สังคม

เปิดจดหมาย ‘เฮียหมู’ ส่งขอความช่วยเหลือผ่านไปรษณีย์ - ‘ทนายเดชา’ เตือนระวังโอละพ่อ ชี้มีพิรุธหลายอย่าง

โดย petchpawee_k

14 ก.พ. 2566

2.9K views

ทีมข่าวได้รับเอกสารมาจากทีมทนายความจำนวน 5 แผ่น และมีแผนที่บ้านที่เฮียหมูเขียนไว้ ขณะที่ตนเองถูกขังอีด้วย โดยก่อนหน้านี้ที่มีการเผยแพร่ออกมาอยู่ที่หน้าที่ 5 โดยเนื้อหาในจดหมายรายละเอียดบางช่วงส่วน เฮียหมู เขียนว่า

“ผมอยู่บ้านเลขที่....ม.เพฟ บ้านโพธิ์ ต.คลองประเวศ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ถ้าเข้ามาหาต้องบอกยามว่าจะมาบ้านเลขที่......ซอย 4 เข้ามาเลี้ยวซ้ายซอย 4  ก้อย (หลานสาว) จะมาหาผมต้องแอบมาหลัง 9 โมงเช้า เพราะ ตั้ม-เมีย (ลูกชาย/ลูกสะใภ้) จะไปขายของ จะกลับมา 5 โมงเย็นๆ ตั้มรู้ไม่ได้ผมจะถูกทรมานอีก ผมขอให้ก้อยช่วยให้ผมกับเมียได้อยู่ด้วยกันด้วย”

โดยเนื้อหาที่ทีมข่าวได้เพิ่มเติมมา เฮียหมูเขียนขอความช่วยเหลือ ทำนองว่า

“(ลูกชาย-ลูกสะใภ้) พยายามทรมานเรา 2 คน โดยจับแยกกัน ลูกชายผม มันด่าผมว่าหลงอีจิ๋ม มันไม่เคารพแม่มันเลย มันไม่คิดว่าแม่มันรักมันจะตาย ทรมาน ขังแม่ จนแม่มันเป็นโรคประสาท ผมขอให้ก้อยช่วยผมให้ได้อยู่กับเมียด้วย”
--------------------------------------------------

“ทนายเดชา” เตือนระวังโอละพ่อ คดีเฮียหมูร้องถูกลูกชาย-ลูกสะใภ้ พ่อตา-แม่ยาย กักขัง-วางยา หวังฮุบสมบัติ หลังแหล่งข่าว ให้ข้อมูล พบพิรุธหลายอย่าง ยันเชื่อถือได้ 100% พร้อมระบุ สภาพจิตใจลูกชายเฮียหมูบอบช้ำ ถูกสังคมประณามเป็นลูกทรพี คาดเตรียมแถลงข่าวใน 2-3 วันนี้ – ด้านทนายเฮียหมูยันไม่โอละพ่อแน่นอน


จากกรณีที่เฮียหมู เศรษฐีวัย 67 ปี ร้องสื่อ อ้างว่าถูกลูกชายและลูกสะใภ้กักขังพร้อมกรอกยาสลบหมูนาน 2 ปี เพื่อหวังฮุบสมบัติ

ล่าสุดช่วงค่ำวานนี้ (13 ก.พ.66) นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ได้ออกมาโพสต์เตือนบอกว่าเรื่องนี้ระวังโอละพ่อ โดยข้อความระบุว่า

“คดีจัดฉากฆาตกรรม ลูกชายลูกสะใภ้ กักขังพ่อฮุบสมบัติ 65 ล้าน ระวังโอละพ่อนะครับ ฟังหูไว้หู ข่าวลือคือข่าวจริงที่มาล่วงหน้า”

ต่อมา ทนายเดชา เขียนข้อความเพิ่มว่า “ระวังโอนะพ่อนะครับ เพราะคดีความอยู่ในชั้นศาล เหตุใดเหตุการณ์เกิดตั้งแต่ปีพ.ศ 2563 ผ่านมา 3 ปีเพิ่งมีการแจ้งความ


แหล่งข่าววงในแจ้งว่ามีพิรุธหลายประเด็น เช่น หลังจากศาลออกหมายค้นไปค้นบริเวณที่เกิดเหตุ กลับมีสภาพเหมือนเดิม ไม่มีสภาพเหมือนโดนกักขัง


ผู้เสียหายมีพยานแวดล้อมยืนยันว่า เดินไปไหนมาไหนได้เป็นอย่างปกติ ไม่น่าโดนกักขัง และนอกจากนี้ยังมีคดีพิพาทกันในชั้นศาล เช่น คดีมรดกอยู่ในชั้นศาล


ส่วนลูกสะใภ้มีข่าวลือว่าเดินทางไปเที่ยวฮ่องกง ไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด ส่วนลูกชายอยู่ในพื้นที่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา

ที่ผมกราบเรียนมาข้างต้นเป็นข่าวลือนะครับ คดีนี้ฟังหูไว้หูไว้ อย่าเพิ่งเชื่ออะไรมากนัก ด้วยความรักและห่วงใยจากทนายคลายทุกข์”


ทนายเดชา ยังเขียนข้อความบอกอีกว่า แหล่งข่าวที่น่าเชื่อ แจ้ง ว่าอีกประมาณ 2-3 วันลูกชายก็คงจะออกมาแถลงข่าว ส่วนลูกสะใภ้เดินทางไปเที่ยวประเทศฮ่องกงโดยไปทัวร์ไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วตำรวจก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหายังไม่มีพยานหลักฐานใดว่า มีการฆาตกรรมหรือกักขังหน่วงเหนี่ยวแหล่งข่าวล่าสุด


