พ่อเดือดพาลูกสาววัย 25 ปีหอบหลักฐานแจ้งเอาผิดหมอวินิจฉัยจ่ายยาผิดจนแพ้ยาอาการสาหัส

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ก.ค. 66 ที่ สภ.เมืองอ่างทอง ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง พ่อ อายุ 54 ปี พร้อมด้วย นางสาว ป.  อายุ 25 ปี ได้นำหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์ของคลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองอ่างทอง กับ ร.ต.อ.กรเทพ จันทรานภาภรณ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอ่างทอง หลังจากลูกสาวป่วยได้เข้ารับการรักษากับแพทย์ของคลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองอ่างทอง ซึ่งแพทย์ได้ใช้เวลาในการตรวจอาการเพียงไม่นาน แล้วลงความเห็นว่าลูกสาวป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ ซึ่งได้ทำการรักษาโดยการฉีดยาและให้ยามารับประทานที่บ้าน ในตอนแรกมีอาการดีขึ้น แต่ต่อมาเริ่มมีอาการมีผื่นแดงขึ้นตามลำคอ ขา และมือทั้งสองข้าง ตาพล่ามัว เลือดกำเดาไหล จนต้องนำตัวเข้ารักษาที่โรงงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง แต่แพทย์ที่รักษาลงความเห็นว่าเกิดจากอาการแพ้ยาไม่ใช่จากโรครูมาตอยด์ ลูกสาวของตนเองมีอาการสาหัส และอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ ตนเองได้เข้าไปพูดคุยกับแพทย์คู่กรณี แต่ทางแพทย์ปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดดจากการรักษาของตนเอง

จากการสอบถาม นาย ถวิล เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ลูกสาวของตนเองเป็นไข้จึงเดินทางเข้ารับการรักษากับแพทย์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในตัวเมืองอ่างทอง แพทย์วินิจฉัยว่าลูกสาววตนเองป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ โดยทำการฉีดยาและให้ยามารับประทานจนมีอาการดีขึ้น เมื่อกลับไปทำงานที่จังหวัดปทุมธานี ลูกสาวเริ่มมีอาการกำเริบนอนป่วยอยู่ที่หอพักจนต้องไปรับมารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนนแห่งหนึ่งในจังหวัดอ่างทอง แต่แพทย์ลงความเห็นว่าเกิดจากอาการแพ้ เมื่อทำการสอบถามพบว่าอาจจะเกิดจากการรับประทานยา จึงได้ให้ไปขอชื่อตัวยาที่รักษา แต่ทางแพทย์ที่คลินิกปฎิเสธและให้ทางแพทย์ที่รักษาหรือเภสัชกรมาขอเอง เมื่อนำยาที่เหลือไปตรวจสอบพบว่าเป็นยาที่ใช้ในการรักษาที่แพทย์จ่ายมา จึงได้ไปพบแพทย์เพื่อทำการพูดคุยให้ทางแพทย์คนดังกล่าวรับผิดชอบ แต่ทางแพทย์แจ้งว่าไม่ได้เกิดจากการรักษาและจ่ายยาของตนเอง และให้ไปคุยกับภรรยา ตนเองได้คุยกับภรรยาของแพทย์ ได้บอกว่าให้ไปแจ้งความแล้วไปเจอกันที่ศาล ตนเองจึงไปแจ้งงความแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แนะนำให้ไปร้องที่สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง ซึ่งทางสำนักงานสาธารณสุขอ่างทอง หลังรับเรื่องได้แจ้งว่าเป็นเรื่องของผู้เสียหายกับเอกชน จึงแนะนำให้ไปแจ้งความจะรวดเร็วที่สุด ตนเองเห็นว่าเรื่องจะเงียบจึงได้ร้องเรียนไปยังรายการโหนกระแส และเข้าแจ้งความดำเนินคดี หลังตกลงกันไม่ได้

ด้าน น้อง ป. เล่าให้ฟังอีกว่า หลังจากตนเองเข้ารับการรักษากับแพทย์ที่คลินิกดังกล่าว ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรครูมาตอยด์ โดยได้รับการรักษาด้วยการฉีดยาและรับยามารับประทาน จนทำให้ตนเองแพ้ยาขั้นรุนแรงจนอาจทำให้เสียชีวิตได้ ถึงกับตาพล่ามัวอาการสาหัส หลังจากเกิดเรื่องก็ไม่สามารถติดต่อแพทย์ที่คลลินิกแห่งนี้ได้ ทางครอบครัวและตนเองอยากจะให้คุณหมอออกมาขอโทษและดูแลรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยอยากจะฝากถึงแพทย์คู่กรณีว่าในการตรวจรักษาผู้ป่วย อยากจะให้แพทย์ทำการตรวจรักษาให้ละเอียดมากกว่านี้ และจ่ายยารักษาให้ตรงกับโรค เพราะหากทำการวินิจฉัยและจ่ายยาผิดให้กับคนไข้ ก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายและทำให้เกิดเสียชีวิตกับตนเองและคนไข้รายอื่นได้ ตนเองพร้อมด้วยคุณพ่อจึงได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับแพทย์คนดังกล่าวให้รับผิดชอบต่อไป