็นการเมืองรูปแบบใหม่เพราะประชาชนส่วนใหญ่เลือกมาแล้ว

โดยสูตรการจับมือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล จะต้องเดินไปด้วยกันไม่มีอื่น แต่ตอนนี้มีคนทำให้แตก โดยสังเกตได้จากการทะเลาะเบาะแว้งกัน ทั้งเรื่องความไม่ไว้วางใจ และเรื่องประธานสภา นายชูวิทย์ ถามว่า “จะไปทำมาหากินร่วมรัฐบาลอะไรก็ได้ ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทะเลาะกัน ตำแหน่งประธานสภา ที่ผ่านมาก็มีแต่การตกลงมาก่อน ส่วนการโหวต ก็เป็นไปตามธรรมเนียมเฉยๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นก็ทะเลาะกันเรื่องแย่งประธานสภาแล้ว”

“ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกลจะต้องมาทะเลาะเรื่องนี้กันเลยเหรอ และตำแหน่งนี้ก็เป็นตำแหน่งแรกของการตั้งรัฐบาล ซึ่งปกติไม่มีใครมาโหวตเพื่อเลือกประธานสภา มีแต่การตกลงมาก่อนแล้วทั้งสิ้น แต่ตอนนี้ยังไม่ทันเริ่มต้นเลยก็ทะเลาะแย่งตำแหน่งนี้กันแล้ว ส่วนเหตุผลที่ตำแหน่งประธานสภา มีความสำคัญ เพราะประธานสภาจะต้องเสนอวาระนายกรัฐมนตรีในการพิจารณา ซึ่งก็ต้องดูกันอีกว่า นายพิธาลิ้ม เจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะผ่านด่าน ส.ว. ไปได้หรือไม่”

มีการกระแสข่าวเรื่องความขัดแย้งแย่งตำแหน่ง นั่นก็เพราะตำแหน่งประธานสภา เป็นคนเสนอวาระ ชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเชื่อว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรี เพียงคนเดียวของพรรค อาจจะไม่ผ่านปมการถือหุ้นสื่อไอทีวี ซึ่งมีการวางแผนไว้แล้วของบุคคลหนึ่งที่ไปยื่นหนังสือ และวุฒิสภาอาจจะยกเป็นข้ออ้างว่านายพิธา ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี

นายชูวิทย์ ยังระบุว่า หากปล่อยให้ประธานสภา เป็นคนของพรรคเพื่อไทย สุดท้ายแล้วจะต้องมีการเสนอชื่อแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย จะทำให้ตำแหน่งสำคัญไปอยู่ที่กับพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่พรรคก้าวไกล  

นายชูวิทย์ มองว่า มองว่าพรรคก้าวไกลยอมให้พรรคเพื่อไทย มากแล้ว จึงมองว่าตำแหน่งประธานสภา ควรเป็นของก้าวไกล “อยากให้ 2 พรรคนี้ดำเนินการไปต่อ อย่าเล่นเกมการเมืองเลย เพราะมันมีข้อมูลว่า มีการคิดแผน 2 ให้พรรคก้าวไกลและรวมไทยสร้างชาติเป็นฝ่ายค้าน โดยมีการยื่นข้อเสนอให้พรรคเพื่อไทย ร่วมกับพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย เพื่อเปิดทางให้นายทักษิณ กลับบ้าน” นายชูวิทย์ กล่าวว่า ต้องพูดดักไว้ก่อนเพราะมันมีคนคิดแผนนี้ที่สนามกอล์ฟไพน์เฮิร์สท เมื่อสองวันก่อน

ส่วนตัวนายชูวิทย์ มองว่า ตำแหน่งประธานสภาคิดว่าต้องให้ก้าวไกล เพราะเพื่อไทยได้กระทรวงเกรดเอไปแล้วหลายกระทรวง และก้าวไกลก็มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว คิดว่าเกมที่มานั่งทะเลาะกันแบบนี้มันจะเข้าข่ายหารตั้งรัฐบาลสูตรที่ 2 หรือเปล่า อีกทั้งก่อนหน้านี้ที่ทางเพื่อไทย พยายามออกมาบอกว่า จะให้ก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ลับหลังกลับมาทะเลาะกันแบบนี้

นายชูวิทย์ บอกว่า ถ้าให้ตัวเองเลือก ก็อยากเลือกให้พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลได้จัดตั้งรัฐบาล เพราะอยากลองของใหม่บ้าง และถ้ามองสถานการณ์ตอนนี้ก็มีโอกาสเหมือนกันที่นายพิธา จะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะมีการวางแผนเรื่องหุ้นสื่อ ซึ่งเพื่อไทยน่าจะรู้อยู่แล้ว เพื่อไทยจึงห่วงเรื่องประธานสภา ซึ่งนายชูวิทย์ เป็นห่วงว่าจะมีการจับขั้วรัฐบาลใหม่ และตอนนี้ตัวเองก็อยากให้มีประชาธิปไตยที่หอมหวลทำงานไปตามที่มันควรจะเป็น

ส่วนกรณีการทะเลาะกันระหว่างนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ น.ต.ศิธา ทิวารี นั้นมองว่ามันจะเป็นรอยร้าว ที่ค่อยแตกทีละนิด ตนทราบด้วยว่าวันนี้มีขบวนการพยามทำให้แตกแยกกัน แรกที่รู้จักนายแพทย์ชลน่านไม่ได้เป็นคนมีท่าทีแบบนี้ “ผมไม่ได้โง่ดูละครลิงหลอกเจ้า”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางออกของปมประธานสภา หากเสนอให้พรรคประชาชาติ โดยให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภา ได้หรือไม่ นายชูวิทย์ ระบุว่า เหมาะสมเพราะอาจารย์ เคยดำรงตำแหน่งประธานสภามาก่อน “ทางที่ดีควรจะพูดคุยกันอย่าให้มีการโหวต หากมีการโหวตนั่นหมายความว่า มีรอยร้าวเกิดขึ้นกันจริงระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกล เหมือนคู่แต่งงานใหม่” ทั้งนี้ตนวิเคราะห์แล้วอยู่ด้วยกันได้แค่ 1 ปี ก็ต้องเลิกรากันไป

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้ ส.ว.หลายคนก็ยืนยันที่จะโหวตให้กับนายพิธา และตัวของนายพิธา เองก็มีประเด็นเรื่องการถือหุ้นสื่ออยู่ ซึ่งกรณีหุ้นสื่อมีคนนำไปถามเป็นวาระสุดท้ายในการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทไอทีวี ว่ายังมีการประกอบกิจการสื่ออยู่หรือไม่ ซึ่งประธานในที่ประชุมบอกว่ายังมีการประกอบกิจการอยู่ ดังนั้นประเด็นเรื่องการถือหุ้นสื่อ ส.ว. อาจจะเห็นว่าคุณสมบัติของนายพิธา ยังไม่ผ่าน ก็ทำให้ ส.ว.จะมีข้ออ้างในการสวนมติของประชาชนได้เช่นกัน

---------------
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ว่า 

อเมริกาจะให้เงินก้าวไกลเพื่อครอบงำไทย ต่อไปมนุษย์ต่างดาวเอาทองคำมาให้ก้าวไกลเพื่อบุกไทยตั้งฐานทัพ ก็คนกินแม้กระทั่ง “ฉี่” ตัวเองได้ นับประสาอะไร จะปั้นเรื่องอื่นไม่ได้อีก

---------------

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/pENkKaNieNc