ต่างประเทศ

แม่ทิ้งลูกไปตั้งแต่ 2 ขวบ ไม่เคยติดต่อ 54 ปี พอรู้ลูกตาย กลับมาฮุบเงินประกันกว่า 6 ล้าน

โดย thichaphat_d

25 ส.ค. 2566

1.2K views

แม่ของกะลาสีเรือที่เสียชีวิตลง อ้างสิทธิ์ในเงินของลูกชายหลังทิ้งไป 54 ปี โดยไม่ยอมแบ่งเงินให้น้องสาวที่สู้ชีวิตด้วยกันมา จุดชนวนความไม่พอใจในสังคมชาวเกาหลีใต้ ยกกรณีเทียบเคสการตายของคู ฮารา นักร้องชื่อดัง

The Korea Herald สื่อเกาหลีใต้ รายงานกรณี ศาลสูงปูซานได้ยุติข้อพิพาททางกฎหมายระหว่างแม่และลูกสาว ที่เกี่ยวเนื่องจากมรดกของกะลาสีเรือที่เสียชีวิต โดยผู้เป็นแม่ปฏิเสธคำสั่งศาล ที่จะมอบเงินประกันของลูกชายกว่า 42% ให้กับลูกสาว ซึ่งเป็นน้องสาวของผู้ตาย แม้ว่าเธอจะทิ้งลูกทั้ง 2 คนไว้ตั้งแต่อายุยังน้อย และขาดการติดต่อมาเป็นเวลา 54 ปีก็ตาม

ข่าวนี้ได้จุดชนวนความไม่พอใจไปทั่วประเทศ และเกิดเสียงวิจารณ์การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย เพื่อกีดกันพ่อแม่ที่ทอดทิ้งลูกๆ ของตนจากการรับมรดก หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กฎหมายคูฮารา” ตั้งชื่อตามนักร้องเคป็อปชื่อดังที่เสียชีวิตลง แต่แม่ของเธอพยายามเรียกร้องเงินของเธอ หลังจากที่เธอเสียชีวิต แม้ว่าจะไม่ได้เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ


กฎหมายการรับมรดกของเกาหลีใต้ อนุญาตให้พ่อแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงดู สามารถเรียกร้องเงินของบุตรหลานได้ โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงว่า พวกเขามีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดเท่านั้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีการแก้ไขกฎหมายนี้เสนอครั้งแรกในปี 2563 และสถานะยังคงค้างอยู่ในการพิจารณาของรัฐสภา

นางคิม จองอัน มารดาของกะลาสีเรือผู้เสียชีวิต ได้ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นว่า “ฉันเลี้ยงดูเขาตั้งแต่เขายังเด็ก เขาไม่ได้เลี้ยงตัวเอง ฉันควรจะได้เงินประกันนั้น ฉันทำเพื่อลูกๆ ของฉันมามากพอแล้ว” นางคิมกล่าว แม้ว่าลูกชายจะได้เห็นเธอเป็นครั้งสุดท้ายเมื่ออายุ 2 ขวบก็ตาม

ทั้งนี้ ในช่วงที่นายคิม เสียชีวิต เขาอยู่ในสถานะสมรส แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากกฎหมาย ทำให้แม่ของเขาจึงได้รับการติดต่อจากบริษัทประกันภัย ซึ่งในตอนแรกก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีลูกชายชื่อนั้น

แม่และลูกได้เจอกันอีกครั้งในรอบ 54 ปี ผ่านทางเอกสารบนกระดาษ โดยเธอได้เคลมเงินประกันชีวิตของลูกชายมูลค่า 237.7 ล้านวอน หรือประมาณ 6,286,480 บาท

ทางศาลเมืองปูซาน ได้แนะนำให้เธอแบ่งเงิน 100 ล้านวอน หรือประมาณ 2,653,369 บาท ให้กับลูกสาว หรืออีกสถานะหนึ่งคือน้องสาวของผู้ตาย ที่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันมา 2 คนพี่น้อง หลังจากถูกแม่ทอดทิ้ง แต่นางคิม ผู้เป็นแม่ ปฏิเสธที่จะแบ่งเงินดังกล่าวให้กับลูกสาว


