เจ้าคณะฯ แจง 'พี่หลวงกาโตะ' สึกแล้ว แต่ต้องสืบสวนต่อ ถ้าผิดจริง ห้ามบวชอีกตลอดชีวิต

ลุยสอบพี่หลวงกาโตะ เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช ชี้แม้จะสึกแล้ว แต่คณะสงฆ์ยังเดินหน้าสอบสวน เพราะกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง หากพบเสพเมถุนจริง จะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้อีกตลอดชีวิต

จากกรณี กระแสข่าวเหตุการณ์คลิปเสียงที่ถูกระบุว่า คล้ายกับพระหนุ่มนักเทศน์ชื่อดังใน จ.นครศรีธรรมราช พัวพันกับสีการายหนึ่งชื่อ 'ตอง' และยังมีภาพแคปแชทไลน์ ที่ระบุว่า เป็นการพูดคุยระหว่างสีกากับพระนักเทศน์คนเดียวกัน เพราะมีเสียงคล้ายกันมาก

ซึ่งหลายฝ่าย พุ่งเป้าไปที่ พระพงศกร จันทร์แก้ว หรือ 'หลวงพี่กาโตะ' พระนักเทศน์ชื่อดังวัดเพ็ญญาติ ต.กะเปรียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช

ต่อมา วันที่ 30 เมษายน เพจเฟซบุ๊ก พงศกร จันทร์แก้ว ซึ่งคือชื่อเดิมของหลวงพี่กาโตะ ได้โพสต์คลิปพิธีลาสิกขา ในตอนค่ำ โดยในคลิปได้พูดว่า “ในฐานะที่อาตมาภาพ บวชเพราะโยมแม่ และหวังพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ให้กับโยมแม่ แต่ในเมื่อมีอุปสรรค อาตมาเป็นเพียงพระนวกะ จึงอ่อนในพระธรรมวินัยมาก เพื่อที่จะลบอุปสรรคนี้ จึงตัดสินใจยุติในการดำรงเพศบรรพชิต จึงขอโอกาส ขอขมาพระอาจารย์ทุกรูป และทำการลาสิกขา ณ วันนี้”

โดยมีข้อตกลงว่า เป็นการสึกด้วยความสมัครใจ ไม่มีใครบีบบังคับ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า การที่มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง แล้วพระกาโตะไม่มา แล้วจู่ๆ มาสึก เรื่องสืบสวนต่างๆ จะเป็นอย่างไร

วานนี้ (1 พ.ค. 65) พระครูสิริธรรมาภิรัต (ธรรมรัต อริยธมฺโม) เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุต) กล่าวว่า กรณีที่เสพเมถุนถือว่าต้องอาบัติหนักสุดในทางพระธรรมวินัยต้องปาราชิก ไปในทันทีไม่ต้องทำพิธีสึก และจะกลับมาบวชเป็นพระอีกไม่ได้ตลอดชีวิต

ซึ่งพระที่ถูกกล่าวหาย่อมรู้ตัวเองว่าทำผิดจริงหรือไม่ “สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง นาญโญ อัญญัง วิโสธเย” คือ บริสุทธิ์ ไม่บริสุทธิ์ เป็นของเฉพาะตัว คนอื่น จะมาทำให้เราบริสุทธิ์ไม่ได้

แต่หากพระที่ถูกกล่าวหา ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธ ทางคณะสงฆ์จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนข้อเท็จจริง โดยคณะกรรมการจะต้องประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขามาสอบสวนด้วย

ในส่วนที่ยังไม่แต่งตั้งคณะกรรมการ หากสึกจากความเป็นพระสามารถกลับมาบวชใหม่ได้ แต่หากมีการตั้งคณะกรรมการและสอบสวนสรุปผล หรือคณะกรรมการมีมติว่าผิด ก็จะขาดจากความเป็นพระไปในทันที

ในกรณีนี้แม้จะมีการสึกไปแล้ว แต่ทางคณะสงฆ์ก็คงสอบสวนตามขั้นตอนต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง

โดยผลการสอบสวนเป็นเหมือนคำพิพากษา แม้จะชิงสึกออกไปก่อนและบวชใหม่ ในระหว่างการสอบสวน หากในที่สุด พบว่า เรื่องที่เป็นข่าวนั้น พระนักเทศน์ได้กระทำความผิดจริง ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระไปในทันที และจะไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้อีกตลอดชีวิต

ขณะที่ กาโตะ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก พงศกร จันทร์แก้ว โต้ข่าวลือที่ออกมาว่า “หลวงพี่กาโตะ ยืนยันว่า มีโอกาส 60 เปอร์เซ็นต์ ที่จะกลับมาบวชต่อ หรือถ้าบวชไม่ได้ ก็พร้อมที่จะลงสมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ” โดยลงรูปดังกล่าว ที่มีข้อความบนรูปว่า “ข่าวปลอม” และโพสต์ข้อความบนหน้าเฟซบุ๊กว่า “ยืนยัน มันคือข่าวปลอม"

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/G8fDmJQ9EuY