ยายโวยปลูกกัญชา1ต้นโดนจับไม่ให้ประกันตัว

ที่เลขที่ 202 บ้านโคกสูง หมู่ที่ 2 ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น นางนาง มหาเสนา อายุ 70 ปี พร้อมด้วยนางบุญเส็ง สิงห์เหิน อายุ 48 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านกว่า 10 คนโดยร้องเรียนพร้อมแสดงบันทึกการจับกุมโดยไม่มีหมายจับ ของ สภ.อุบลรัตน์ ลงวันที่ 19 เดือนมกราคม พ.ศ.2565 เวลา 10.50 น. โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ดิเรกฤทธิ์ ปารเรือนแสน ผกก.สภ.อุบลรัตน์ และ พ.ต.ท.ดรัลพร พรมตู้ รอง ผกก สส. สภ.อุบลรัตน์ โดยมีพ.ต.ท.ภานุพงศ์ บุตรสามาลี สว.สส.ฯ . ร.ต.อ.ปราศาสตร์ เทาดี รอง สว.สส.ฯ ,ร.ต.ต.สมหวัง มังกร . ด.ต.กฤษฎา แก้วพินิจ ได้ร่วมกันจับกุมนางนาง และนางบุญเส็ง ของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชาสด) ลักษณะเป็นต้น จำนวน คนละ 1 ต้น สูงประมาณ 140 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 300 กรัมปลูกอยู่บริเวณหน้าบ้าน



จึงได้แจ้งข้อหา “ผลิต(ปลูก)และมียาเสพติดให้โทษประเภท (กัญชาสด) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในการอนุญาตให้ปลูก หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อการบำบัดรักษา” โดยจับได้ในเวลา 10/00 น.วันที่ 19 มี.ค.65 พร้อมส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี



นางนาง เผยว่าตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจะทำการจับกุมกัญชามีหลานไปแจ้งที่บ้านเพื่อนอีหลัง คนนึกว่ามีคนมาเหาเรื่องการรื้อท่อประปาออกจากที่นา จึงเดินทางเข้าบ้านถามว่ามารที่มารอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าพวกผมเอง และบอกว่า กัญชานี่เป็นเข้ายายไหม ตนเองก็บอกว่าอยู่ที่หน้าบ้านยายก็ต้องเป็นของยาย ทางตำรวจถามว่าไม่รู้เหรอว่าผิดกฎหมาย ตนแจ้งว่าทราบดี แต่ที่ปลูกเพื่อที่จะต้มกินทำการรักษาโรค ซึ่งตัวของยายเองเป็นศูนย์รวมของโรค หลานที่โดนจับข้างบ้านก็เป็นโรคปลูกไว้นำใบมาต้มกินในเช้าเพราะเป็นยาดี



ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวขึ้นรถเดี๋ยวก็กลับมา จึงบอกกับหลานให้รออยู่ที่บ้าน เมื่อถึงโรงพักทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ประกันตัว ด้วยความงง ตนจึงเอ่ยปากกับตำรวจว่า เท่ากับว่าหลอกพวกมายมาเข้าคุกเหรอ ทำไมตำรวจหลอกเก่งจัง

โดยตำรวจแจ้งสาเหตุว่าปลูกกัญชาเป็นยาเสพติดเลยไม่ให้ประกันตัว ซึ่งตนก็แย้วงว่ามีแค่คนละต้น เมื่อตำรวจไม่ให้ประกันตัวลูกชายที่เป็นทนายความอยากพูดกับร้อยเวรฯ ตำรวจอ้างว่าไม่คุยด้วย ตนเองคยั้นคะยอว่าคุยกับสักคำสองคำก็ยังดี หลังจากคุยกับลูกชายทางร้อยก็ไม่ให้ประกัน ลูกชายเลยถามว่าต้องการทุนประกันเท่าใด ทางพนักงานสอบสวนอ้างว่าไม่ขอคุยด้วย ใน



วันที่ 2 หลังจากข้ามคืนที่ตนเองนอนอยูในห้องควบคุม พนักงานสอบสวนมาบอกว่า ยายจะประกันตัวในวงเงินใช่ไหม ยายตอบว่าใช่ แล้วทำไมไม่พูดว่าจะให้ประกันตั้งแต่เมื่อวาน จนเลยมาอีกวันทำให้พวกต้องนอนในคุก จึงออกมาบันทึกข้อความ พร้อมกับประกันตัวคนละ 10,000 บาท เท่ากับว่าตนเองเสียอิสรภาพเป็นเวลา 24 ชั่วโมง โดยหนังสือบันการจับกุมตนเองก็งงว่าลงวันที่ 19 เดือน มกราคม 2565 ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว และก็แค่ปลูกกัญชาเพื่อใช้ในการบำบัดรักษาโรคเท่านี้ต้องจับกุมกันขึ้นโรงพัก แถมจะประกันตัวก็ไม่ให้ประกัน ต้องขอความเป็นธรรมจากผู้เกี่ยวข้องด้วย



ต่อมา พันโท ประสาร แสงสว่าง ประธานผู้สมัครอิสานตอนบนพรรคเสรีรวมไทย พร้อมด้วย ร.ต.อ.ประภาส น้อยเลาหะกุล สมาชิกพรรคว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเสรีรวมไทย เผยว่า หลังจากท่านหัวหน้าพรรค คือ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมีเวช ได้ทราบเรื่องที่เกี่ยวขึ้นกับชาวบ้าน จึงได้สั่งการให้ผู้สมัครในภาคอีสานตอนบนเข้ามาดูแล ให้กำลังใจ พร้อมให้การช่วยเหลือในเรื่องคดี เนื่องจากพฤติกรรมของผู้ต้องไม่ส่อไปในทางทำเพื่อการค้า เป็นเพียงเพื่อการบำบัดรักษาโรค พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับการปลดล๊อคพืชกัญชา พร้อมกับเรื่องคดีต่อไป