ลาดกระบังอ่วม! ชาวบ้านหัวเราะทั้งน้ำตา น้ำท่วมห้องไร้ที่นอน - ป้าเดินลุยน้ำ ตกหลุมต่อหน้านักข่าว

เมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตลาดกระบัง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจในโครงการพระราชดำริฯ และ พันเอกปริวรรตน์ วิมลปรีชาพงศ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษมีนบุรี นำผู้ต้องขังกองงานสาธารณะ พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อลอกท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่เร่งด่วนเนื่องจากมีน้ำท่วมขังมากที่สุดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

โดยระหว่างลงพื้นที่ก็มีฝนตกลงมาต่อเนื่องและมีน้ำท่วมขัง บริเวณดังกล่าวสูงประมาณ 20 ถึง 30 เซนติเมตร ทั้งรถเล็กและรถใหญ่สัญจรยากลำบาก ส่งผลกระทบกับพี่น้องประชาชน ในเขตลาดกระบังเป็นวงกว้าง กรมราชทัณฑ์จึงนำผู้ต้องขังมาช่วยทำงานด้านสาธารณะ ประโยชน์ ด้วยการลอกท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ต้องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกน้ำท่วม

 จากการลงพื้นที่ว่าที่ร้อยตรีธนกฤตพบว่าปัญหาสำคัญ ที่ทำให้ท่อระบายน้ำตัน เนื่องจากมีเศษวัสดุที่เป็นกรวดหินดินทรายจำนวนมาก จากโครงการก่อสร้างต่างๆ ไปอุดตันตามท่อระบายน้ำทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ระบายได้อย่างล่าช้า จนทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ซึ่งจากการลงพื้นที่จะนำเรียนปัญหาดังกล่าวถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเพื่อนำไปหารือกับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อเร่งดำเนินการแก้ปัญหาต่อไป

----------------------------------------------------------------------------

ลาดกระบังอ่วม! ฝนตกหนักต่อเนื่องระบายน้ำไม่ทัน ชาวบ้านหัวเราะทั้งน้ำตาน้ำท่วมห้องนอน 7 ชีวิต ไม่มีที่อยู่นอนในรถ ทรัพย์สินเสียหาย ถนนในซอยถูกน้ำท่วมชาวบ้านหลายรายมองไม่เห็นขี่ จยย.-ปั่นจักรยาน-เดิน ตกหลุมบาดเจ็บเข่าเป็นแผลถลอก

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในพื้นที่ลาดกระบัง กรุงเทพฯ ฝนตกอย่างหนักตั้งแต่คืนวันที่ 7 ก.ย. ต่อเนื่องจนถึงเมื่อวานนี้ ส่งผลให้ช่วงเช้าวานนี้ (8 ก.ย.) มีน้ำท่วมขังผิวการจราจรถนนลาดกระบัง ทั้งขาเข้าและขาออกทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนรวมทั้งเด็กนักเรียนที่ต้องไปเรียน

16.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณถนนลาดกระบัง-หลวงแพ่ง บริเวณด้านหน้าห้างฯ โลตัส ลาดกระบัง พบว่าน้ำท่วมขังยังมีน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทางยกระดับข้ามแยก ทำให้รถเล็กสัญจรด้วยความลำบากเคลื่อนตัวได้ช้า โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ของประชาชนเครื่องยนต์ดับจากการขับฝ่ากระแสน้ำ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตลาดกระบัง และตำรวจจราจร สน.จรเข้น้อย ต้องช่วยอำนวยความสะดวก และอนุญาตให้รถจักรยานยนต์ขึ้นทาขี่บนทางเท้าได้เป็นกรณีพิเศษ

จากนั้นทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 115 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง ภายในซอยลาดกระบัง 52 หลังมีการแชร์ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย ว่าได้รับความเดือดร้อนจากฝนตก น้ำท่วมห้องนอนและตัวบ้าน ส่งผลให้ทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก

โดยบ้านหลังดังกล่าว ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมภายในบ้านสูงกว่า 40 เซนติเมตร จนไม่สามารถพักอาศัยได้ ซึ่งลูกชายของเจ้าของบ้านเล่าแบบติดตลกทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วงเวลา 22.00 น. ขณะที่คนภายในบ้านทั้งหมด 7 คน มีเด็กอายุ 2-5 ขวบจำนวน 3 คน ผู้ใหญ่ 4 คน นอนหลับอยู่ จู่ๆ รู้สึกเปียกที่หลังจนตกใจตื่น ก่อนที่จะมาเปิดประตูห้องนอน น้ำก็ทะลักเข้าภายในห้อง จึงต้องพยายามอุ้มลูกหนีน้ำ เกรงว่าจะเกิดอันตราย

ขณะที่พูดคุย ทีมข่าวสังเกตเห็นว่าครอบครัวนี้ไม่มีความกังวลหรือความเครียด กลับมีเสียงหัวเราะอยู่ตลอดเวลาแต่แววตาของนายวีระวัฒน์ อ่อนละมูล เจ้าของบ้าน อายุ 66 ปี ผู้เป็นพ่อ พยายามกลั้นน้ำตา เนื่องจากไม่สามารถช่วยลูกหลานให้ปลอดภัยได้ ส่วนทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นที่นอน พัดลม ตู้เย็น เสื้อผ้า โทรทัศน์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งเครื่องครัว ได้รับความเสียหาย ตอนนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแล

ส่วนสาเหตุที่น้ำท่วมอาจจะเกิดจากการที่บ้านหลังนี้อยู่ต่ำกว่าถนน อีกทั้งยังมีการก่อสร้างถนนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้ทัน อย่างไรก็ตามสำหรับซอยดังกล่าว ก่อนหน้านี้เคยมีเครื่องสูบน้ำของ กทม.ติดตั้งไว้ แต่ปรากฎว่ามีชาวบ้านมาร้องเรียนว่าเครื่องเสียงดัง จึงต้องย้ายไปติดตั้งไว้ที่อื่น จนส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมครั้งนี้

เช่นเดียวกับห้องเช่าแห่งหนึ่ง ภายในซอยลาดกระบัง 52 โดยคืนวันที่ 7 ก.ย. ฝนตกหนักน้ำไหลเข้าท่วมห้องพักชั้นล่าง ทั้งที่นอนของใช้ต่างๆ เปียกน้ำเสียหาย ขณะที่น้ำเริ่มลดแต่ยังมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง ผู้พักอาศัยหวั่นว่าน้ำจะเพิ่มสูงอีก บางห้องต้องยกทรัพย์สินไว้ที่สูงย้ายออกไปนอนที่อื่น อย่างนายธัญ แซ่ลี อายุ 41 ปี อาศัยอยู่กับภรรยา 2 คน บอกว่า น้ำท่วมเกือบถึงปลักไฟซึ่งอยู่ต่ำ  กลัวไปดูด จึงขับรถไปนอนที่ทำงาน ป้อม รปภ.ในสนามบินสุวรรณภูมิ พอฝนหยุดตกกลับมาดูห้องพบว่าข้าวของเสียหาย

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจถนนทางเข้าชุมชน ด้านหน้า สน.จรเข้น้อย พบว่าตลอดแนวถนนมีน้ำท่วมขังประมาณ 10-15 เซนติเมตร บางหลังที่เป็นบ้านชั้นเดียวมีน้ำเข้าท่วมพื้นบ้าน แต่หลายครอบครัวก็ก่ออิฐบล็อคป้องกันน้ำเข้าบ้าน บางหลังนำกระสอบทรายมาวางกัน แต่หลายหลังก็ไม่ได้ป้องกันเพราะคิดว่าน้ำจะไม่เข้าบ้าน

นอกจากนี้ภายในซอยเข้าไปยัง สน.จรเข้น้อย ก็มีน้ำท่วมขัง บ้านเรือนประชาชน ชาวบ้านหลายคนก็ยอมรับสภาพ เพราะเห็นว่าฝนตกหนักมากจริงๆ ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา และน้ำในคลองทุกคลองก็ล้นตลิ่ง ส่วนใหญ่เข้าใจเจ้าหน้าที่ กทม. พร้อมส่งกำลังใจ แม้จะเข้าออกบ้านลำบาก แต่ก็ยังถือว่าพอทนได้ และเชื่อว่าถ้าฝนหยุดตก น้ำที่ท่วมขังจะค่อย ๆ ลดลงไปเอง

ทีมข่าวได้คุยกับนางสาวสมพร คำแสน อายุ 52 ปี ปั่นจักรยานลุยน้ำออกมาจากบ้านพักเพื่อไปซื้อกับข้าวที่ตลาด เล่าว่า ฝนตกหนักตั้งแต่ 1 ทุ่ม ของวันที่ 7 ก.ย. แล้วน้ำก็ท่วมไม่เคยเจอหนักขนาดนี้ ทุกทีตกกลางคืนเช้ามาก็แห้งแล้ว ครั้งนี้ท่วมขังนานเข้าออกบ้านลำบาก ตนเองปั่นจักรยานยนต์ลุยน้ำท่วมออกไปซื้อของหน้าปากซอยจักรยานตกหลุมถนน จนหัวเข่าเป็นแผลถลอก

ระหว่างที่ทีมข่าวคุยกับนางสาวสมพร อยู่นั้น มีชาวบ้านรายหนึ่งเดินลุยน้ำผ่านมาเพื่อกลับบ้านท้ายซอย ชาวบ้านคนนี้ก็เดินตกหลุมจนตัวเซล้มลงนั่งแช่กับน้ำ หัวเข่าเป็นแผลถลอก ชาวบ้านรายนี้บอกว่าถนนในซอยนี้เป็นหลุมเยอะมาก พอน้ำท่วมทำให้เดินลำบาก ไม่รู้ว่าตรงไหนมีหลุมบ้างมองไม่เห็น รถมอเตอร์ไซค์บางคันขี่ลุยน้ำก็ตกหลุมเซเกือบล้ม

ไม่ต่างจากคนทำมาหากินอย่างไรเดอร์หนุ่ม ฝนตกน้ำท่วมก็ต้องขี่รถจักรยานยนต์ ฝ่าฝนลุยน้ำไปส่งอาหารให้ลูกค้า ไรเดอร์รายนี้ บอกว่า ตนเองรู้ว่าย่านลาดกระบังน้ำท่วม แต่ตนต้องทำมาหากินมันเลือกไม่ได้ แต่อยากให้ลูกค้าเข้าใจหน่อย น้ำท่วมอาจไปส่งอาหารช้า เพราะมีลูกค้าบางคนต่อว่า ไรเดอร์พื้นนี้เยอะมากไม่มีใครปฏิเสธงานเพราะเงิน ตรงไหนลุยได้ก็ต้องลุย

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/KdQk9Ioxzs4