สังคม

คลัสเตอร์จังหวัดใหญ่เพียบ เพิ่มมาตรการรับมือ ทั้งปิดโรงเรียน-กักตัว

โดย thichaphat_d

3 ม.ค. 2565

400 views

ที่จังหวัดอุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และหน่วยกู้ภัย เริ่มนำตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดในพื้นที่อำเภอเมือง ซึ่งมีผู้ติดเชื้อจากการระบาดของ คลัสเตอร์ ร้านอาหารกึ่งผับเอกมัย 487 สูงถึง 377 คน จนเตียงของโรงพยาบาลหลักในพื้นที่อำเภอเมืองมีไม่เพียงพอ เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี วิทยาเขตบ้านยางน้อย อ.เขื่องใน จำนวน 30 คน พร้อมคาดจะมีผู้ป่วยทยอยถูกส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนกว่าการระบาด ของ คลัสเตอร์นี้ จะเบาบางลง


สำหรับโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ มีเตียงรองรับได้ทั้งหมดกว่า 600 เตียง เดิมใช้เป็นสถานที่ใช้กักตัวของผู้ป่วยที่รักษาหาย มาสังเกตอาการต่ออีก 14 วัน กระทั่งกลางเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา เมื่อเกิดการระบาดของไวรัสโควิด 19 อย่างหนัก ได้ปรับเป็นโรงพยาบาลสนามและปิดใช้งานเมื่อเดือนพฤศจิกายน และต้องกลับมาเปิดใช้งานใหม่วันนี้


สำหรับการระบาดของ คลัสเตอร์ ร้านอาหารกึ่งผับที่เป็นเชื้อโอไมครอน ล่าสุดจาก 482 คน เพิ่มขึ้นเป็น 535 คน โดยอำเภอเมืองยังเป็นพื้นที่มีคนติดเชื้อมากที่สุด 377 คน รองลงมาเป็นอำเภอวารินชำราบ 58 คน และมีกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 1,341 คน ซึ่งจังหวัดสั่งเร่งค้นหาคนติดเชื้อ แต่ยังไม่แสดงอาการเข้ารับการรักษา เพื่อควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัดเร็วที่สุด


ส่วนภาพรวมของจังหวัดวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรวม 206 คน ติดเชื้อในพื้นที่ 196 คน และมีผู้ป่วยอาการหนักจากการติดเชื้อตัวเก่ารักษาตัวอยู่เพียง 1 คนเท่านั้น


ด้านขอนแก่นก็หนักไม่แพ้กัน นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ผู้อำนวยการศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดขอนแก่น ลงนามในประกาศจังหวัดขอนแก่น เรื่อง มาตรการ การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID) จังหวัดขอนแก่น (ฉบับที่ 60)


ตามที่จังหวัดขอนแก่นได้ออกประกาศมาตรการ การเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 58 โดยได้มีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID) ตามประกาศจังหวัดขอนแก่น ฉบับที่ 59 เพื่อควบคุม ป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ประชาชนได้รวมกลุ่มจัดงานตามประเพณีท้องถิ่น งานทางศาสนาและงานรื่นเริงตามประเพณีไปแล้วนั้น


เนื่องจากตามรายงานการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประชาชนที่มีอาการสงสัยและกลุ่มเสี่ยงในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จากห้องปฏิบัติการ (Lab) เมื่อคืนวันที่ 1 ม.ค. 2565 ตรวจพบผลเป็นบวก (Positive) จำนวน 232 ราย เป็นการติดเชื้อไวรัสเพิ่มจำนวนค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับเวลาก่อนเทศกาลปีใหม่ ประกอบกับรายงานทางวิชาการการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กลายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) เป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้ง่าย


โดยเฉพาะการรวมกลุ่มหรือการจัดกิจกรรมที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ตามที่ฝ่ายสาธารณสุขกำหนด การไม่สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกัน การไม่จัดหรืออำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล (Distancing) อย่างน้อยหนึ่งเมตรและจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัดในพื้นที่ปิดขนาด 5 ตารางเมตรต่อคน ในพื้นที่เปิดขนาด 4 ตารางเมตรต่อคน การล้างมือด้วยสบู่ แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกครั้งที่มีการสัมผัสสิ่งของที่อยู่นอกตัวหรือในที่สาธารณะ เป็นต้น


ทำให้การแพร่เชื้อเป็นไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น เพื่อยับยั้ง ป้องกัน การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หลังการรวมกลุ่มหรือการจัดกิจกรรมตามประเพณีหลังเทศกาลปีใหม่ เพื่อไม่ให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสกระจายไปจนไม่อาจควบคุมป้องกันได้ จึงเห็นควรกำหนดมาตรการเท่าที่จำเป็น เพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์แก่ประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น จะได้กลับมาดำรงชีวิตตามปกติโดยเร็ว


