เปิดใจหนุ่มโพสต์ คลิป suv ขวางรถพยาบาลขณะนำส่งผู้ป่วย

จากกรณีวานนี้(24ธ.ค.65) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าพบผู้ใช้ TikTok รายหนึ่งที่ใช้ชื่อบัญชีว่า@paopao007pp โพสต์คลิปวิดีโอที่คนขับรถพยาบาลบันทึกภาพไว้ระหว่างกำลังเร่งนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล ซึ่งปรากฏว่าในขณะที่รถคันอื่นๆ เบี่ยงหลบออกซ้ายให้แล้ว แต่รถยนต์ SUV คันหนึ่งที่ขับอยู่ข้างหน้ากลับยังคงขับด้วยความเร็วคาอยู่ในช่องทางขวาสุดและไม่ยอมหลีกทางให้ แม้ว่าจะมีการส่งเสียงสัญญาณขอทางให้ทราบแล้ว แต่รถยนต์ดังกล่าวยังคงนิ่งเฉยและขับไปตามทางเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนสุดท้ายรถพยาบาลต้องยอมเบี่ยงออกซ้ายแล้วเร่งเครื่องแซงไปเอง โดยผู้โพสต์บรรยายข้อความด้วยว่า “รถพยาบาลนำส่งผู้ป่วยชาย 1 ราย มีอาการอ่อนแรงซีกขวาและมีอาการซึมลง เราจึงทำการนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ถึงมือหมออย่างทันท่วงทีและปลอดภัย #tiktok #ขึ้นฟีดเถอะ #ดุดันไม่เกรงใจใคร” ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวมีการเผยแพร่ออกไปได้มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก โดยเกือบทั้งหมดตำหนิพฤติกรรมการขับขี่ของรถยนต์ SUV คันดังกล่าว ที่เป็นยี่ห้อดัง และกำลังมีสโลแกนโฆษณาสุดฮิตติดหูเกี่ยวกับความดุดัน



ทั้งนี้การตรวจสอบทราบว่าผู้ที่ใช้บัญชี TikTok ดังกล่าวโพสต์คลิปคือนายกิตติพันธ์   อายุ 29 ปี พนักงานการแพทย์ฉุกเฉิน โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเปิดเผยว่าเหตุการณ์ตามคลิปดังกล่าวเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 23 ธ.ค.65 ระหว่างที่รถพยาบาลกำลังนำตัวผู้ป่วยที่มีอาการร่างกายซีกขวาอ่อนแรงส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์เป็นการด่วน โดยระหว่างขับไปตามเส้นทางถนนวงแหวนรอบกลางเชียงใหม่มุ่งหน้าศูนย์ราชการ จังหวัดเชียงใหม่ปรากฏว่าพบรถยนต์คันดังกล่าวขับขวางทางอยู่ข้างหน้า แม้ว่าจะมีการส่งสัญญาณให้ทราบแล้ว แต่ก็ยังขวางทางอยู่เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรแล้ว ทำให้ในที่สุดคนขับรถจึงตัดสินใจเบี่ยงซ้ายเร่งแซงนำตัวผู้ป่วยส่งถึงโรงพยาบาลได้อย่างทันเวลาและปลอดภัย

สำหรับการนำคลิปดังกล่าวออกเผยแพร่นั้น ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาจะประจานคนขับรถยนต์ SUV คันดังกล่าวแต่อย่างใด โดยเจตนารมณ์ ที่นำคลิปดังกล่าวออกเผยแพร่ก็เพื่อตั้งใจให้เป็นอุทาหรณ์ว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นไม่สมควรกระทำ รวมทั้งอยากฝากถึงคนขับรถยนต์ SUV คันดังกล่าวว่าอย่าทำพฤติกรรมเช่นนี้อีก เป็นอันขาด เพราะเหมือนเอาชีวิตและความเป็นความตายของผู้ป่วยมาล้อเล่น ซึ่งกรณีนี้ถือว่าโชคดีที่ผู้ป่วยได้รับการส่งตัวถึงโรงพยาบาลทันเวลาและได้รับการรักษาจนอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว