อาลัย 'ดีเจวิว' แม่เล่าไทม์ไลน์ ยังข้องใจสาเหตุเสียชีวิต 'ผอ.รพ.' เผยอาการ รอผลชันสูตรออก 1 มี.ค.

อาลัย ดีเจวิว ดีเจหนุ่มน้อยโด่งดังในโลกออนไลน์ เจ้าของวลีฮิต "อ่ะฮิฮิฮี ไปไปไป๊" วัย 14 ปี ประสบอุบัติเหตุแต่หมอไม่แอดมิท รักษาเสร็จให้กลับบ้าน จู่ ๆ หายใจไม่ออก ปวดท้องหนัก อ้วกเป็นเลือด พ่อนำส่ง รพ.เสียชีวิต ครอบครัวข้องใจสาเหตุการเสียชีวิต นำร่างส่งชันสูตร


เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 เพจ Dj_VieW ได้โพสต์ข้อความ "จากที่ดีเจวิว ได้เกิดอุบัติเหตุทางรถ ผม ผจก.ดีเจวิว ขออัพเดทอาการล่าสุดให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องทราบครับ ดีเจหมดสติ ขณะนำส่งโรงพยาบาล อยู่ในความดูเเลอย่างใกล้ชิดของเเพทย์ครับ ขอกำลังใจจากทุกคนที่รู้จักน้องขอให้น้องผ่านพ้นขีดอันตรายนี้ไปได้ขอปฏิหาริย์จงเกิดกับน้องครับ"


ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Sarayut Iammongkhon ซึ่งเป็นผู้จัดการของดีเจวิว ได้โพสต์สเตตัสอัปเดต โดยเป็นการยืนยันการเสียชีวิตของดีเจวิว ว่า "หนังสือเล่มนี้เขียนมาถึงหน้าสุดท้ายเเล้ว สุดท้ายนี้เหลือเเค่ตำนาน เเม้ไร้ลมหายใจ ก็ยังมีผลงานให้เห็น" พร้อมกล่าวทิ้งท้ายโพสต์ถึงน้องเป็นครั้งสุดท้ายว่า "28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 01.58 น. น้องได้จากเราไป อ่ะฮิฮิฮี ไปไปไป๊ คำนี้แม่งโดนว่ะ อีห่า # พิธีต่าง ๆ จะมาอัพเดทให้นะครับ"


สำหรับน้องวิว ธัญยธรณ์ โพธิ์มณี หรือ ดีเจวิว วัย 14 ปี เป็นดีเจหนุ่มน้อยโด่งดังผ่านทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ และเป็นเจ้าของวลีฮิตติดปาก "อ่ะฮิฮิฮี ไปไปไป๊" จนเป็นที่ชื่นชอบของชาวเน็ตและมีผู้ติดตามจำนนวนมาก


ดีเจวิว ยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางจากการโพสต์คลิปไลฟ์สด พร้อมคำคมประเภท "แสนดีทำไม เขาเลือกคนถูกใจไม่ใช่คนดี" "อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ขนาดคุมกำเนิดยังเกิดได้" และปิดท้ายด้วยวลี "เอ้า ไปไป" "อะฮิฮิฮิ"  


ทั้งนี้ก่อนที่ดีเจวิว จะเสียชีวิต ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของดีเจวิว ยังได้โพสต์คำคม "ถนนยังมีทางแยกมันก็คงไม่แปลกที่เธอจะมีทางเลือก" พร้อมโพสต์คลิปขณะที่ดีเจวิว โชว์ลีลาการเป็นดีเจเปิดเพลงสุดมันส์ ด้วยคาแร็กเตอร์สุดกวนโอ๊ย