ที่น่าเชื่อถือที่ผมได้รับทราบมา ส่วนคดีความในศาลเกี่ยวกับมรดกในปี 2565 ก็กำลังพิจารณาอยู่


ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับทนายเดชา ภายหลังโพสต์เตือนระวังโอละพ่อ ทนายเดชา ออกตัวก่อนเลยว่าตนเป็นคน แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา เพราะฉะนั้นแล้วก็ต้องมีแหล่งข่าวอยู่ในจังหวัดนี้ ก่อนจะยืนยันว่า ได้รับข้อมูลมาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ รายงานมาว่าเรื่องนี้แปลก  ๆ อีกทั้งจากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ พบว่า


1.มีพิรุธ ดื้อจังว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 แต่ปัจจุบันตอนนี้ ปี 2566 ผ่านมา 3 ปี จะมีคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว จัดฉากฆาตกรรม ไม่มีร่องรอยอะไรเหลืออยู่


2.แหล่งข่าวรายงานว่า ตำรวจมีการยื่นคำร้องต่อศาลขอออกหมายค้น ซึ่งหลังจากการเข้าไปค้นก็ปรากฏว่าไม่พบอะไรที่อ้างว่าโดนกักขัง แต่กลับพบว่าเป็นสภาพปกติ


3.ในส่วนของเฮียหมู แหล่งข่าวรายงานว่าตำรวจได้มีการสอบสวนพยานแวดล้อม ใกล้กับบริเวณที่ลุงอ้างว่าถูกกักขัง เดินเข้าเดินออกได้ตามปกติ จึงไม่น่าเชื่อว่าจะมีการกักขังเกิดขึ้น


4.ประเด็นเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือผ่านไปรษณีย์ หากเฮียหมูออกไปส่งจดหมายได้ก็น่าจะหนีได้ ก็ไม่น่าจะโดนกักขังเช่นกัน


ทนายเดชา ยังกล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีภายในครอบครัว แต่ยังมีคดีเกี่ยวกับคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นคดีเกี่ยวกับการแบ่งมรดกอยู่ในศาลเมื่อปี65 แต่พิจารณาเสร็จแล้วหรือไม่นั้น ไม่ทราบ แต่คาดว่าน่าจะยังไม่เสร็จ แต่กลับพบว่าเพิ่งมีสื่อนำข่าวมานำเสนอ รวมทั้งไปแจ้งความ และที่สำคัญตำรวจ ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหากับตัวลูกชายและลูกสะใภ้ของเฮียหมู เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานบ่งบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เป็นคดีอาญา


ส่วนประเด็นที่มีการ ปล่อยข่าวว่าลูกชายและลูกสะใภ้ หนีไปอยู่ต่างประเทศ ทนายเดชายืนยันว่า เรื่องนี้เป็นความเท็จ มีแต่ตัวลูกสะใภ้ที่ไปเที่ยวที่ฮ่องกง เป็นการเดินทางไปตามปกติ ส่วนตัวลูกชายยังคงอยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และเชื่อว่าภายใน 2-3 วัน ฝั่งลูกชายและลูกสะใภ้จะออกมาแถลงข่าว


ขณะเดียวกันได้ข้อมูลมาว่า ตัวลูกชายบอบช้ำทางสภาพจิตใจ จากกรณีที่พ่อมาแจ้งความ และสังคมก็ประณามว่าเป็นลูกทรพี และเป็นลูกเนรคุณ ทั้งที่แหล่งข่าวของตนยืนยันว่าเป็นลูกชายคนเดียวเงินก็ได้มาแล้ว มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำ


เมื่อถามว่าแหล่งข่าวของทนายเดชาได้บอกหรือไม่ว่าได้พูดคุยกับฝั่งลูกชายและลูกสะใภ้ แล้วฝั่งลูกชายและลูกสะใภ้ยืนยันว่าไม่ได้มีกักขัง จัดฉาก วางยาหวังฮุบสมบัติ ทนายเดชา ระบุว่า ตำรวจสอบสวนแล้ว แนวโน้มว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น แต่แนวโน้มอาจจะมาจากปัญหาครอบครัว


ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อมูลจากแหล่งข่าวจริง ไม่ใช่การวิเคราะห์ไปเองของทนายเดชาใช่หรือไม่ ทนายเดชา กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างแน่นอน ตนไม่ใช่สายมโน ก่อนจะย้ำชัดว่าเป็นข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ 100%


ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า แหล่งข่าวที่ว่าเป็นใคร มีสี มียศ มีตำแหน่ง? ทนายเดชา บอกได้เพียงว่าเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นใครเดี๋ยวบุคคลนั้นเดือดร้อน แต่ให้ไปลองถามตำรวจดูว่า “สิ่งที่ทนายเดชาพูดเป็นความจริงหรือไม่” สุดท้ายมองว่าคดีนี้อีกไม่นานก็จบแล้ว

ขณะเดียวกันทีมข่าวติดต่อไปยังทีมทนายความของเฮียหมู ได้ข้อมูลยืนยันเพียงสั้นๆว่า เรื่องที่ทนายดังบางคนออกมาโพสต์ไม่ใช่เรื่องโอละพ่ออย่างแน่นอน ยืนยันเรื่องที่เกิดขึ้นกับเฮียหมูเป็นความจริงทุกประการ



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/npN0H2nkoIA

คุณอาจสนใจ

Related News