ครูสาวโชว์หินประหลาด เชื่อเป็นเหล็กไหลที่มีรอยงอกใหม่ เป็นมรดกจากพ่อที่มีคุณค่าทางจิตใจ

(29 ก.ย.) ที่ ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล นางสาวจีราวรรณ อายุ 34 ปี เป็นครูในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง นำก้อนหินประหลาดที่ตนเองเชื่อว่าเป็นก้อนเหล็กไหลที่เก็บไว้นานกว่า 10 ปีออกมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวและชาวบ้านได้ดู หลังพบว่าก้อนหินที่เชื่อว่าเป็นเหล็กไหล งอกขึ้นมาใหม่มีลักษณะแวววาว โดยก้อนหินดังกล่าวมีขนาดเท่าหัวแม่มือ ใส่ในกรอบที่ไม่มีกระจกบัง ลักษณะมันวาวคล้ายก้อนตะกั่ว ผิวตะปุ่มตะปั่มไม่เรียบ เป็นปุ่มหลายปุ่ม และที่เป็นปุ่มมีลักษณะคล้ายกับงอกขึ้นมาใหม่

นางสาวจีราวรรณ เจ้าของก้อนดังกล่าวเล่าว่า ตนได้ของชิ้นนี้มาจากพ่อซึ่งมอบให้มากว่า 10 ปีแล้ว โดยพ่อบอกว่าเป็นก้อนเหล็กไหล ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนพ่อของตนเป็นคนทีชอบเข้าป่าเพื่อไปดูแลพระธุดงค์เป็นประจำ และวันหนึ่งได้ออกตามพระธุดงค์รูปหนึ่งที่ธุดงค์บนภูเขาแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.สตูล และได้เข้าไปในถ้ำ จึงพบก้อนประหลาดนี้ ขณะนั้นพระธุดงค์รูปดังกล่าวได้เก็บรักษาก้อนหินนี้ไว้เอง มีขนาดประมาณเท่ากำปั้น ต่อมาหลายปี พระธุดงค์รูปดังกล่าวก็ได้มาตั้งสำนักสงฆ์และพ่อเป็นคนคอยดูแลให้ความช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน ท่านจึงตัดแบ่งหินก้อนนั้นให้กับพ่อ ต่อมาพ่อก็ได้นำมาตัดแบ่งให้กับลูกๆ ทั้งหมด 5 คน และตนก็ได้มา 1 ชิ้น

ในขณะที่ตนได้มานั้นก้อนหินดังกล่าวมีขนาดเล็กกว่านี้มาก ตนจึงนำไปอัดกรอบไว้เพื่อตั้งใจจะใส่สร้อยแขวนติดตัว เพราะพ่อบอกว่าหินดังกล่าวเป็นก้อนเหล็กไหล จะป้องกันอันตรายให้ตน แต่ในขณะนั้นตนยังเรียนหนังสืออยู่ไม่ได้แขวนจึงเก็บห่อผ้าขาวไว้ที่บ้าน เมื่อเรียนจบจึงต้องการจะเอามาใส่ แต่พอเปิดผ้าออกดูปรากฏว่า ก้อนดังกล่าวงอกโตขึ้นเกือบเท่าตัว และดันพลาสติกกรอบหุ้มที่ตนทำไว้จนแตกออก และสังเกตว่ามีปุ่มงอกออกมาและมีขนาดโตขึ้น ตนเองจึงคิดว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่ก้อนเหล็กไหลดังกล่าวแสดงให้เห็น จึงตัดสินใจเก็บไว้

นางสาวจีราวรรณเล่าต่อว่า เมื่อตนเองได้เห็นข่าวเหล็กไหลมูลค่าหลายล้านที่ จ.กระบี่ จึงนำออกมาดูและเห็นว่าลักษณะคล้ายกันมาก ที่ต่างกันแค่ที่กระบี่เป็นก้อนใหญ่ ส่วนของตนนั้นเป็นก้อนเล็ก จึงทำให้ตนเองยิ่งมั่นใจว่าก้อนดังกล่าวเป็นก้อนเหล็กไหลอย่างแน่นอน แต่ก็ยังไม่ได้พิสูจน์อะไร แค่ตั้งใจจะเก็บไว้บูชาเพราะเชื่อว่า สามารถคุ้มกันอันตรายได้ และอีกอย่างคือเป็นสิ่งสุดท้ายที่พ่อมอบให้ไว้ก่อนตายจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับตนยิ่งนัก