ดีเจวิว ถือเป็นดีเจเด็กหนุ่มมากความสามารถจาก จ.อ่างทอง ลีลาการเอนเตอร์เทนสุดมันส์ จึงทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักโด่งดังในโลกออนไลน์ จนถึงขั้นหน้าฟีดไทม์ไลน์เต็มไปด้วยมีมของดีเจวิว ดีเจวิวหาเงินช่วยเหลือครอบครัว ทำบ้านให้ย่าและยังส่งเสียตัวเองเรียนอีกด้วย


เมื่อวันที่ 28 ก.พ.66 พ่อแม่และญาติพี่น้อง ธัญยธรณ์ โพธิ์มณี หรือ ดีเจวิว เดินทางไปที่ห้องดับจิต โรงพยาบาลอ่างทอง เพื่อรับร่างของดีเจวิว ส่งไปชันสูตรที่นิติเวช รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุในการเสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากทางญาติแคลงใจ


ทีมข่าวเดินทางไปที่บ้านของดีเจวิว ที่ จ.อ่างทอง พบว่าได้จัดเตรียมสถานที่จัดงานศพ และทางครอบครัวได้เตรียมโลงศพตั้งวางไว้ในบ้าน รอบรรจุร่างของดีเจวิว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างชันสูตร โดยวันนี้ (1 มี.ค.) ครอบครัวจะรับศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้าน จ.อ่างทอง ภายในบ้านพบเสื้อผ้าที่ดีเจวิว มักสวมใส่ออกงาน แขวนไว้ที่ชั้นล่างของบ้าน


นางสาวอรอนงค์ อายุ 36 ปี แม่ของดีเจวิว เผยว่า น้องวิวได้ประสบอุบัติเหตุในวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยขับรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถกระบะ บริเวณถนนเลี้ยงเมือง ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง น้องวิวได้โทรมาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุแขนหัก ตนกับสามีจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุแต่ไม่พบ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง แล้ว และได้ออกจากโรงพยาบาล ในช่วงเวลา 21.00 น. ของวันที่ 25 ก.พ.


เช้าของวันที่ 26 ก.พ. น้องวิวบ่นปวดท้องมากจนนอนไม่ได้ จึงพามาโรงพยาบาลอีกครั้งตอนตี 5 และได้ทำการฉีดยาแล้วก็เดินทางกลับบ้านในช่วงเวลา 08.00 น. ของวันนั้น ทางแพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากโรคกระเพาะและให้กลับมาสังเกตอาการที่บ้าน และวันที่ 27 ก.พ. หมอนัดให้ไปดูแขนที่บาดเจ็บ ปรากฏว่าช่วงเช้าวันที่ 27 ก.พ. เวลาประมาณ 7 โมง ดีเจวิวหายใจไม่ออก อาเจียนเป็นลิ่มเลือด โทรศัพท์มาหาตนบอกว่าไม่ไหวแล้ว แม่ยายจึงโทรไปบอกสามีให้พาน้องวิว ไปโรงพยาบาล


พอไปถึงน้องก็หมดสติไม่รู้สึกตัว หมอก็ปั๊มหัวใจจนน้องกลับมามีชีพจร จากนั้นก็นำตัวเข้าห้องไอซียู ชีพจรต่ำอีกหมอปั๊มหัวใจอีกครั้งชีพจรกลับคืนมา ใส่เครื่องช่วยหายใจ ให้ยากระตุ้นความดัน หมอบอกโอกาสรอดน่าจะไม่มี


เวลาเกือบตี 1 ของวันที่ 28 ก.พ. พยาบาลเดินออกมาบอกว่าน้องวิว มีอาการแทรกซ้อน ถ่ายเป็นเลือด หัวใจเต้นอ่อนลง ให้พ่อกับแม่เข้าไปดูลูก จากนั้นตนกับสามีก็ออกมานั่งนอกห้องไอซียูได้สักพัก หมอเดินมาบอกว่าน้องวิวหัวใจหยุดเต้นซึ่งปั๊มหัวใจกลับคืนมาได้ ตนจึงบอกหมอถ้าหยุดหายใจอีกให้ปล่อยน้องไปเลย จากนั้นตนเดินไปดูลูกในห้องไอซียูอีกครั้ง


