เหยื่อโผล่หลายราย! ร้อง สธ. ปมรพ.วินิจฉัยโรคผิด ทำคนไข้ดับ ผอ.แจงตั้งกก.สอบแล้ว พร้อมเร่งเยียวยา

มูลนิธิเป็นหนึ่งพาครอบครัวผู้เสียหายร้องเรียนกระทรวงสาธารณสุข จากการวินิจฉัยโรคผิดพลาด ของหมอโรงพยาบาล ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่เดียวกับเด็กหนุ่ม 15 ปี ที่ญาติคาใจ เกิดอุบัติเหตุรถล้ม หมอให้กินแต่ยาพาราเซตามอล นอนรอ จนเสียชีวิต



กรณี นายณัฐนัย หรือน้องบอย อายุ 15 ปี ประสบอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซค์ล้มหัวฟาดพื้น และนำตัวส่งโรงพยาบาลพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังจากนั้นหมอให้กินยาพาราเซตามอล และนอนรอดูอาการ ตั้งแต่ 1 ทุ่มถึง ตี 2 จนอาการแย่ลง กว่าจะได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ในช่วงเช้าของอีกวัน หมอได้แอ๊กซเรย์สมอง พบว่ามีเลือดคั่งจำนวนมาก ต่อมาน้องได้เสียชีวิต ซึ่งแพทย์ชันสูตรหาสาเหตุ พบว่า เกิดจากการบาดเจ็บที่สมองรุนแรง ซึ่งทางครอบครัวน้องคาใจ มองเป็นความบกพร่องในการรักษาของโรงพยาบาลแห่งนี้



โดยเมื่อวานนี้ ครอบครัวและญาติได้ทำพิธีฌาปนกิจศพ เรียบร้อยแล้ว มีนางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้มาร่วมพิธีด้วย ซึ่งก็มีผู้เสียหายรายอื่น มาขอความเป็นธรรมให้กับญาติที่เสียชีวิตไปด้วย จากการวินิจฉัยโรคผิดพลาด ของโรงพยาบาลแห่งนี้ 10 ราย ในช่วงปี 66-67



ล่าสุด วันนี้ คุณต้นอ้อ นำครอบครัวผู้เสียชีวิต 2 ราย ขอความเป็นธรรม จากการวินิจฉัยผิดพลาด ของทีมแพทย์รพ.พระทองคำ จาก นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข



โดยครอบครัวแรก คุณแม่มาร้องลูกสาว 4 ขวบ มีอาการไข้ตัวร้อน เข้ารักษาที่โรงพยาบาล เมื่อวันที่ 25 มกราคม หมอบอกเป็นไข้หวัดใหญ่ รับยาและกลับบ้าน กระทั่งวันที่ 29 มกราคม ลูกเริ่มหอบ หายใจติดขัด กลับไปหาหมออีกครั้ง ได้เจาะเลือด และต้องรอผล 1 สัปดาห์



ต่อมา เช้าวันที่ 30 มกราคม หมอให้ยาแก้ปวด ลดไข้ และส่งต่อที่รพ.มหาราช หมอนำเข้าห้องผ่าตัดทันที กระทั่งเที่ยงวันหมอแจ้งลูกสาวเสียชีวิตระหว่างผ่าตัด ด้วยสาเหตุ ติดเชื้อในกระแสเลือด ไส้ติ่งแตก ซึ่งครอบครัวมองว่า ทีมแพทย์แรก วินิจฉัยโรคไม่ถูกต้อง ส่งผลการรักษาล่าช้า จนลูกสาวเสียชีวิต



อีกครอบครัว ลูกสาว ร้องขอความเป็นธรรมให้พ่อ 71 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน มีอาการท้องผูก เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน หลังตรวจแล้ว ให้นอนรอดูอาการ และให้น้ำเกลือ โดยไม่ให้ยารักษาใดๆ จน 5 โมง พ่อเริ่มอาการแย่ หายใจติดขัด และเสียชีวิต แพทย์ระบุ เสียชีวิตจากภาวะหัวใจขาดเลือด ทั้งที่พ่อสุขภาพแข็งแรงดี มองว่า วินิจฉัยล่าช้า ทำให้พ่อเสียชีวิต



