สังคม

บุกคลินิก 'เผายาหน้าท้อง' พบเปิดปกติ หลังทำไฟคลอกเน็ตไอดอล หมอแผนไทยชี้ รักษาผิดตั้งแต่แรก

โดย paweena_c

5 ธ.ค. 2566

209 views

กัน จอมพลัง บุกคลินิก เผายาสมุนไพรหน้าท้อง สุดท้ายไฟลุก ทำให้มีแผลไฟไหม้ทั่วตัว ขณะที่หมอวิ่งหนี ไร้ความรับผิดชอบ ด้านสบส.ตั้งข้อหาการกระทำผิด 2 ข้อหา พร้อมมีคำสั่งให้ปรับปรุงสถานพยาบาลให้ถูกต้องภายใน 15 วัน ถ้าไม่ทำตามจะออกคำสั่งปิดชั่วคราว

จากกรณี กัน จอมพลัง พาผู้เสียหาย นางสาวเกม (นามสมมติ) เน็ตไอดอลสาว เข้ายื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หลังใช้บริการคลินิกชื่อดังย่านบางเขน ซึ่งหมอใช้วิธีการรักษาด้วยการ เผายาหน้าท้อง ซึ่งต้องใช้แอลกอฮอล์ 95% เทราดบนตัว และหมอได้จุดไฟ แต่เกิดความผิดพลาดไฟลุกทั่วตัว ปรากฎว่าหลังไฟลุก หมอกลับวิ่งหนีไม่ช่วย บ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ

โดยมี นายแพทย์ รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์กระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่องแทน

ต่อมาช่วงบ่าย กัน จอมพลัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน เดินทางเข้าตรวจสอบคลินิกดังกล่าว พบว่ายังเปิดให้บริการตามปกติ หน้าคลินิกติดป้ายข้อความรักษาอาการต่างๆ อาทิ เผายา, ฝังเข็ม, ครอบแก้ว, นวดปรับโครงสร้างร่างกาย, ผิวสวยหน้าใส, ไมเกรน, นอนไม่หลับ, ออฟฟิศซินโดรม ทั้งนี้การเข้าตรวจสอบด้านใน เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ โดยใช้เวลาตรวจสอบประมาณ ชม.ครึ่ง

จากนั้น นายชาตรี พินใย ผอ.กองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ออกมาเปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการรักษาแบบแพทย์แผนไทยประยุกต์ พบว่ามีแพทย์แผนจีน 1 คน ซึ่งถือว่ามีความผิด เพราะตามหลักการขออนุญาตเปิดเป็นสหคลินิก ต้องมีแพทย์แผนไทยประยุกต์อยู่ด้วย

นอกจากนี้ ยังไม่พบผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ซึ่งผิดตาม มาวตรา 35 พ.ร.บ.สถานพยาบาล เพราะตามกฎหมายต้องมีผู้ดำเนินการสถานพยาบาลอยู่ตลอดเวลาทำการ รวมถึงไม่พบว่ามีการขอโฆษณาในสื่อโซเชียลด้วย ซึ่งทางกรม สบส. ได้ออกคำสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตาม กม. ให้แก้ภายใน 15 วัน

ส่วนกรณีการจุดไฟเผายาเพื่อทำการรักษา ตามมาตรฐานการแพทย์แผนไทยในเบื้องต้นน่าจะสามารถดำเนินการได้ แต่สถานที่น่าจะมีการเซฟตี้มากกว่านี้ ทั้งการป้องกันการเยียวยาต่างๆ ซึ่งในวันเกิดเหตุไม่มีการป้องกันใดๆ มันเป็นเหตุความประมาท อย่างไรก็ตามหากไม่มีการแก้ไขตามที่ออกคำสั่งก็จะพิจารณาว่าจะสั่งปิดหรือไม่

สำหรับการรักษาผู้เสียหายในวันเกิดเหตุ มีแพทย์แผนจีนเป็นคนรักษาคนแรก คนรักษาคนต่อมาเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งไม่ได้ทำประวัติเลย ถือเป็นการผิดจรรยาบรรณอย่างแน่นอน ส่วนแพทย์ที่ทำการรักษาผู้เสียหายพบว่าเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ ตอนนี้ได้ลาออกจากคลินิกไปแล้ว ยืนยันมีการดำเนินคดีแน่นอนทั้งทางแพ่งและอาญา

