เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' ลุยเกาะสมุย ลั่นไม่ได้มาหาเสียง ตรวจท่าเทียบเรือสำราญ ไม่พลาดชิมแกงไตปลา

โดย nattachat_c

8 เม.ย. 2567

39 views

วานนี้ 7 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 13.45น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางถึงที่เทศบาลนครเกาะสมุย ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อประชุมบูรณาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี


โดย นายกรัฐมนตรี นำคณะ ตรวจราชการ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับฟังบรรยายสรุปโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ จากนายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ซึ่งจะเปิดให้ภาคเอกชนร่วมลงทุน คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2570-2572 และเปิดให้บริการได้ในปี 2572 เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำ รองรับนักท่องเที่ยว 180,000 คนต่อปี รองรับเรือสำราญ 120 เที่ยวเรือต่อปี นักท่องเที่ยวใช้จ่าย 5,000 บาทต่อคน


โดย นายเศรษฐาแนะนำให้มีดิวตี้ ฟรี ในโครงการด้วย เพื่อบริการนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับพื้นที่เกาะสมุย และต้องการให้โครงการดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในสิ้นปี 2567 เพื่อเป็นของขวัญให้กับชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี


นายเศรษฐากล่าวว่า ต้องการให้มีท่าเทียบเรือสำราญ เพราะพื้นที่บริเวณนี้มีเกาะหลายแห่ง เหมาะกับการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเหมือนภูเก็ต สิมิลัน


และอยากให้ทำเกี่ยวกับเครื่องบินน้ำด้วย เพื่อบินจากเกาะต่าง ๆ มาจุดนี้ได้ ต้องทำให้ครบวงจรบริการนักท่องเที่ยว ผลักดันให้เป็นท็อปเท็นของโลกด้วย


การเดินทางมาครั้งนี้ ไม่ใช่การพูดลอย ๆ จะต้องมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ขอให้ สส.ช่วยกันโปรโมตเกาะสมุย


หลังการสร้างท่าเรือแล้ว ควรจะเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ทั้งเรื่องของวัด แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ โดยร่วมมือกับทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจำนวนคนที่มา ไม่สำคัญเท่ากับระยะเวลาที่อยู่ หากอยู่นานก็จะใช้จ่ายมากขึ้น เศรษฐกิจพื้นเมืองจะดีขึ้น


เมื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานนับหมื่นล้าน อยากให้นักท่องเที่ยวได้อยู่นาน ๆ ไม่ใช่มาแป๊บเดียวแล้วกลับ สส.ทุกคนต้องช่วยรัฐบาล ร่วมมือกับภาคการท่องเที่ยว

-------------
เวลา 11.15 น.นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เดินทางเยี่ยมชมแปลงทุเรียนสาธิต ณ สวนทุเรียนนายชัยณรงค์ ทองสุข ตำบลหน้าเมือง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ภายหลังตรวจโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ อำเภอเกาะสมุย


นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมารับฟังปัญหา และแนวทางการพัฒนาสินค้าทางการเกษตร บนเกาะสมุย โดยเฉพาะทุเรียน กับมังคุด


ซึ่งนายสิทธิชัย อินทรพรหม ผู้จัดการทุเรียนแปลงใหญ่ ทุเรียนวิสาหกิจชุมชนไม้ผลเกาะสมุย และตัวแทนเกษตรกร ได้รายงานกับนายกฯ ว่า ตอนนี้ มีปัญหาหลักมีอยู่ 5 เรื่องหลัก โดยเฉพาะเส้นทางบนเกาะสมุยไม่มีการเชื่อมต่อกัน จึงอยากให้รัฐบาล เร่งแก้ไขคือ


1. เร่งดำเนินการสร้างถนน ให้เส้นทางเชื่อมต่อกัน เพื่ออำนวยความสดวกด้านขนส่งและการเดินทางให้กับเกษตรกร ชาวบ้านและคนในพื้นที่


2. ปัญหาไฟฟ้าไม่ทั่วถึงเนื่องจากบางพื้นที่ที่ปลูกสินค้าเกษตรเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของกรมที่ดิน


3. การแก้ไขสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตเพราะบางจุดสัญญาณเข้าไม่ถึง


4. การแก้ปัญหาการขนส่งทางเรือ เพิ่มจำนวนรอบเรือขนส่ง ที่นำสินค้าจากเกาะสมุยขึ้นฝั่ง เพื่อทำการค้า ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการจัดส่งคมนาคมทันที ให้ขยายจำนวนเที่ยว ระยะเวลาการเดินเรือข้ามฝั่งให้ประชาชน


5. การสร้างสะพาน เพื่อแก้ปัญหาขนส่งสินค้าเกษตร ระยะยาวคือการแก้ไขปัญหาด้วยการสร้างสะพานไปอีกฝั่ง นายกรัฐตรีบอกว่าเรื่องดังกล่าวจะต้องหารือกับหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง


นายกรัฐมนตรีย้ำกับเกษตรกร ก่อนเดินทางกลับว่า การที่เดินทางลงพื้นที่ มาพบประชาชนถึงสวนทุเรียน เพราะให้ความสำคัญกับทุเรียน ที่ใช้เป็นผลไม้ หลักของประเทศ ซึ่งตนไม่ได้หาเสียงเพราะการเลือกตั้งไปแล้ว จึงย้ำว่า ผมไม่ได้หาเสียง

---------------

หลังจากลงพื้นที่ ตรวจราชการที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในช่วงเช้า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้พักรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารชื่อดังของเกาะสมุย โดยหนึ่งในเมนูคือ “แกงไตปลา” โดยนายกรัฐมนตรีได้ชิมแกงไตปลา ก่อนจะพูดว่า “อร่อยมากครับ” พร้อมกับยกนิ้วโป้งให้


เมื่อถามว่าเมื่อรับประทานแล้วจะบอกอะไรกับคนที่จัดอันดับแกงไตปลาหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ไม่ตอบโต้ เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะไม่ชอบ แต่ผมชอบ อย่างที่บอกว่าฝรั่งก็มีอะไรหลายอย่างที่แตกต่างจากเรา ซึ่งเราก็ยอมรับได้ ไม่ใช่ว่าเค้าชอบบางอย่างหรือไม่ชอบบางอย่าง เราไปบอกเขาไม่ได้ และย้ำว่าอาหารไทยมีเยอะ ต้มยำกุ้ง แกงมัสมั่นไก่ ก็ติดอันดับโลกทั้งนั้น


เมื่อถามว่าการรับประทานแกงไตปลาจำเป็นจะต้อง รับประทานกับข้าวสวยหรือรับประทานเปล่าได้เลย นายกรัฐมนตรีกล่าว ผมทานได้ พยายามไม่ทานข้าวลดน้ำหนักอยู่ เพราะผมชอบกินรสจัด จากนั้น นายกรัฐมนตรีก็กินโชว์ พร้อมกับชมไม่ขาดปากว่าอร่อยจริง ๆไม่ได้อร่อยเล่น ๆ

-------------

นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือบูรณาการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่เข้าร่วมด้วย ซึ่งการหารือในประเด็นน้ำประปาส่วนภูมิภาค ประเด็นปัญหาขยะ ประเด็นเรื่องการท่องเที่ยว ประเด็นความเป็นไปได้ในการขยายพื้นที่สนามบินนานาชาติสมุย และประเด็นการขยายถนนรอบเกาะ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวรายงาน


ทั้งนี้ได้มีการนำเสนอปัญหาผลกระทบของเกาะสมุย 3 ปัญหา คือ ปัญหาขยะ ปัญหาน้ำประปา และปัญหาคมนาคมในพื้นที่ โดยใน 2 ประเด็นที่จะขอรับการช่วยเหลือจากรัฐบาลคือปัญหาขยะ เนื่องจากปัจจุบันมีปัญหาขยะตกค้างจำนวนมากประมาณ 150,000 ตัน และเตาเผาขยะเดิมปัจจุบันใช้การไม่ได้ ซึ่งแนวทางการแก้ไขในระยะสั้น ต้องเร่งขนขยะออกจากพื้นที่


โดยจะขอสนับสนุนงบประมาณในระยะยาว ให้มีการลงทุนสร้างเตาเผาขยะใหม่ที่มีประสิทธิภาพส่วนปัญหาน้ำประปาปัจจุบันน้ำประปาไม่เพียงพอประกอบกับแหล่งน้ำต้นทุนมีจำนวนจำกัดประชากรเพิ่มขึ้น ดังนั้นแนวทางการแก้ไขคือซ่อมแซมโรงงานผลิตน้ำทะเลเป็นน้ำจืด โดยการขอสนับสนุนงบการลงทุนในระยะยาว เพื่อขยายท่อส่งน้ำประปาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงขอให้นายกฯพิจารณาด้วย


ขณะที่ยังมีการนำเสนอข้อเสนอจากภาคเอกชนโดยนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวสมุย กล่าวว่า ในประเด็นที่


1. มีการนำเสนอประเด็นที่ต้องการส่งเสริมให้เกาะสมุยเป็นทัวร์ลิซึ่ม ตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะการลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อแบ่งเบาภาระผู้ประกอบการและการให้สินเชื่อในภาคธุรกิจท่องเที่ยวในกลไกของรัฐ เพื่อให้สมุยเป็นทัวร์ริสซึมฮับ


2. การคมนาคมในพื้นที่ หากจะมีการจัดเวิลด์คลาส ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีเที่ยวบินสูงสุดทั้งเข้าและออกเพียง 50 ไฟท์ ซึ่งไม่ว่าปีไหนห้องพักขยายเพิ่มขึ้น แต่การเดินทางไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ หรือทางอากาศยังมีเท่าเดิม สำหรับการเดินทางทางน้ำไม่ว่าจะเป็นท่าเรือสำราญ (มารีน่า)ในการส่งเสริมให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อสูงเข้ามา และเรื่องของท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งปัจจุบันเต็มทุกบริษัท แต่สร้างท่าเรือสำราญ ถือเป็นหนึ่งในส่วนที่ช่วยแบ่งเบาภาระ


