สังคม

ระทึกกลางทะเล! ไฟไหม้เรือนอนเกาะเต่า นทท.โดดน้ำหนีตาย คุณพ่อจับลูกน้อยลงลังโฟมลอยคอ

โดย nattachat_c

5 เม.ย. 2567

306 views

วานนี้ (4 เม.ย. 67) เวลา 07.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือนอนโดยสาร และบรรทุกสินค้า ที่เดินทางออกจากท่าเรืออำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปยังท่าเทียบเรือเกาะเต่า ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี


โดยระหว่างเกิดเหตุ เรืออยู่ห่างฝั่งเกาะเต่าประมาณ 3 ไมล์ทะเล ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไฟได้ลุกไหม้ห้องเครื่อง และมีควันดำพวยพุ่งออกมาจากใต้เรือ ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว บนเรือยังมีสินค้าต่าง ๆ รวมถึงรถยนต์ และจักรยานยนต์ด้วย


ระหว่างนั้น นักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติ ซึ่งมีเด็กด้วย รีบสวมเสื้อชูชีพ และพยายามวิ่งหาที่ปลอดภัย ขึ้นไปอยู่ด้านบนของเรือ เพื่อรอการช่วยเหลือ บางส่วนได้กระโดดลงไปในทะเลเพื่อหนีตาย ก่อนสามารถช่วยผู้โดยสารทุกคนได้อย่างปลอดภัย  


ด้านกัปตันเรือได้ประสานขอความช่วยเหลือ โดย บริษัท เรือเร็วลมพระยา จำกัด ได้ส่งเรือโดยสารที่บรรทุกผู้โดยสารได้ 400 คน พร้อมเรือเร็ว และกลุ่มผู้ประกอบการเรือสอนดำน้ำ ได้เร่งนำเรือเข้าช่วยผู้โดยสาร

-------------

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก แพร ภัทรินญา ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะเกิดเพลิงไหม้บนเรือ โดยระบุว่า “เช้านี้ ที่กลางทะเล เรือเกาะเต่าไฟไหม้ พี่ที่ทำงานฉันอยู่บนเรือลำนี้ ต้องกระโดดน้ำหนีตายกัน ขอให้ทุกคนปลอดภัยค่ะ”


โดยในคลิป ผู้โดยสารต่างสวมใส่เสื้อชูชีพ พากันหนีขึ้นไปชั้นบนของเรื่อง บางคนร้องไห้ด้วยความกลัว ขณะที่ใต้ท้องเรือไฟเริ่มไหม้ลุกลาม ควันเยอะขึ้น ๆ จนเป็นสีดำ บางคนสำลักควันไฟ


นายไมตรี พรมจำปา อายุ 42 ปี ผู้ประสบเหตุ เล่าว่า ตนอยู่ชั้นบนของเรือ ได้ยินเสียงดังจากชั้นล่าง จากนั้น ผ่านไป 3 นาที พื้นเริ่มร้อน มีควันลอยออกมา จึงสะกิดบอกพี่ที่อยู่ข้าง ๆ ไปดู พอโผล่หัวออกนอกเรือไปดู ควันก็พวยพุ่งออกมาจากใต้เรือ ทุกคนแตกตื่น ร้องไห้ฟูมฟาย ชาวต่างชาติกระโดดลงเรือ ตนเองฉีกลังโฟมอาหารแช่แข็งกระโดดลงน้ำ โดยไม่มีเสื้อชูชีพ เพราะสละให้ผู้หญิงใส่


ตนคิดว่านาทีนั้น ต้องกระโดดลงทะเล เพราะหากมีเรือลำอื่นมาช่วย จะไม่สามารถช่วยได้ เพราะเรือกำลังไฟไหม้ ทุกคนต้องกระโดดน้ำเอาตัวรอด บางคนมีลูกเล็กต้องจับใส่กล่องโฟมลอยทะเล ตนไม่รู้ทำไมปล่อยให้ไฟลุกลาม บนเรือมีอุปกรณ์ดับเพลิงฉุกเฉินหรือไม่ โชคดีที่รอดชีวิต หากมีผู้เสียชีวิตจะทำอย่างไร


ซึ่งหลังจากช่วยผู้โดยสารที่บางส่วนลอยคอกลางทะเลปลอดภัยแล้ว เพลิงก็ลุกลามไหม้เรือ จนเปลวเพลิงโหมไหม้อย่างหนักบริเวณห้องเครื่อง และจุดที่ผู้โดยสารอยู่  ส่วนเรือลำที่เกิดเหตุก็ยังลอยลำอยู่กลางทะเล  ผู้ประกอบการเกาะเต่าต่างนำเรือออกไปช่วยดับไฟ สำรวจพื้นโดยรอบ เผื่อมีผู้โดยสารตกค้างกลางทะเล

-----------

จากการตรวจสอบเรือลำดังกล่าว ชื่อว่า เกาะเจริญ 2 เป็นเรือนอนผู้โดยสาร และบรรทุกสินค้า เดินทางออกมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2567 เวลา 21.30 น. ปลายทางตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี


