สังคม

หลาน 5 ขวบกลับถึงบ้านแขนหัก ครูไม่ส่งรพ.-ซ้ำผอ.เบี้ยวเยียวยา

โดย taweelap_b

2 ก.ค. 2565

4.4K views

เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านโคกสูง ต.โคกสูง อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่าครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรม และอยากจะให้เป็นกรณีศึกษา หากเด็กนักเรียนได้รับอันตรายภายในโรงเรียน คุณครูและผอ.ควรจะดำเนินการอย่างไร


น.ส.กรรณิการ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวอ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้พาหลานชายอายุ 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง มาให้ผู้สื่อข่าวดูสภาพแขนซ้ายที่เข้าเฝือก เพราะแขนหัก โดยน.ส.กรรณิการ์ เล่าให้ฟังว่า ตนเลี้ยงหลานตั้งแต่อายุ 3 เดือน เพราะพ่อแม่ออกไปทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด ส่วนตนมีศักดิ์เป็นอา อาชีพรับราชการ จึงอาสาเลี้ยงเพราะสงสารเด็ก ซึ่งทุกเช้าหรือเย็นคนในครอบครัว จะเปลี่ยนกันไปรับส่งน้องที่โรงเรียน พอโตขึ้นบ้าน บางครั้งน้องก็เดินไปเอง ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นมีใครว่างที่จะไปรับหรือส่ง เพราะบ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน


ในวันเกิดเหตุ คือ วันที่ 13 มิ.ย. 65 ที่ผ่านมา ช่วงเย็นตนได้บอกให้พี่ชาย ไปรับหลานที่โรงเรียน เพราะยังอยู่ในที่ทำงานซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกันกับโรงเรียน จากนั้นเวลาประมาณ 16.00 น. พี่ชายวิ่งมาบอกว่า "หลานแขนหัก" ตนจึงรีบกลับมาดูน้องที่บ้าน ยอมรับว่าตกใจมากเมื่อเห็นสภาพหลาน เพราะน้องร้องไห้ตัวสั่ง พบแขนซ้ายหักผิดรูป เมื่อสอบถามหลานบอกว่าแขนหักตั้งแต่ช่วงเที่ยงวัน จึงรีบนำส่งรพ.นางรอง เพราะรู้ว่ารพ.อีกแห่ง ไม่มีหมอกระดูก ซึ่งกว่าหมอจะช่วยเหลือได้เป็นเวลาประมาณ 22.00 น. ในวันเดียวกัน


จากนั้นในวันต่อมา ตนได้เดินทางไปสอบถาม ผอ.ที่โรงเรียนว่าเกิดอะไรขึ้น ตนได้รับคำตอบจากครูประจำชั้นแทบน้ำตาไหลว่า “เห็นตั้งแต่ตอนเที่ยง” แต่เด็กไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้ขอความช่วยเหลือ ในวันต่อมา ทั้ง ผอ.และครูประจำชั้น นำกระเช้ามาขอโทษที่บ้าน อ้างว่าทางโรงเรียนจะเยียวยาที่ปล่อยปะละเลยเด็ก กระทั่ง ผอ.เป็นผู้สรุปว่าจะขอจ่ายเงินเยียวยาให้เป็น จำนวน 55,000 บาท จึงโทรศัพท์ไปบอกพ่อแม่เด็ก นัดจ่ายเงินในวันที่ 20 มิ.ย.65


"ส่วนหนึ่งครอบครัวรู้สึกเห็นใจโรงเรียน จึงตกลงกันว่า จะมอบเงินจำนวน 20,000 บาท คืนให้โรงเรียนไว้ไปซื้อกล้องวงจรปิด แต่ถึงวันที่ 20 มิ.ย.ได้นัดกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ทางครอบครัวได้เตรียมเงินจำนวน 20,000 บาท ใส่ซองไว้เตรียมมอบให้ ผอ.เรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อไปถึงที่นัดหมาย ผอ.และคณะกรรมการสถานศึกษา พร้อมครูประจำชั้น มากันพร้อมหน้า สุดท้าย ผอ.เป็นคนเอ่ยปากเองว่าไม่มีเงินแม้บาทเดียว ถ้าอยากได้ก็ต้องไปฟ้องเอา" น.ส.กรรณิการ์ กล่าว


น.ส.กรรณิการ์ กล่าวด้วยว่า ตนรู้สึกผิดหวังของการบริหารของโรงเรียน สิ่งที่ยังคาใจไม่หาย คือ เด็กแขนหักขนาดนั้น ทำไมครูไม่รู้ไม่เห็น แต่ทำไมเพื่อนหลาน ๆ รู้กันทั้งห้อง แล้วสภาพของหลานคือแขนหักไม่ใช่ปวดท้อง มองด้วยตาเปล่าเห็นชัดเจน อีกทั้งยังไม่พาเด็กไปหาหมอ ไม่แจ้งผู้ปกครองทราบ ปล่อยเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง จนหมอที่โรงพยาบาลทักตอนไปรักษาว่า "ทำไมปล่อยไว้นานขนาดนี้ เพราะอันตรายแขนอาจจะได้รับผลกระทบหลังรักษาหายแล้ว" ขณะนี้ครอบครัวได้ร้องไปยังศูนย์ดำรงธรรม และแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หนองกี่ไว้แล้ว แต่เรื่องยังเงียบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากจะให้เป็นกรณีศึกษา ว่า ครูผู้สอนควรจะใส่ใจกับเด็กนักเรียนอย่างไร ผู้บริหารควรจะมีมาตรการอย่างไรสำหรับครูที่ไม่สนใจเด็กนักเรียน

คุณอาจสนใจ

Related News