เมียเก่า ควงแม่อดีตสามี โต้ฮุบกิจการคาเฟดังจันทบุรี ยันมีสิทธิ์บริหารร้านตามกฎหมาย

แม่ยาและคุณท็อป ซึ่งเป็นแม่และน้องชายของคุณเอส พร้อมด้วยคุณเก๋ อดีตภรรยาของคุณเอส ตั้งโต๊ะแถลงข้อเท็จจริงต่อหน้าสื่อมวลชน ที่ร้านคาเฟ สกายวิว ตำบลเกาะเปริด อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ถึงอำนาจและสิทธิ์การบริหารจัดการร้านคาเฟดังกล่าว

โดย คุณเก๋ อดีตภรรยาคุณเอส บอกว่า หลังจากคุณเอสเสียชีวิต แม่ยาให้คุณท็อป น้องชายของคุณเอฟมาทำร้านกาแฟต่อ แต่ทำได้ 2 วัน ทางคุณมุก ก็พาคนมาขนของออกจากร้านไปหมด และมีการทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายคุณท็อป

หลังจากนั้น แม่ยา จึงติดต่อหาตนเอง ว่าให้ช่วยขึ้นมาบริหารร้านและแบ่งรายได้กัน ซึ่งตอนนั้นตนเองกับคุณมุก ไม่ได้มีการพูดคุยหรือติดต่อตกลงอะไรกัน เพราะก่อนหน้านี้ ตั้งแต่คุณเอสเสียชีวิต ตนเองซึ่งมีลูกสาวกับคุณเอส 3 คน ได้ให้ น้องน้ำแข็ง ลูกสาวไปยื่นคุ้มครองสิทธิ์ที่อัยการ ซึ่งมีการออกหนังสือเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับมรดกของคุณเอส ซึ่งรวมถึงคุณมุก มารับทราบหรือมาโต้แย้งสิทธิ์กันด้วย แต่ทางคุณมุก ไม่มา จนกระทั่งศาลมีคำสั่งให้น้องน้ำแข็ง เป็นผู้จัดการมรดก

ซึ่งทางคุณมุก จะอ้างสิทธิ์การบริหารจัดการร้านด้วยหนังสือคำสั่งที่ทาง อบต.ส่งไปให้นั้น ทางฝั่งของตนเองก็ได้รับเหมือนกันและยังตกใจเลยว่า ที่ผ่านมาเปิดร้านให้บริการมากว่า 5 ปี คิดว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างอย่างถูกต้อง เพราะสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ที่เกิดขึ้นเกิดจากคุณเอสและคุณมุก เป็นคนก่อสร้างทั้งหมด ตนเองเพียงเข้ามาต่อเติมซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอและหากทาง อบต.ต้องการให้ปรับปรุง เรื่องโครงสร้าง ตนเองก็พร้อมที่จะถูกแก้ไข เพื่อให้แข็งแรงถูกต้องตามกฎหมาย

ส่วนเหตุการณ์ที่ทางฝั่งของตนเองไปข่มขู่ทำร้ายหรือขับรถชน ก็ไม่เป็นความจริง เหตุการณ์รถชนเป็นแค่การถอยรถออกจากบ้านและเฉี่ยวกันเท่านั้น รอยบุบ รอยยุบก็ไม่มี และหากตนเองจะข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิตจริง วันที่ไปแจ้งความที่โรงพัก เชื่อว่าตำรวจก็ให้ความปลอดภัยกับทางคุณมุกได้

ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น ตนเองพร้อมที่จะพูดคุยและเจรจากับทางคุณมุก มาโดยตลอด และมีการพยายามติดต่อเพื่อพูดคุย แต่ทางคุณมุกไม่ติดต่อกลับมา ซึ่งตนเองมองว่า ร้านดังกล่าวก็เป็นของคุณเอส ที่ลูกก็มีสิทธิ์ตรงนี้ด้วย ตนเองจึงอยากให้เข้ามาพูดคุยกันว่า คุณมุกซื้อของลงทุนทำอะไรไปเท่าไหร่อย่างไรบ้าง และมาเคลียร์

ขณะที่แม่ยา แม่ของคุณเอส บอกว่า ตั้งแต่ลูกชายเสียชีวิต ทางคุณมุก ก็มีการขนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆไปจนหมดบ้าน รวมถึงที่ร้านกาแฟด้วย โดยไม่มีการพูดหรืออธิบายอะไรสักคำ อ้างเพียงแต่ว่า ทรัพย์สินต่างๆ เป็นของตัวเอง นอกจากนี้ ทางฝั่งพี่สาวและแม่ของคุณมุก ยังมีการมาชี้และหน้า ผลักออกตนเองด้วย

ส่วนที่ดินแปลงดังกล่าว ยืนยันว่าเป็นที่ดินมรดกและตนเองไม่เคยบอกขายต่อให้กับคุณหมอสุชาติ หรือขายให้กับใคร ซึ่งตนเองก็อยากฝากถามไปถึงคุณมุกว่า ที่ผ่านมาตนเองรักและเอ็นดู ทำดีด้วยมาตลอด แต่พอเอสเสียชีวิตไป กลับมาทำกับแม่ถึงขนาดนี้

ส่วนคุณท็อป บอกอีกว่า กรณีที่คุณมุก บอกว่า ตนเองเป็นคนลงทุนทำร้านและพวกตนจะเข้ามายึดกิจการ ทำให้กระแสสังคมตอนนี้ที่โจมตีมาทางฝั่งของตนเองอย่างหนัก ตนเองอยากบอกว่า ตนเองและพี่ชายก็ได้ร่วมลงทุนทำร้านนี้มาด้วยกันตั้งแต่แรกเหมือนกัน

กระแสสังคมที่เกิดขึ้นตนเองเข้าใจว่ามีทั้งคนที่รู้และคนที่ไม่รู้ ซึ่งอยากให้ฟังความทั้งสองฝ่าย และตนเองก็ไม่กังวล ที่ถูกกระแสสังคมโจมตี เพราะวันนี้ได้ออกมาพูดความจริงทั้งหมด แต่อยากฝาก ถึงคุณมุกว่าปัญหาเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก ขอแค่ให้มาพูดคุย มาตกลงกัน จบแบบง่ายๆ ไม่ต้องยุ่งยากแบบนี้