สังคม

พ่อแม่ช็อกหมอวินิจฉัยโรคลูกชายผิดเสียค่ารักษาเกือบ 3 แสน

โดย onjira_n

16 ก.พ. 2566

11.8K views

เมื่อวันที่ 16 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการ้องเรียนจากนางสาวยลดา  อายุ 29 ปี นายณัฐพงศ์  อายุ 25 ปี และนางจันทการ  อายุ 51 ปี แม่พ่อและยายของเด็กชายธีระธัญญ์  อายุ 4 ปี ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่าเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2566 ได้พาลูกชายที่มีอาการตัวร้อนเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน ย่านรังสิตซึ่งเมื่อถึงโรงพยาบาลเขาก็เอาอุจจาระ ปัสสาวะ น้องไปตรวจ และเขาก็มาบอกว่าค่าเลือดน้องขึ้นสูง และเมื่อเย็นๆนายแพทย์ได้เข้ามาตรวจและก็เอามือมาจับท้องของลูกชาย เขาก็บอกว่าลูกไส้ติ่งแตก ตอนแรกมันไม่มีอะไรที่จะตัดสินใจได้เลยว่าเราจะพาลูกย้ายโรงพยาบาลได้ไหม หมอบอกว่า100 เปอร์เซ็นไส้ติ่งน้องแตกและต้องผ่าตัดด่วน และก็มีเจ้าหน้าที่เอาเอกสารมาให้เซ็นและบอกว่ามีค่าใช้จ่าย160,000 บาท ถึง180,000 บาท เราก็เซ็นไปเพื่อที่จะให้น้องได้ผ่าตัดจากนั้นผ่านไป 5 นาทีมีพยาบาลออกมาบอกว่าหมอขอพบคุณแม่น้องด่วนตนเองจึงเข้าไปที่ห้องผ่าตัด และหมอบอกว่าน้องไม่ได้เป็นไส้ติ่งแตกน่ะครับ ซึ่งตอนนั้นหมอได้ผ่าตัดลูกชายไปแล้วส่องกล้องไปแล้ว ตนก็บอกว่าอ้าวทำไมเป็นแบบนี้ ส่องกล้องไปแล้วเจอลำไส้อุดตันถ้าแม่ไม่ผ่าต่อลำไส้ ลำไส้น้องจะเน่าคุณหมอก็เอาใบค่าใช้จ่ายมาให้เซ็นอีก 1 ใบค่าใช้จ่าย 250,000 กว่าบาท เราก็เซ็นไปสรุปทั้งสองครั้ง บาดแผลที่หมอแจ้งมาว่าแค่ 5 เซนติเมตร

ด้านนางจันทการ  อายุ 51 ปี บอกว่าหลังจากที่หมอผ่าตัดเสร็จหมอมาแจ้งยายแทนที่จะไปแจ้งพ่อกับแม่เขา คุณหมอออกมาหลังห้องว่าผ่าตัดเรียบร้อยแล้วครับน้องปลอดภัยสรุปน้องไม่ได้เป็นลำไส้อุดตัน หมอบอกว่าลำไส้ไปพันบังไส้ติ่งเอาไว้ ยายจึงถามว่าแล้วตัดไหมไส้ติ่งหมอบอกว่าตัดครับ แต่ไส้ติ่งไม่ได้แตก เราก็เริ่มสงสัยเลยถามไปแต่เมื่อแม่เห็นหมอก็เลยรีบวิ่งเข้าไปเลย วันผ่าตัดเสร็จเราก็ติดใจน่ะว่าหมอพูดกลับไปกลับมาแบบนี้ได้อย่างไรทำไมไม่ตรวจทางการแพทย์ซึ่งเมื่อไส้ติ่งไม่แตกเราจะได้ย้ายโรงพยาบาล อันนี้มาบอกเราแบบนี้เราก็กลัวแต่หลานชายก็นอนเป็นปกติแต่ยังมีไข้อยู่ ปวดท้องนิดหน่อย หลังผ่าตัดค่าเลือดน้องก็ต่ำลงนิดหนึ่ง และเขาก็เอาเครื่องทีซีแสกนมาตรวจก็พบว่าไปเจออึในลำไส้ ต้องทำการสวนเอาอุจจาระออก เมื่อสวนเสร็จไข้น้องก็เริ่มลดลง ค่าเลือดก็ลด ทั้งหมดสวน 3 รอบ ทั้งหมดอยู่โรงพยาบาลทั้งหมด 6 วัน เสียค่าใช้จ่ายไปแล้ว 95,000 บาท และต้องเซ็นยอมเป็นหนี้ในส่วนที่เหลืออีกแสนกว่าบาทเราจึงออกจากโรงพยาบาลได้

ด้านนางสาวยลดา  อายุ 29 ปี แม่ยังบอกอีกว่าตอนนี้อยากให้คุณหมอออกมารับผิดชอบส่วนตรงนี้และทำไมไม่เอ็กซ์เรย์ ก่อนที่จะเอาน้องไปผ่าตัด แค่เอามือไปจับท้องก็รู้เลยว่าไส้ติ่งแตกและก็ไม่ให้พบผู้อำนวยการโรงพยาบาลด้วยเรามาขอความเป็นธรรมให้ลูกเพราะลูกชายอายุแค่ 4 ขวบเอง ส่วนแผลของน้องแค่ 5 เซนติเมตร แต่แผลผ่าตัดน้องยาวมากตนจึงถามว่าไหนหมอบอกแค่ 5เซนติเมตรทำไมยาวจังมันไม่ต่ำกว่า 15 เซนติเมตร หมอก็พูดกลับไปกลับมาแพทย์กับบอกว่าคุณติดใจเรื่องนี้ใช่ไหมนั่นบาดแผล 7 เซนติเมตรก็ได้ เมื่อตาของหลานบอกว่าไม่ใช่ 7 เซนติเมตรแล้วแพทย์บอกว่านั้น 10 เซนติเมตรก็ได้จบมั้ย งั้น 12 เซนติเมตรก็ได้ก่อนจะบอกขอโทษแล้วเดินหนีไป โดยบาดแผลของลูกจะมีการนัดตัดไหมที่แผลหน้าท้องตนเองคิดว่าจะย้ายรพ.ไปตัดไหมที่อื่น จนตอนนี้ลูกชายตนเองยังมีอาการเดินหลังโก่งเพราะปวดแผลเพราะบาดแผลใหญ่มาก โดยระบบขับผ่านเริ่มปกติ



คุณอาจสนใจ

Related News