ออกหมายจับ-ริบเงินประกัน 'ลุงวิศวะ' หนีไม่มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดียิงโจ๋ 17 ดับ

คดีลุงวิศวะยิงวัยรุ่นอายุ 17 ปีเสียชีวิต หลังมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถ เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ศาลจังหวัดชลบุรี มีการนัดอ่านคำพิพากษาศาลฏีกา แต่ปรากฏว่าลุงวิศวะไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงให้ออกหมายจับ และริบเงินประกัน

โดยคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 บริเวณตลาดอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี นายสุเทพ โภชนทรัพย์ อายุ 56 ปี วิศวกรบริษัทแห่งหนึ่ง ได้มีเหตุทะเลาะวิวาท กับกลุ่มวัยรุ่น ที่มาจอดรถขวางทางออก บริเวณหน้าร้านขายของฝากตลาดอ่างศิลา ทำให้มีปากเสียงกัน มีการขับรถตาม บีบแตร เปิดไฟไล่กัน เบรกเพื่อให้อีกฝ่ายชนท้าย มีการยั่วยุกัน จนกระทั่งฝ่ายลุงวิศวะ ใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มวัยรุ่นที่ตรงเข้าไปที่รถ ทำให้นายนวพล ผึ่งผาย หรือปอนด์ อายุ 17 ปี เสียชีวิต

ศาลชั้นต้นพิพากษาพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งหมดแล้วเห็นว่า นายสุเทพจงใจยั่วยุให้เกิดการทะเลาะวิวาท หากรู้จักยับยั้งชั่งใจ ก็จะไม่เกิดเรื่องขึ้น ให้นายสุเทพ มีความผิดฐานพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พิพากษาจำคุก 15 ปี แต่ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือ 10 ปี ปรับ 2,000 บาท และชดใช้ค่าสินไหมทดแทน 340,000 บาท

ต่อมาศาลอุทธรณ์ ก็พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ครั้งนั้นนายสุเทพยอมรับคำตัดสินของศาล แต่ขอยื่นประกันเพื่อต่อสู้คดีในชั้นศาลฏีกา ด้วยเงินสด 874,000 บาท

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) ศาลจังหวัดชลบุรี ได้นัดอ่านคำพิพากษา ศาลฏีกานัด ในเวลา 9.40 น. ปรากฏว่ามีเพียงทนายฝ่ายโจทก์ เดินทางมาฝ่ายเดียว ทุกฝ่ายได้รอทั้งจำเลย และทนายฝ่ายจำเลย จนถึงเวลา 10.40 น. แต่ไม่มีวี่แววว่าจำเลย หรือทนายจะเดินทางมา หรือติดต่อมาเลย

ผู้พิพากษาจึงต้องทำตามกฏหมาย สั่งริบเงินประกันจำนวน 874,000 บาท และให้ออกหมายจับ นายสุเทพ หรือลุงวิศวะ โดยภายใน 1 เดือน หากจับกุมตัวได้ ให้คุมตัวมาฟังคำพิพากษา แต่หากยังจับกุมตัวไม่ได้ จะอ่านคำพิพากษาลับหลัง ในวันที่ 17 มิถุนายน เวลา 09.00 น.

ซึ่งกรณีออกหมายจับจะออกหมายจับโดยศาลจังหวัดชลบุรีและส่งหมายให้กับสถานีตำรวจต่างๆ ซึ่งหากพบเจอผู้กระทำผิดตามหมายศาลก็สามารถจับกุมตัวได้เลย

ทางด้านนายวันชัย แสงสุวรรณ์ ทนายฝ่ายผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายโจทก์ได้มาฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โดยกล่าวว่า คดีดังกล่าวศาลชั้นต้นได้มีการพิพากษาให้จำคุก 10 ปี และจ่ายค่าเสียหาย 3.4 แสนบาท และศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืน จำเลยจึงได้ฎีกา และวันนี้ตนได้มาฟังคำ พิพากษาศาลฎีกา เมื่อจำเลยไม่มาศาล ทั้งที่คดีอาญาจำเลยต้องมาศาลทุกครั้ง ศาลจึงไม่สามารถอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาได้ ศาลจึงได้ออกหมายจับนายสุเทพให้นำตัวมาฟังคำพิพากษาภายใน 1 เดือน หากไม่สามารถจับกุมมาตัวได้ ศาลจะอ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลยในวันที่ 17 มิถุนายน 2564

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/SzBoUc5cIHU