3. เรื่องการระบบจราจร อยากให้มีการศึกษาถนนบายพาสที่มีอยู่แล้ว หรือแม้กระทั่งการศึกษาเรื่องของสะพานด้วย


แต่อย่างที่ทราบกันดี พวกท่านให้ตนมาที่นี่มารับฟังปัญหา เพื่อที่จะแก้ปัญหาทำให้เกาะสมุยสามารถมีศักยภาพซึ่งตนได้ให้ KPI ไปกับรมว.การท่องเที่ยวและกีฬาว่าเกาะสมุยต้องขยับไปจุดTop 10 เป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลกจากลำดับ Top 20 ตรงนี้ต้องทำหลายๆอย่าง


ซึ่งปัญหาแรกเรื่องขยะ เตาเผาขยะสร้างมากว่า 20 ปีแล้วและเมื่อ 10 กว่าปีที่ผ่านมามีชำรุดไม่สามารถเผาขยะได้ทำให้เกิดการสะสม ในเกาะสมุยถึง 3 แสนตัน เราได้มีการบริหารจัดการ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 150,000 ตันเหลืออีก 150,000 ตัน ท่านบอกขอให้ใช้งบกลาง 237 ล้านบาท เพื่อขนไปทำลาย ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง


แต่เอาเป็นว่าตนรับทราบปัญหา และรับปากว่าจะจัดการให้ 150,000 ตัน จะต้องถูกบริหารจัดการไปจะด้วยวิธีการฝัง หรือขนก็ตาม ตรงนี้ ถือเป็นเรื่องที่เราต้องแก้ปัญหาระยะยาว จึงต้องมีการทำโรงเผาขยะ และได้พยายามพูดคุยเรื่องเทคโนโลยีปัจจุบันใ ห้สามารถเผาขยะได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 300 ตันต่อวัน ซึ่งจะต้องมีการจัดการระยะยาวตรงนี้


ส่วนเรื่องน้ำประปา ต้องบอกข่าวดี เพราะน้ำที่จะทำเข้ามาอยู่ในงบปี 2568 แล้ว ฉะนั้น เดือน ต.ค. ปีนี้ สามารถที่จะเดินท่อที่ 2 เพราะส่งน้ำประปามาได้ เริ่มดำเนินการเดือน ต.ค. ปีนี้


แต่ในระยะสั้น เข้าใจว่ามีความจำเป็น ฉะนั้น ต้องมีการนำน้ำทะเลมาทำน้ำประปา ซึ่งใช้งบไม่กี่สิบล้านบาท ตรงนี้ก็จัดการกันไป ใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน เสร็จ หรือเป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้นควบคู่กับการแก้ไขปัญหาระยะยาว


สำหรับการสร้างถนน ได้สั่งการกรมทางหลวงไปแล้ว ต้องทำด้วยความละเอียดออก และระมัดระวัง สิ่งที่จะกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่ป่าไม้  ซึ่งจะต้องมีการประสานกับหลายหน่วยงาน


แต่ขอให้มั่นใจ เราตระหนักดี จะยกระดับสมุยเป็นเกาะระดับโลกก็ต้องดูแลเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐานให้ดี อย่างไรก็ตามการ การขนส่งสินค้าเข้าเมืองมีปัญหา คนที่จะมาเกาะก็ยากลำบาก เพราะมีเรือมีน้อย ดังนั้น จะต้องมีการขยายเวลาเรือในการรับขนส่งให้มีมากขึ้น เพื่อให้การขนย้ายสินค้าจากเกาะเข้าเมืองได้ดีขึ้น


ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาระยะยาวในการสร้างสะพาน ต้องศึกษากันต่อไป ต้องดูให้รอบคอบคำนึงถึงผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ขอให้มั่นใจ เราทุกคนทราบดีทุเรียนเป็นพืชเศรษฐกิจหลัก อะไรก็ตามที่มาขวาง เราก็พยายามจัดการ และทำให้พี่น้องมีรายได้สูงขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย

-------------

เวลา 14.30 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่เกาะสมุย ถึงกรณีที่พูดต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยต้องไม่แพ้ตลอดไป การเลือกตั้งจะต้องเป็นผู้ชนะ ว่า


จริง ๆ แล้ว ที่ตนพูดไปในวันนั้นพูดตกไปนิดนึง เพราะไม่ได้มีโพย เป็นการพูดจากใจ ซึ่งต้องขอเรียนตรง ๆ ว่า ชีวิตของตนอายุ 62 ปีแล้ว มีครบทุกอย่าง ประสบความสำเร็จในชีวิตการงาน และชีวิตครอบครัวตนก็ดีแล้ว ลูกทั้ง 3 คนเรียนจบ มีงานทำที่มั่นคงแล้ว ฉะนั้น ตนเหลืออย่างเดียวในชีวิตที่จะต้องทำให้ได้


ซึ่งตนพูดข้ามไปนิดนึง ตนต้องนำชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน ดังนั้น 3 ปีครึ่ง ที่เหลือ ตนมุมานะทำอยู่อย่างเดียวคือ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น และหวังว่าผลที่จะตามมาคือ ทำให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง
---------------

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/i8fVzEXRz-4

คุณอาจสนใจ

Related News