หลังจากนั้น กัน จอมพลัง ได้พา นางสาวเกม ผู้เสียหายเดินทางมาที่ โรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่งดับเบิ้ลยู โดย แพทย์หญิง กันยาภา ฤกษ์งาม อาจารย์ด้านศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง เปิดเผยว่า จากการดูร่องรอยบาดแผลของผู้บาดเจ็บ ถือว่าแผลไฟไหม้ระดับ 2-3 โดยมีแผลบริเวณหน้าท้อง กว้าง 1 ฝ่ามือ ส่วนด้านหลังประมาณ 2 ฝ่ามือ ผิวโดยรอบเปลี่ยนสี และไม่เรียบเนียน มีอาการคัน เจ็บบริเวณแผล และเป็นแผลเป็นนูน ซึ่งการดูแลรักษาของผู้เสียหายในเบื้องต้นถือว่าดีแล้ว

ส่วนขั้นตอนของการรักษาจำเป็นต้องฉีดยาสเตียรอยด์ ต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษา ส่วนในเรื่องของสีผิวจะต้องดูแลโดยใช้ครีมบำรุง ใช้ระยะเวลาในการรักษา 1 ปีครึ่ง - 2 ปี

ส่วนทางด้านตกแต่งศัลยกรรม การผ่าตัดเพื่อแก้ไขผิว ซึ่งการรักษาโดยการศัลยกรรมจะไม่คุ้มกัน เนื่องจากจำเป็นต้องตัดชิ้นเนื้อส่วนอื่นของร่างกายมารักษาบาดแผล และบาดแผลยังกลับมาไม่เหมือนเดิม

ด้าน นางสาวเกม ผู้เสียหาย บอกว่า หลังได้มาปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมแล้ว ก็ได้รับรู้ว่าขั้นตอนการรักษาตัวเองจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาตนเองให้เวลาทางคลินิก มาโดยตลอดว่าจะออกมารับผิดชอบอย่างไรบ้าง แต่สุดท้ายระยะเวลาผ่านมาถึง 1 ปี ก็ยังไม่ได้รับการรับผิดชอบ ซึ่งทางคลินิกให้การช่วยเหลือค่าเสียหายแค่บางส่วน (จำนวน 6แสนกว่าบาทซึ่งค่าใช้จ่ายที่ตนเองต้องออกเองอีก 6-7 แสน) จึงตัดสินใจออกมาร้องกับ กัน จอมพลัง

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนเองใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น เวลาทายารักษาแผล ก็ต้องอาศัยครอบครัว อาศัยแฟน ซึ่งเวลาทายาต้องใช้ระยะเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากต้องรอยาแห้ง และทายาตัวถัดไป และตนเองไม่สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ห้ามใช้แชมพู หรือ สบู่ อาบได้เฉพาะน้ำเปล่าเท่านั้น ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างมาก และระหว่างที่รักษาตัวอยู่ รพ. คุณหมอไม่เคยเดินทางมาเยี่ยมเลย หลังจากนี้จะดำเนินการเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม รวมถึงเรียกค่าเสียหายกับทางคลินิกและคุณหมอที่ทำให้ชีวิตของตนเองเปลี่ยนไปอย่างถึงที่สุด

จากการพูดคุยกับ อาจารย์ คมสัน ทินกร ณ อยุธยา อาจารย์แพทย์แผนไทย เปิดเผยว่า

หัตถการเผาเครื่องยาร้อนใช้กับอาการ หนาวเนื้อเข้ากระดูก, ลมเหน็บชาตะคริว, ลดอาการขัดแข้งขัดขาปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว, ช่วยจุดไฟธาตุในการย่อยอาหาร, ช่วยลดอาการท้องอืดเฟ้อเรอเปรี้ยว, ช่วยบรรเทาอาการลมเสียดเข้าสะโพก, ปวดหลัง, ปวดเจ็บที่หัวเข่า ฯลฯ กลไกการบำบัดนั้นใช้ความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม ร่วมกับเครื่องยาที่มีรสร้อนเข้าไปบำบัดตรงบริเวณที่เกิดอาการตรง ๆ

การหัตถการนี้กระทำโดยผู้ผ่านการฝึกฝนผ่านการเรียนรู้จากครูบาอาจารย์มาแล้วเท่านั้น และมักกระทำโดยหมอมิใช่ผู้อื่นใดจะกระทำได้เป็นทั่วไป ถ้าผู้อื่นกระทำแทนต้องอยู่ในความดูแลของหมอตลอดการปฎิบัติหัตถการนั้น เหตุเพราะต้องใช้ไฟในการหัตถการจำต้องมีความระวังไว้เป็นพื้นฐานซึ่งถ้าปฎิบัติอย่างระมัดระวังไม่ประมาทแล้ว หัตถการนี้มีคุณเพื่อการบำบัดอย่างยิ่ง

