สังคม

ครอบครัวพามอบตัว 2 โจ๋ฉุนถูกบีบแตร ดักปาหินรถยนต์

โดย paranee_s

11 พ.ย. 2565

352 views

จากกรณีที่เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เกิดเหตุวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ก่อเหตุปาหินใส่รถยนต์ เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกบีบแตร ซ้ำขณะแยกย้ายจากจุดแรกที่มีวัยรุ่นมาเครียล์ ยังยกล้อทำให้เพื่อนที่ซ้อนท้ายมาด้วยหล่นตกรถ จึงมาดักปาหินแก้เขิน


ในวันนี้ (11 พ.ย.) พันตำรวจเอก กฤษ ก้อมน้อย ผู้กำกับการ สน.มีนบุรี ระบุว่า ฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ได้รับการประสานมอบตัวจากครอบครัวของ นายณัฐ อายุ 17 ปี และนายโต๊ด อายุ 18 ปี ผู้ต้องหาทั้งสอง


โดยทั้งสองให้ข้อมูลกับตำรวจชุดสืบสวนว่า ในวันเกิดเหตุ ทั้งสองได้ไปดื่มสุรากับนายฟลุ๊ค (รุ่นพี่ที่เข้าไปห้าม) ที่ย่านแฟลตบางชัน ขณะเดินทางกลับบ้านมาถึงบริเวณแยกบางชัน ซึ่งขณะนั้นนายโต๊ด เป็นคนขับขี่ และมีนายณัฐ เป็นผู้ซ้อนท้าย ส่วนนายฟลุ๊คขับขี่อีกรถอีกคัน ได้ไปเจอกับคู่กรณี และถูกคู่กรณีบีบแตรใส่ ทำให้เกิดความไม่พอใจ


ระหว่างทางจึงมีการเปลี่ยนมาให้นายณัฐ ขับขี่ติดตามคู่กรณี เมื่อมาถึงแยกลาดบัวขาว ถนนรามคำแหง พบคู่กรณีติดไฟแดง ทั้งคู่จึงลงไปหาเรื่องและด่าทอ ก่อนที่นายฟลุ๊คจะย้อนกลับมาห้ามและขอโทษคู่กรณี พร้อมไล่ทั้งสองออกจากจุดเกิดเหตุ


ซึ่งขณะที่ขับขี่ออกจากแยกลาวบัวขาว นายณัฐ ได้พยายามยกล้อ จนเป็นเหตุให้นายโต๊ด ตกจากท้ายรถ ก่อนจะไปดักรอคู่กรณีและขว้างปาก้อนหินและขวดน้ำจนรถได้รับความเสียหาย


นายสรณัฐ คู่กรณีที่เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ ได้เดินทางมาที่ สน.มีนบุรี เพื่อยืนยันตัวผู้ก่อเหตุทั้งสอง ก่อนมีการเจรจากันต่อหน้า ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี และผู้ปกครองของเยาวชนผู้ก่อเหตุ นายสรณัฐ ระบุว่า เบื้องต้นหลังจากไปพบกับทางเยาวชนผู้ก่อเหตุทั้งสองให้การรับสภาพว่าเป็นคนลงมือทำ และได้กล่าวขอโทษกับตนเอง


โดยบอกว่าเหตุผลของการก่อเหตุในครั้งนี้มาจากความมึนเมา ซึ่งตนเองไม่ได้ติดใจจะเอาความกับทั้งสอง เพราะเห็นว่ายังเป็นเยาวชน แต่ในเรื่องของค่าเสียหายได้มอบหน้าที่การติดตามเรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 35,000 บาทให้ทางบริษัทประกันดำเนินการกับทางผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมบอกกับผู้ต้องหาทั้งสองว่าอย่าได้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีก เพราะอาจจะไม่โชคดีเหมือนที่มาเจอกับตนเอง


นอกจากนี้ นายสรณัฐ ยังระบุอีกว่า ส่วนตัวไม่ติดใจตั้งแต่แยกไฟแดงที่มีรุ่นพี่เข้ามาช่วยห้ามปรามแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าส่วนตัวขอขอบคุณรุ่นพี่คนนี้เป็นอย่างมากที่เข้ามาช่วยห้ามปราม หากไม่มีการเข้ามาช่วยห้ามปราม ตนเองก็คิดว่าน่าจะโดนผู้ก่อเหตุทั้งสองทำร้ายร่างกายตั้งแต่บริเวณแยกไฟแดงดังกล่าวก็ได้


พร้อมกันนี้ยังขอฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนในยามกลางคืนว่า อย่าขับขี่ขณะมึนเมา และหากเกิดเหตุเช่นตนเองขอให้ตั้งสติ อย่าทำอะไรรุนแรง เพราะอาจไม่คุ้มกับความสูญเสีย รวมทั้งขอให้แจ้งทางตำรวจเข้ามาดำเนินการเหมือนเช่นตนเอง


เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์สินผู้อื่น ส่วนตัวนายณัฐ ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม ในข้อหาเกี่ยวข้องกับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ในเรื่องของการขับรถประมาทหวาดเสียว , ส่วนควบรถจักรยานยนต์ไม่ครบและไม่สวมหมวกนิรภัย และจากการตรวจสอบไม่พบว่าทั้งสองมีประวัติเคยทำผิดกฎหมายมาก่อน

คุณอาจสนใจ

Related News