ญาติป.4 คาใจเด็กพลัดตกอัฒจันทร์แขนหัก แต่รร.ให้มารับไปส่งรพ.เอง

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "Watcharagorn Chaiwan" โพสต์รูปและข้อความระบุว่า "โรงเรียนประถมชื่อดัง ในเมืองอุดรฯ ปล่อยให้นักเรียนแขนหักผิดรูปนอนเจ็บปวดในห้องพยาบาลของโรงเรียนเป็นชั่วโมง ครูโทรให้ผู้ปกครองมารับพาไปโรงพยาบาลเอง เค้นถามสาเหตุบอกว่า อยู่ในช่วงเปลี่ยนประกันภัย เด็กไม่มีประกัน ขอถามนะครับ

1.ชีวิตเด็ก มันไม่สำคัญเหรอครับ รู้ทั้งรู้ว่าแขนผิดรูป ทำไมไม่โทรเรียกรถพยาบาล หรือกู้ภัยให้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลโดยด่วน 2.ทำไมโรงเรียนยังไม่ทำประกันอุบัติเหตุ 3.รู้ว่าไม่มีประกัน ทำไมไม่ยอมพาเด็กไปโรงพยาบาล 4.ครูห้องพยาบาล มีความรู้หรือไม่ ทำไมไม่ประเมินเด็ก และปฐมพยาบาลเบื้องต้น หรือถ้าทำไม่เป็นทำไมไม่แจ้ง 1669 พวกคุณสมควรเป็นครูอยู่มั้ย ปล่อยให้เด็ก ป.4 ต้องทรมานเป็นชั่วโมง รู้มั้ยครับว่าตากับยาย แก่ ๆ ต้องพาหลานไปโรงพยาบาลเอง"

ล่าสุดวันที่ 20 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศมกร (สงวนนามสกุล) อายุ 69 ปี ผู้เป็นตา และนายวัชรากร (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้เป็นน้า เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอออกตัวไว้ก่อนว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ เราไม่ได้โทษโรงเรียน เพียงแต่เรามีความรู้สึกคาใจว่าเด็กที่ประสบอุบัติเหตุควรจะได้รับการดูแลเร่งด่วนและอย่างดี เด็กประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บแขนหัก แต่กลับให้คุณตาไปรับเพื่อส่งโรงพยาบาลพยาบาลเอง ซึ่งทันที่ที่พาตัวเด็กไปถึงโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พยาบาลเห็นอาการ ก็ยังบอกเลยว่าเด็กมีแขนผิดรูป จึงต้องรีบนำไปเอกซเรย์ดูทันที

สำหรับอาการของหลาน แขนยังบวมมีอาการผิดรูป และกำลังรอแพทย์ผ่าตัด เพราะมีอาการเจ็บแผลมาก ๆ ซึ่งโรงเรียนได้ให้ครูเข้าไปเยี่ยมแล้วที่โรงพยาบาลอุดรธานี ตนอยากจะถามกลับไปยังโรงเรียนว่า ครูคิดเห็นอย่างไรในการที่ให้เด็กไปนอนอยู่ห้องพยาบาล ทั้ง ๆ ที่เด็กมีอาการเจ็บมาก ๆ แล้วไม่ยอมโทรศัพท์ไปแจ้งรถพยาบาลให้มารับตัวไปรักษา ความเป็นจริงแล้วโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเมือง โทรศัพท์เรียกรถพยาบาลไม่เกิน 5 นาที รถพยาบาลก็จะมาถึงแล้ว แต่กลับโทรศัพท์หาผู้ปกครองในเวลา 15.58 น. กว่าคุณตาจะขับรถออกจากบ้านไปถึงโรงเรียน ประมาณ 16.40 น.

"เท่าที่สอบถามหลาน รู้ว่าหลานกระโดดเล่นที่บริเวณอัฒจันทร์แล้วพลัดตกลงมา ซึ่งเหตุเกิดเวลาประมาณ 15.00 น. เป็นเวลาเลิกเรียนและกำลังรอผู้ปกครองมารับ ผมจึงอยากฝากเคสนี้เป็นอุทาหรณ์ และขอให้เกิดเคสนี้เป็นเคสสุดท้าย อยากให้ครูสามารถดูแลเด็กมากกว่านี้ อยากให้ทางโรงเรียนซ้อมแผนรับมือแผนเผชิญเหตุ ซ้อมการประสบภัยกรณีต่าง ๆ โรงเรียนควรจะมีหลักสูตรนี้เพื่อพัฒนาบุคลากรให้สามารถเผชิญเหตุได้ด้วย" นายวัชรากร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ควรหันกลับมามองถึงปัญหาเรื่องการส่งต่อผู้ป่วยในโรงเรียน กรณีนี้โรงเรียนเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ น่าจะมีความพร้อมมากกว่านี้ และฝากไปถึงโรงเรียนที่อยู่ในประเทศไทยทุก ๆ โรงเรียน ถ้าบุคลากรไม่มีความรู้ด้านการปฐมพยาบาลกรณีเด็กได้รับบาดเจ็บและอันตราย ไม่รู้ว่าเด็กเจ็บตรงไหนก็ให้รีบโทรแจ้ง 1669 คนที่มีความรู้จะได้เข้ามาประเมินอาการเพื่อให้ผู้ได้รับบาดเจ็บมีความปลอดภัยที่สุด

ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า กรณีนี้เป็นช่วงที่เด็กเลิกเรียน แล้วไปเล่นกันที่บริเวณอัฒจันทร์ ด้วยการวิ่งหยอกล้อเล่นกับเพื่อน ๆ เพื่อรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน แต่ในระหว่างนั้นเด็กได้พลัดตกลงมา แขนเข้าไปงัดกับอะไรสักอย่าง เพื่อนจึงพาไปปฐมพยาบาลที่เรือนพยาบาล และครูได้ปฐมพยาบาลให้เบื้องต้น จากนั้นครูจึงโทรศัพท์แจ้งรถพยาบาลและผู้ปกครองพร้อมกัน แต่ผู้ปกครองมาถึงก่อน กรณีประกันภัยอุบัติเหตุนั้น ตนขอชี้แจงว่าประกับอุบัติเหตุหมู่ทำให้อยู่แล้ว ไม่ได้ขาดต่อประกัน และไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ทั้งนี้ โรงเรียนมีแผนรับมือกรณีเกิดอุบัติเหตุแบบนี้อยู่แล้ว หากเกิดเหตุจะโทรศัพท์ไปประสานกับโรงพยาบาลให้มารับและแจ้งให้ญาติรับรู้