ตนจับมือลูกแล้วพูดว่า "วิวถ้ามันไม่ไหวจริง ๆ วิวก็พอเถอะลูก หลับให้สบายเถอะลูก" พอแม่พูดจบ เครื่องช่วยหายใจก็ดังขึ้นและหยุดทำงาน เจ้าหน้าที่พยาบาลบอกน้องไปแล้วนะแม่ โดยน้องวิวเสียชีวิตในเวลา 01.58 น. ของวันที่ 28 ก.พ. แม่เสียใจมาก ไม่คิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ ทีแรกไม่มีอาการอะไรเลย แม่ก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร น้องวิวอ้วนแต่ไม่ใช่คนขี้โรค ไม่รู้มีโรคประจำตัวหรือเปล่าเพราะไม่เคยตรวจ ตนอยากรู้ว่าลูกชายเสียชีวิตเพราะสาเหตุจากอุบัติเหตุหรือโรคประจำตัว จึงส่งไปชันสูตร


ด้าน นายธวัชชัย อายุ 38 ปี พ่อของดีเจวิว ให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่า ช่วงเช้าวันที่ 27 ก.พ. หลังจากน้องวิว อาการเริ่มแย่ ระหว่างที่ตนกับป้าข้างบ้านพาน้องวิวนั่งรถไปโรงพยาบาล น้องไม่ไหวแล้วถามพ่อตลอดทางว่า "เมื่อไหร่จะถึง ถึงไหนแล้ว ตาหนูมองไม่เห็นแล้ว" ตนเองพยายามเรียกไม่ให้ลูกหลับ พอถึงโรงพยาบาล ก็อ้วกเป็นเลือดดำ ๆ พอยกตัวขึ้นเตียงน้องก็ไม่รู้สึกตัว ไม่ได้สติแล้ว นอนนิ่งไม่ตอบสนองอะไร


คุณพ่อได้แต่ร้องไห้โทษตัวเองว่า "ผมคงขับรถช้าไป ถ้าขับไวคงไม่เป็นขนาดนี้ มันเร็วเกินไปอายุยังน้อย น้องวิวเป็นเด็กดี ทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว น้อยคนที่จะทำได้อย่างนี้" ที่ตัดสินใจให้น้องไปอย่างสงบเพราะยื้อไม่ไหวแล้ว สาเหตุการตายก็ยังไม่ชัดเจน "พ่อภูมิใจในตัวลูก ถ้ามีโอกาสให้เกิดมาเป็นลูกกันอีก"


นางสังวาลย์ อายุ 56 ปี ย่าของดีเจวิว ร้องไห้เล่าว่า เห็นน้องวิวนอนหายใจดังเสียงเฮือกเหมือนคนขาดอากาศอยู่บนเปลที่ขึงกลางบ้าน วิวบอก "แม่ (วิวเรียกย่าว่าแม่) วิวหายใจไม่ออก หนูไม่ไหวแล้ว" ตนบอกหลาน "วิวไปโรงบาลเถอะ" หลานตอบว่า "รอแม่ก่อน" ย่าดูอาการหลาน เห็นท่าไม่ดี เพราะวิวอ้วกออกมาเป็นลิ่มเลือด จึงรีบโทรตามพ่อของวิวให้พาส่ง รพ. เพราะอาการไม่ไหวแล้ว


คุณย่าคิดว่าหลานถึงมือหมอแล้วยังไงก็รอด ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอหน้าหลาน จากไปไวเกิน ยังทำใจไม่ได้ ร้องไห้จนไม่มีน้ำตา ตนเองเลี้ยงน้องวิว มาตั้งแต่แบเบาะ เป็นเด็กดีน่ารัก พูดอะไรเชื่อฟังหมดไม่เคยเถียง ย่ารักมาก น้องวิวเรียกตนเองว่าแม่ ก่อนโควิดระบาด น้องวิวได้เงินจากการเป็นดีเจเปิดเพลง ครั้งละ 20,000-30,000 บาท ก็จะนำมาให้ย่าเก็บไว้หมด