ขณะเกิดเหตุ มีผู้โดยสารที่เป็นคนไทย ชาวต่างชาติ และแรงงานชาวเมียนมาโดยสารมากับเรือ รวม 97 คน ลูกเรือ 11 คน รวม 108 คน และรวมทั้งสินค้าต่าง ๆ ที่อยู่ในเรือ โดยเพลิงได้ลุกไหม้กลางทะเล ขณะเรือแล่นเข้ามาใกล้ถึงท่าเทียบเกาะเต่า เพลิงลุกไหม้จากห้องเครื่องของเรือ ทำให้ผู้โดยสารแตกตื่นหนีตายกันระทึก


หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ประกอบการเรือที่เกาะเต่า เร่งนำเรือจำนวนหลายลำออกไปช่วยเหลือรับผู้โดยสาร และลูกเรือ กลับเข้าฝั่งมายังฝั่งได้แล้วทั้งหมด โดยมีผู้โดยสารจำนวน 10 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ที่เกิดจากการสำลักควันไฟ และมีแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 1 ราย ที่ได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนแตก ซึ่งเกิดจากการกระโดดลงไปในเรือที่มาช่วยเหลือ แล้วเกิดการกระแทก แทพย์ต้องให้รักษาตัวที่โรงพยาบาลเกาะเต่า


ขณะที่ ทางเทศบาลตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะเต่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบาลเกาะเต่า และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาเกาะเต่า พร้อมผู้ประกอบการท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่ ศรชล. จังหวัดสุราษฎร์ธานี และทางทัพเรือภาค 2 ได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล


นายวัชรินทร์ ฟ้าสิริพร นายกเทศมนตรีตำบลเกาะเต่า เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์เพลิงไหม้เรือนอนโดยสาร ซึ่งเป็นเรือที่ใช้บรรทุกสินค้าต่าง ๆ และผู้โดยสาร มายังเกาะเต่า ในส่วนของภาพรวมของการเดินทางของนักท่องเที่ยว และผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าออกเกาะเต่า ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรต่อผู้โดยสารที่จะเดินทาง เนื่องจากยังมีเรือโดยสารอีกหลายบริษัท ที่ค่อยให้บริการรับส่งผู้โดยสาร ทั้งเส้นทางจากจังหวัดชุมพรมายังเกาะเต่า และ จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากเกาะสมุย จากเกาะพะงัน มายังเกาะเต่า ที่ให้บริการอยู่ แต่ในส่วนของสินค้าต่าง ๆ ที่จะถูกส่งมากับเรือบรรทุกสินค้าที่จะส่งมาเกาะเต่า ก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง


เรือที่เกิดเพลิงไหม้ เป็นเรือที่มีความสำคัญอีกลำหนึ่ง ที่บรรทุกสินค้าจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีมายังเกาะเต่า ยืนยันว่า ในส่วนของสินค้าประเภทอาหาร และสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันอื่น ๆ ไม่มีผลกระทบ เพราะยังมีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค แต่อาจจะกระทบในส่วนของสินค้าประเภท เช่น วัสดุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ในเกาะเต่า อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง


อย่างไรก็ตาม ทางผู้ประกอบการเรือได้เร่งปรับปรุงซ่อมแซมเรือบรรทุกสินค้าสำรองอีกลำ ที่กำลังอยู่บนอู่ เพื่อเร่งซ่อมให้เสร็จโดยเร็ว แล้วให้กลับมาให้บริการเพื่อลดปัญหาผลกระทบการขนส่งสินค้ามายังเกาะเต่า


ขณะที่ กองทัพเรือจัดอากาศยานจากเรือบรรเทาสาธารณภัยบนเรือหลวงอ่างทอง ขึ้นบินสำรวจ รวมถึงจัดเรือปฏิบัติการความเร็วสูง ร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสามารถช่วยเหลือผู้โดยสารจากเรือเข้าฝั่งได้ทั้งหมด


พันตำรวจเอก โชคชัย สุทธิเมฆ ผู้กำกับการ สภ.เกาะเต่า เปิดเผยว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 เข้าตรวจสอบเข้าเก็บหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้


รวมทั้งให้ทางพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมถึงลูกเรือ ก่อนที่จะมีการสรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้


ขณะเดียวกัน ได้เปิดศูนย์รับเรื่องให้กับผู้ที่ทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายจากการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ให้เข้าแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือ ที่ตั้งอยู่ที่เทศบาลตำบลเกาะเต่า เพื่อรวบรวมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิ้นของผู้โดยสาร


ทั้งนี้ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ห่วงใย และกำชับเรื่องการดูแลและความปลอดภัยนักท่องเที่ยวจากอุบัติเหตุดังกล่าว พร้อมทั้งสั่งการให้เข้มงวดเรื่องการให้ความปลอดภัย ดูแลนักท่องเที่ยวตลอดการเดินทางในประเทศไทย ทั้งที่พัก การเดินทาง เป็นต้น ให้มีมาตรฐาน เกิดความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะเป็น Tourism Hub ในภูมิภาค ดังนั้นความพร้อมในการรองรับ และการดูแลนักท่องเที่ยว จึงเป็นเรื่องสำคัญในอันดับต้น ๆ

------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/LdrZBnbz84k

คุณอาจสนใจ

Related News