ก่อนที่จะใช้หัตถการนี้หมอจะทำการตรวจวินิจฉัยเสียก่อน หากมีความร้อนภายในมากจะไม่กระทำ และหากมีอาการปวดหัว, ตัวร้อน, มึนเวียนศรีษะ, หน้ามืดตาลาย หมอจะใช้หัตถการฝั่งด้านเย็นแทนฝั่งด้านร้อน เช่น การเผายา เป็นต้น เพราะจะยิ่งมีความร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้เกิดกองลมซ้ำเข้าไปไม่ควร แต่หากหลังจากวินิจฉัยแล้วว่าทำหัตถการนี้เหมาะควรหมอจะนวดบริเวณที่มีอาการเสียก่อนเสมือนการกระตุ้น

จากนั้นจะนำผ้าชุบน้ำบิดแล้ววงล้อมบริเวณที่จะหัตถการนั้น นำเครื่องยาอันประกอบด้วยเครื่องยารสร้อนอาทิ เหง้าไพล, เหง้ากระทือ, เหง้าขิง, เหง้าข่า, เหง้าขมิ้น, เหง้าตะไคร้ ลงสระในวงที่ทำไว้เบื้องต้น จากนั้นโรยผงเกลือแกงเพื่อนำยาและความร้อนผ่านผิวหนังลงไปภายใน นำผ้าชุบน้ำอีกผืนหนึ่งคลุมปิดวงเครื่องยาที่สระไว้จนมิดชิด แล้วนำแอลกอฮอล์ 95% ราดลงแต่พอควรและจุดไฟ คนไข้จะรู้สึกเพียงแค่อุ่น ๆ เท่านั้น เพราะเปลวไฟอยู่เพียงผืนผ้าที่เปียกน้ำอยู่ และยังมีชั้นเครื่องยาขวางความร้อนจากเปลวไฟนั้นอยู่อีกเป็นชั้นที่สอง ในขณะเดียวกันหมอจะถือผ้าชุบน้ำไว้อีกผืนเพื่อป้องกันเปลวไฟนั้น หากคนไข้แจ้งว่าร้อนพอควรแล้ว หมอจะคลุมไฟทันทีเป็นจบขั้นตอนหัตถหาร

อาจารย์ คมสัน กล่าวว่า คลินิกที่เป็นข่าวขั้นตอนการทำหรือวิธีการรักษาผิดตั้งแต่แรก ถ้าไม่ใช่สถานประกอบการแพทย์แผนไทยก็มีความผิด การเผายาต้องมีทักษะความชำนาญ ในคลิปแอลกอฮอล์ไหลลงมาที่หลังแล้วหมอยังจุดไฟอีกจะไม่ให้ไฟไหม้ได้ยังไง ขอถามหน่อยเรียนมาจากที่ไหน ไม่ใช่ใครจะทำก็ได้ ต้องทำโดยผู้มีใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมเท่านั้น คนทำต้องระมัดระวังสูง มีทักษะมีความรู้ ไม่ประมาทมีสติขณะทำหัตถหการ"

ด้าน นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. เปิดเผยว่า สบส.จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่าคลินิกดังกล่าว มีการขออนุญาตประกอบกิจการในลักษณะสหคลินิก อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ให้บริการการแพทย์แผนไทย และแพทย์แผนจีน อาทิ นวดประคบสมุนไพร ฝังเข็ม ครอบแก้ว กัวซา ฯลฯ โดยการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่ฯ ไม่พบแพทย์ผู้ดำเนินการสถานพยาบาล แต่พบแพทย์ผู้ให้บริการ และเจ้าหน้าที่ประจำคลินิก

จึงแจ้งข้อหาการกระทำผิดในเบื้องต้นตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 ต่อคลินิก ได้แก่ 1.ประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยมิได้จัดให้มีผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. โฆษณาโดยมิได้ขออนุมัติ ข้อความ เสียง หรือภาพที่ใช้ในการโฆษณาหรือประกาศจากผู้อนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และให้ปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทนับแต่วันที่ฝ่าฝืนคำสั่งที่ให้ระงับการโฆษณาหรือประกาศ และมีคำสั่งทางปกครองให้ผู้ประกอบกิจการ ให้ปรับปรุงมาตรฐานสถานพยาบาลให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด ภายในระยะเวลา 15 วัน มิฉะนั้น จะมีคำสั่งให้ปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว /นอกจากนี้เตรียม เรียกผู้ประกอบกิจการ และผู้ดำเนินการสถานพยาบาล มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับกรม สบส. ต่อไป


คุณอาจสนใจ

Related News