ส่วนนาย ณรงค์ ปิ่นสันเที๊ยะ กำนันต.พังเทียน องพระทองคำ กล่าวว่า ตลอด 4 ปี โรงพยาบาลนี้ มีข้อร้องเรียนมาตลอด ได้แจ้งประสานผอ.โรงพยาบาลแล้ว รับปากจะปรับปรุงแก้ไข แต่ก็ยังพบมีปัญหาซ้ำเดิมอีก



ด้านคุณต้นอ้อ ระบุว่า สืบเนื่องจากมูลนิธิได้รับเรื่องร้องเรียนจาก ครอบครัวน้องบอย อายุ 15 ปี เกิดอุบัติเหตุ แล้ว เข้ารักษาที่โรงพยาบาลพระทองคำ แพทย์ตรวจวินิจ ผิดพลาด รักษาล่าช้า จนคนไข้เสียชีวิต เมื่อลงพื้นที่ก็มีผู้มาร้องเรียนอีกหลายคนจากปัญหาเดียวกัน โดยเจตนาของครอบครัวผู้เสียหาย ต่างต้องการให้บุคลากรของโรงพยาบาลแห่งนี้ ปรับมาตรฐานการให้บริการ ตามหลักจริยธรรมวิชาชีพ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย



ด้านนายกองตรี ดร.ธนกฤต เปิดเผย หลังพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ว่า ขณะนี้ ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า แพทย์วินิจฉัย และรักษา ผิดพลาด จนทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต แต่จะตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ว่ากระบวนการรักษาว่า เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ รวมทั้งจะต้องมีมาตรการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย



ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะนำเข้าที่ประชุมของคณะกรรมการ และจะต้องให้สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ไปดูแลเยียวยาครอบครัวผู้เสียหาย หลังจากนี้จะลงพื้นที่สุ่มตรวจมาตรฐานการให้บริการโรงพยาบาลทั่วประเทศ

พร้อมยอมรับว่า กระทรวงฯยังติดขัดเรื่องบุคลาการน้อยกว่า จำนวนผู้มารักษา



ผอ.โรงพยาบาลแจงตั้งกรรมการสอบ เร่งประสาน สปสช.ขอรับเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต



นางสาวราชรัตน์ คำสัตย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระทองคำ ได้ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า หลังจากเกิดเรื่องทางโรงพยาบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้มีการเร่งติดตามช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมกับได้ประสานไปยัง สปสช. เพื่อขอรับเงินเยียวยา กรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ



ทั้งนี้ตนต้องขอโทษครอบครัวผู้เสียหาย และชี้แจงว่าได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อตรวจสอบหากระบวนการรักษาว่า มีความผิดพลาดตรงไหน บริการล่าช้าหรือไม่ มีมาตรฐานอย่างไร และหากผลการสอบสวนยังไม่เป็นที่พอใจของครอบครัวผู้เสียหายสามารถร้องเรียนไปที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือกระทรวงสาธารณสุขได้ โดยทางโรงพยาบาลพร้อม และยินดีให้ตรวจสอบ



และตอนนี้ตนรู้สึกเครียด มีความกังวลใจ เนื่องจากภาระหน้าที่ที่ต้องดูแล ซึ่งหลังเกิดเหตุตนได้เรียกประชุมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ โดยได้เน้นกำชับในเรื่องของการปรับปรุงแก้ไขการบริการประชาชนให้รัดกุมมากขึ้น รวมถึงเรื่องการปรับระบบการส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาต่อที่ รพ.ประจำจังหวัดให้มีความรวดเร็ว เเละให้สื่อสารกับญาติผู้ป่วยมากขึ้น โดยทางโรงพยาบาลขอน้อมรับข้อเสนอแนะ และข้อคิดเห็นต่างๆ รวมทั้งปรับปรุงระบบการบริการให้ดีขึ้น และไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมาอีก

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/HFCBCL7JpB8