สังคม

ทนายแจ้งเอาผิด อดีตผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานีพร้อมพวก ร่วมกันยักยอกทรัพย์กว่า 19 ล้านบาท

โดย panisa_p

7 ต.ค. 2564

535 views

วันนี้ (7 ต.ค.) ที่ สน.บางซื่อ นายสมเดช อยู่พรหม ทนายความ อายุ 64 ปี ในฐานะผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีกับอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ในข้อหายักยอกทรัพย์ 19 ล้านบาท


โดย นายสมเดช กล่าวว่า ในวันนี้ตนได้นำหลักฐานเอกสารในการว่าจ้างให้ดำเนินการออกโฉนดที่ดิน จำนวน 7 แปลง ซึ่งจ่ายเป็นแคชเช็ค รวม 2 ฉบับ โดยจ่ายในนาม นายฉัตรป้อง เพื่อแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดีกับ นายฉัตรป้อง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมพวก รวม 3 คน ในฐานความผิดยักยอกทรัพย์ เป็นเงินจำนวน 19 ล้านบาท


สำหรับตนมีอาชีพเป็นทนายความ รับจ้างว่าความทั่วราชอาณาจักร เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ได้รับการว่าจ้างจากลูกความรายหนึ่ง ให้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอออกโฉนดที่ดินของลูกความเอง จำนวน 7 แปลง หรือประมาณ 750 ไร่ ในตำบลหนองใหญ่ อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี


โดยก่อนหน้านี้ ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ค.1 ซึ่งยังไม่มีโฉนด และเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ตนเองและทีมงานได้ติดต่อขอรับค่าจ้างที่ตกลงกันไว้ เป็นที่ดิน 80 ไร่ ลูกความจึงขอชำระค่าจ้างโดยแบ่งที่ดินดังกล่าวให้ส่วนหนึ่งแทนเงินสด และในวันนัดโอนที่ดินระหว่างตนเองและลูกความนั้น ตนเองก็ได้ประกาศขายที่ดินในส่วนที่ได้รับโอนในราคาประมาณ 19 ล้านบาท


ซึ่งลูกความเห็นว่าตนเองประกาศขายในราคาถูก จึงขอซื้อคืน โดยจ่ายเงินเป็นแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ บัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาบึงกุ่ม ลงวันที่ 5 ตุลาคม 64 ซึ่งฉบับที่ 1 เลขที่ 00574470 สั่งจ่ายเป็นเงิน 10 ล้านบาท ฉบับที่ 2 เลขที่ 00574469 สั่งจ่ายเป็นเงิน 9 ล้านบาท นายสมเดช กล่าว




นายสมเดช กล่าวต่อว่า เมื่อถึงวันส่งมอบเช็ค ปรากฏว่าเช็คดังกล่าวไม่ใช่ชื่อของตนเอง แต่เป็นชื่อบัญชีคนกลาง คือ นายฉัตรป้อง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยลูกความให้เหตุผลว่า ต้องการให้เงินผ่านบัญชีคนกลาง เพื่อป้องกันการฉ้อโกงเกิดขึ้น


ซึ่งอดีตผู้ว่าฯ คนดังกล่าวเป็นผู้กว้างขวาง ชาวบ้านเคารพ นับหน้าถือตา ตนเองและลูกความต่างรู้จักทั้งสองฝ่ายจึงตกลง และมีการทำบันทึกข้อความ ภาพถ่าย และมีสักขีพยานรับทราบ โดยเมื่อวานนี้ (6 ต.ค.) ตนได้เดินทางไปบ้านนายฉัตรป้อง อดีตผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี เพื่อนัดแบ่งเงินจำนวน 19 ล้านบาทของตนเอง


ปรากฏว่านายฉัตรป้องนำเงินสดใส่ถุงให้ตนเอง 6 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งตนเองทวงถามก็ไม่ให้ ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นเงินที่ตนเองหามาได้โดยการทำงานแบบสุจริต ทั้งนี้จากการตรวจสอบยังพบว่าทีมงานของตนเอง ได้ร่วมมือกับนายฉัตรป้อง ในการยักยอกทรัพย์ ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความดำเนินคดีวันนี้ โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

คุณอาจสนใจ

Related News