(น้องสาวผู้ตาย)
“ตอนที่พี่ชายของเราเสียชีวิตในปี 1999 แม่ไม่ปรากฏให้เห็นเลย แม้ว่าตำรวจจะติดต่อเธอก็ตาม และเธอจะหันมาสนใจไหมถ้าพี่ชายของฉันไม่มีเงิน” น้องสาวของผู้ตาย กล่าวในการประชุมการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายคู ฮารา ที่รัฐสภาที่จัดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์นี้

คำตัดสินที่ให้เงินทั้งหมดแก่แม่ที่เหินห่างนั้น เป็นไปตามพระราชบัญญัติพลเมืองของเกาหลีใต้และกฎหมายของผู้ประกอบอาชีพทางเรือ ที่ระบุว่าครอบครัวของผู้เสียชีวิต ควรถูกกำหนดให้เป็นครอบครัวของผู้สูญเสีย ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้เสียชีวิตหรือไม่ก็ตาม

และ 1 ในมาตราของพระราชบัญญัติพลเมืองเกาหลีใต้ ระบุว่า ทายาทสายตรงของผู้ตาย มีความสำคัญสูงสุดในการรับมรดก และทายาทโดยตรงของผู้ตายอันดับที่สอง หากผู้ตายมีคู่สมรส คู่สมรสก็จะมีความสำคัญเป็นอันดับแรกเช่นกัน หากไม่มีพินัยกรรม พี่น้องจะได้รับมรดกก็ต่อเมื่อผู้ตายไม่มีบุพการีโดยตรง

ซึ่งหมายความว่า แม้ว่าบิดามารดาจะละทิ้งบุคคลตั้งแต่อายุยังน้อย และพี่น้องเลี้ยงดูบุคคลนั้นมาเกือบตลอดชีวิต บิดามารดาก็จะมีสิทธิทั้งหมดในการสืบทอดความมั่งคั่งใด ๆ ก็ตามที่บุคคลนั้นอาจทิ้งไว้เบื้องหลังได้เช่นกัน

กฎหมายกูฮารา (Goo Hara law)

กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ลักษณะคล้ายกับการเสียชีวิตของ กู ฮารา นักร้องเค-ป๊อป ชื่อดัง อดีตไอดอลสาววง KARA ที่จบชีวิตลงเมื่อพฤศจิกายน 2019 ขณะที่เออายุได้ 28 ปี หลังการเสียชีวิต ได้มีการปรากฏตัวของแม่ ผู้ซึ่งไม่เคยเลี้ยงดูหรือติดต่อเธอมานานกว่า 2 ทศวรรษ ได้มาอ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินของเธอครึ่งหนึ่ง ตามกฎหมายว่าด้วยการรับมรดก



ซึ่งพี่ชายของกู ฮารา ได้ยื่นขอแก้ไขกฎหมายต่อรัฐสภา ซึ่งจะทำให้สิทธิในการรับมรดกขาดจากบุพการีที่ทอดทิ้งบุตร

คำร้องดังกล่าวได้รับการลงนามโดยประชาชนมากกว่า 100,000 คน และส่งต่อไปยังคณะกรรมการนิติบัญญัติและตุลาการ ในเดือนมิถุนายน ปี 2020 และมีการเสนอแก้ไขกฎหมายอย่างเป็นทางการ

ในเดือนธันวาคม ปี 2021 ศาลให้สิทธิ์แม่ของกู ฮารา ในการรับมรดกทรัพย์สิน 40 เปอร์เซ็นต์ โดยระบุว่าพ่อมีสิทธิ์ได้รับ 60 เปอร์เซ็นต์ในฐานะผู้ดูแลหลักไปตลอดชีวิตของเธอ

และจากกรณีการเสียชีวิตขอองนายคิม ทำให้กฎหมายดังกล่าวถูกนำมาพูดถึงอีกครั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News