คุณย่าบอกว่า บ้านที่ต่อเติมใหม่ก็มาจากเงินของน้องวิว วิวรับงานไว้ 2 งานในเดือน มี.ค.นี้ แต่มาเสียชีวิตก่อน สาเหตุการเสียชีวิตตนไม่รู้ว่าเกิดจากประสบอุบัติเหตุหรือไม่ เพราะหลานไม่มีโรคประจำตัว แข็งแรงดี ไม่เคยมีอาการแบบนี้ ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุเมื่อ 25 ก.พ. ก็มีอาการปวดท้องตลอดเวลา ต้องลุกนั่งนอนไม่ได้ กระทั่งเช้า 27 ก.พ. ปวดท้องรุนแรง กระสับกระส่าย หายใจไม่ค่อยออก


นายศรายุทธ เอี่ยมมงคล หรือครูแมน อายุ 24 ปี ผู้ปลุกปั้นและผู้จัดการของดีเจวิว นำเสื้อที่น้องวิวชอบใส่ออกงานมาให้ดู แต่ละผืนจะสกรีนภาพดีเจวิวไว้ ผู้จัดการเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตอนนั้นตนเองบวชอยู่ ส่วนน้องวิว ขณะนั้น 10 ขวบ ซึ่งเป็นญาติกันได้เป็นลูกศิษย์กินนอนอยู่กับตนที่วัด จนกระทั่งสึกมาอยู่บ้านทำห้องต่อเติมมีแสงสี น้องวิวชอบมากจึงได้ฝึกฝนให้เป็นดีเจเปิดเพลง น้องชอบเสียงเพลง ชอบเป็นดีเจ เป็นเด็กตลก


กระทั่งส่งไปเรียนเป็นดีเจเปิดเพลงจนโด่งดัง รับงานตามต่างจังหวัด มีแฟนคลับผู้ติดตามหลักแสนคน ส่วนใหญ่จะรับงานวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากตนเป็นครู ส่วนน้องวิวต้องเรียนหนังสือ รับงานครั้งละ 1 ชั่วโมง ราคาค่าตัวหลักหมื่นบาท ทำให้น้องวิวมีเงินเก็บสร้างบ้านให้ย่า ส่งตนเองเรียนกำลังมีอนาคตที่ดี


เมื่อวันที่ 27 ก.พ. หลังจากที่น้องวิว อาการไม่ค่อยดีเข้าโรงพยาบาล ตนจึงโพสต์เฟซบุ๊กแจ้งอาการของน้องวิว เผื่อน้องจะลืมตาขึ้นดูว่ามีคนส่งกำลังใจ แต่อาการยิ่งแย่ลง ตนจึงหยุดสอนครึ่งวันรีบไปโรงพยาบาล กระทั่งชีพจรต่ำเครื่องช่วยหายใจหยุดทำงาน เสียชีวิตอย่างสงบ เวลา 01.58 น. (28 ก.พ.)


ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย เปิดเผยว่า วันที่ 25 ก.พ. เมื่อเวลา 16.40 น. สมาคมกู้ภัยจังหวัดอ่างทองจุดเมือง รับแจ้งเหตุจึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยจุดเมืองไปตรวจสอบ พบรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถกระบะ ใกล้เคียงโกลบอลเฮ้าส์อ่างทอง อ.เมือง มีผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย ทราบชื่อ ธัญยธรณ์ โพธิ์มณี หรือดีเจวิว คนขับจักรยานยนต์ และ ด.ช.ที อายุ 14 ปี คนซ้อนท้าย เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลอ่างทอง ก่อนจะมาทราบข่าวว่าดีเจวิวเสียชีวิต ก็ตกใจมาก