จนทำให้ขอนแก่น "สั่งปิดร.ร.ทุกแห่ง-งดจัดวันเด็ก" เพราะหลังปีใหม่คืนเดียวติดโควิด 232 คน


นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยสถานการณ์โควิด 19 จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำวันที่ 2 มกราคม 2565 รักษาหายเพิ่ม 20 ราย กำลังรักษาอยู่ 387 ราย // เสียชีวิตสะสม 118 ราย พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 35 ราย ยอดติดเชื้อสะสมรวม 13,846 ราย


ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัด 5 ราย // เป็นผู้เชื้อภายในจังหวัดทั้ง 30 ราย //  ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงผู้ป่วย ในครอบครัว ชุมชน ร้านอาหาร 29 ราย // ตรวจคัดกรองในโรงพยาบาล 1 ราย ใน 9 อำเภอ

วานนี้ (2 ม.ค. 65) เพจประชาสัมพันธ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งพบ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 97 ราย โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างพื้นที่ 12 ราย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 3 ราย, ชลบุรี 4 ราย, ภูเก็ต สมุทรปราการ และประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดละ 1 ราย และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ซึ่งเดินทางเข้ามาแบบ Test & Go อีก 2 ราย อีก 85 ราย เป็นผู้ติดเชื้อในจังหวัด


โดยมาจากคลัสเตอร์ใหม่ และคลัสเตอร์ที่ยังมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง 9 ราย ประกอบด้วย คลัสเตอร์ตลาดประตูเชียงใหม่ 7 ราย, คลัสเตอร์พอใจบาร์ นิมมานเหมินทร์ ซอย 7 จำนวน 1 ราย และคลัสเตอร์ฮอมบาร์ 1 ราย


ขณะนี้ทีมควบคุมโรคในทุกพื้นที่ได้ลงทำการควบคุมโรค ตรวจคัดกรองเชิงรุกแยกกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ ฆ่าเชื้อในพื้นที่ และสอบสวนโรคแล้ว ส่วนคลัสเตอร์เดิมที่อยู่ระหว่างการควบคุมโรค การออกตรวจเชิงรุก และการติดตามผู้สัมผัส ไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม


นอกจากนี้ ยังมีผู้ติดเชื้อที่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 32 ราย และผู้ติดเชื้อจากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อรายก่อนหน้า 40 ราย ซึ่งทุกอำเภอได้มีการออกคำสั่งกักตัวของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่มีผลตรวจครั้งแรกเป็นลบ รวมทั้งมีการติดตามให้กักตัวอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อสู่คนในครอบครัวและชุมชน ขณะที่การระบาดในครอบครัว พบเพิ่ม 4 ราย จากครอบครัวหมู่ 4 ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว 3 ราย และหอพักหมู่ 2 ตำบลท่าศาลา 1 ราย


สสจ.เชียงใหม่ ย้ำว่า ประชาชนต้องไม่ประมาทในระยะนี้ เพราะเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน แพร่กระจาย ติดต่อกันได้ง่ายมาก และขอแนะนำให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และสตรีมีครรภ์, ขอให้ล้างมือหลังสัมผัสพื้นผิว และก่อนสัมผัสตัวผู้สูงอายุหรือผู้ป่วย, สวมหน้ากากอนามัยเวลาพูดคุยทั้งในและนอกบ้าน, หลีกเลี่ยงสถานที่คนแออัด และอับอากาศ รวมถึงไม่นัดเจอญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงหลายคนพร้อมกัน


นอกจากนี้ การจัดงานรวมกลุ่ม ปาร์ตี้สังสรรค์ ในส่วนของร้านค้า สถานประกอบการ ต้องปฏิบัติตามมาตรการ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด ส่วนประชาชนต้องปฏิบัติตนเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล หรือมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล D-M-H-T-T-A


ต่อมา เพจ ประชาสัมพันธ์สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ โพสต์ข้อความ ระบุว่า #ประกาศจังหวัดเชียงใหม่แจ้งผู้ที่เสี่ยงสัมผัสผู้ติดเชื้อโควิด-19  ผู้ที่มีประวัติเดินทางมากับรถไฟ ขบวน 9 ด่วนพิเศษอุตราวิถี คันที่ 3 กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ วันที่ 29 ธันวาคม 2564 เวลา 18.10 น. ขอให้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่ง พร้อมกักตัวสังเกตอาการ 14 วัน


อย่างไรก็ตามยังไม่มีการเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบ เป็นสายพันธุ์ใด


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/_Cll9nUlPwY

คุณอาจสนใจ

Related News