ทีมข่าวสอบถาม นางสาวดวงพร อัศวราชันย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอ่างทอง จ.อ่างทอง ถึงกรณีดีเจวิว วัย 14 ปี หลังประสบอุบัติเหตุ เมื่อวันที่ 25 ก.พ. แขนหัก หมอไม่ได้ให้แอดมิท รักษาเสร็จให้กลับบ้าน ต่อมาวันที่ 27 ก.พ. มีอาการหายใจไม่ออก ปวดท้องรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


นางสาวดวงพร เผยว่า วันที่ 25 ก.พ. วันแรกที่คนไข้ประสบอุบัติเหตุเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลอ่างทอง หมอที่ทำการรักษาบอกว่า สัญญาณชีพยังปกติ มีเพียงกระดูกแขนข้อมือซ้ายหัก หมอกระดูกได้ทำการใส่เฝือกอ่อนไว้


ทั้งนี้ ตนดูเวชระเบียนเบื้องต้น ยังไม่ได้สอบถามรายละเอียดจากหมอโดยตรง พบว่าคนไข้ไม่มีอาการอื่นที่ผิดปกติ ตรวจอัลตราซาวด์ไม่พบเลือดออกในช่องท้อง เอกซเรย์ท้องก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้ทำการตรวจอย่างละเอียดแล้ว หลังทำการรักษาเสร็จอาการไม่หนัก จึงให้กลับบ้าน ไม่ได้ให้แอดมิท


โดยวันที่ 26 ก.พ. คนไข้มีอาการปวดท้อง ท้องเสีย ถ่ายเหลว ญาติพามาโรงพายาบาล วัดความดันสัญญาณชีพปกติ ไม่มีอาการแน่นหน้าอก หมอทำการรักษาฉีดยาแก้ปวดแล้วให้กลับบ้าน ทุกอย่างเป็นปกติ แต่ ผอ.โรงพยาบาลอ่างทอง บอกว่าพูดถึงเรื่องอุบัติเหตุมันเปลี่ยนแปลงได้ซึ่งต้องดูอาการ


วันที่ 27 ก.พ. หมอได้นัดคนไข้มาตรวจกระดูกข้อมือที่บาดเจ็บ แต่คนไข้มีอาการปวดท้อง หายใจไม่ออก อาเจียนเป็นเลือด เมื่อมาถึงโรงพยาบาลคนไข้หมดสติไปแล้ว หมอได้ทำการปั๊มหัวใจ ซึ่งอาการเหล่านี้ ผอ.โรงพยาบาลอ่างทอง บอกว่า ยังหาในประวัติการรักษาไม่เจอจึงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด วันนี้ (1 มี.ค.) ขอตรวจสอบรายละเอียดก่อน


เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่อาการดังกล่าวจะเกิดจากอุบัติเหตุ ผอ.โรงพยาบาลอ่างทอง ตอบว่า  ภายใน 72 ชั่วโมง ทุกอย่างเกิดขึ้นได้ บอกไม่ได้เลย แม้ว่าวันแรกที่ทำการตรวจจะไม่พบความผิดปกติอะไร แพทย์เจ้าของไข้ก็แปลกใจทำไมถึงเป็นรุนแรงขนาดนี้ ซึ่งตอนที่คนไข้มาในวันที่ 27 ก.พ. อาการหนักแล้ว


อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลชันสูตรจากนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเฉลิมเกียรติ ซึ่งผลจะออกช่วงบ่ายของวันนี้ (1 มี.ค.) ทางโรงพยาบาลต้องแสดงความเสียใจเพราะน้องเป็นคนดัง ทั้งนี้ได้พูดคุยกับพ่อแม่ของน้องแล้ว ซึ่งก็เข้าใจ ครอบครัวจะรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุใดกันแน่

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/8lQBdxHtHdw