สังคม
ไม่ใช่ใครจะทำก็ได้! แพทย์แผนไทย สาธิต 'เผายาหน้าท้อง' หลังสาวถูกไฟคลอกเจ็บหนัก หมอไม่รับผิดชอบ
โดย nattachat_c
5 ธ.ค. 2566
639 views
เน็ตไอดอลสาวแฟนนักแสดงช่องดังร้อง สธ.ใช้บริการคลินิกดัง หมอใช้วิธีการรักษาเผายาหน้าท้องทำให้เลือดลมไหลเวียนดี-ลดไขมันหน้าท้อง แลกกับการให้โปรโมทคลินิก โดยใช้แอลกอฮอล์ 95% เทราดบนตัวจุดไฟ จนไฟคลอกลุมลามทั่วตัว หลังไฟลุกหมอวิ่งหนีไม่ช่วยคนไข้ บ่ายเบี่ยงรับผิดชอบ แฟนหนุ่มเล่านาทีช่วยเหลือ
ด้านอาจารย์คมสันแพทย์แผนไทย ผู้ใช้ตำราหมอหลวง เผยขั้นตอน-สาธิตการหัตถการเผายาที่ถูกต้อง ระบุ คลินิกที่เป็นข่าวทำผิดวิธีตั้งแต่แรก มีความผิดเพราะไม่ใช่สถานประกอบการแพทย์แผนไทย ต้องมีทักษะความชำนาญ มีสติไม่ประมาท ทำโดยผู้มีใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมเท่านั้น ไม่ใช่ใครจะทำก็ได้
วานนี้ (4 ธ.ค. 66) ที่กระทรวงสาธารณสุข ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ 'กัน จอมพลัง' พร้อม นางสาวเกม (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ผู้เสียหาย มาร้องขอความเป็นธรรมกับ นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่ง ย่านบางเขน
ผู้เสียหายซึ่งเป็นเน็ตไอดอลสาว ได้ใช้บริการคลินิก โดยหมอใช้วิธีการรักษาเผายาหน้าท้อง เพื่อทำให้เลือดลมไหลเวียนดี ลดไขมันหน้าท้อง แลกกับการให้โปรโมทคลินิก
หมอใช้แอลกอฮอล์ 95% เทราดบนตัวจุดไฟ จนไฟลุมลามทั่วตัว หลังไฟลุก หมอวิ่งหนีไม่ช่วยคนไข้ บ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ ทำให้ผู้เสียหายต้องหาเงินมารักษาตนเอง ตอนนี้ ก็ยังรักษาตัวไม่หายดี แถมยังไม่มีการเยียวยาใด ๆ กับทางคู่กรณี
-------------
นางสาวเกม (นามสมมุติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เนื่องจากตนเองเป็นเน็ตไอดอล มีคลินิกรักษาความงามได้ติดต่อมาทางแฟนของตนเอง เนื่องจากอยากให้ตนเองไปรักษาทางคลินิก แลกกับการให้ตนเองโปรโมทให้โดยการรีวิวการรักษา
ซึ่งขณะทำการรักษา มีภาพกล้องวงจรปิดภายในคลินิก บันทึกภาพไว้ รวมถึงเหตุการณ์ขณะเกิดไฟลุกไหม้ท่วมตัวคนไข้
ขั้นตอนการรักษาคุณหมอ ได้เตรียมอุปกรณ์ ประกอบด้วย...
- กระบอกฉีดยาขนาด 50 มิลลิลิตร
- สมุนไพร
- แอลกอฮอล์
- ไฟที่ใช้จุด
คุณหมอเริ่มกระบวนการรักษาโดย....
- ให้นอนราบเปิดเสื้อขึ้นถึงระดับประมาณลิ้นปี่
- นำผ้าสองผืนมารองปิดหน้าท้อง และผ้าอีกหนึ่งผืนขดเป็นเกลียว จัดวางลักษณะเป็นวงกลม วางบนหน้าท้องผู้เสียหาย
- นำสมุนไพร หรือเครื่องยา โรยไว้ภายในบริเวณผ้าบนหน้าท้องผู้เสียหาย
- ใช้กระบอกฉีดยาขนาด 50 มิลลิลิตร ซึ่งบรรจุแอลกอฮอล์ 95% ฉีดลงบนสมุนไพรซึ่งใช้รักษาโรค โดยวิธี 'เผายาหน้าท้อง'
ผู้เสียหายแจ้งกับคุณหมอว่า มีแอลกอฮอล์ไหลย้อนลงไปที่ช่วงท้อง เอว แผ่นหลัง รวมถึงกางเกง แต่คุณหมอกลับเพิกเฉย ไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อความปลอดภัย
จากนั้น คุณหมอใช้ปืนจุดแก๊ส จุดไฟเผาเครื่องยา ด้านข้างมีแฟนหนุ่มของผู้เสียหายนั่งอยู่ด้วย
ในขณะนั้น มีแอลกอฮอล์ไหลย้อนลงแผ่นหลัง เอว และกางเกงของผู้เสียหายในปริมาณมาก เมื่อคุณหมอทำการจุดไฟเผาเครื่องยา เปลวไฟจึงได้ลุกท่วมตัวผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายบาดเจ็บทรมานจากไฟคลอก และกลิ้งตัวตกลงจากเตียง
ซึ่งคุณหมอมีอาการตื่นตระหนก และวิ่งหนีออกจากห้อง ขณะนั้น แฟนหนุ่มของผู้เสียหาย ได้ทำการช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยใช้ผ้าทำการดับไฟ
ส่วนผู้ช่วยของคุณหมอ ได้ใช้มือรับน้ำที่ก๊อกโปรยใส่ร่างกายของผู้เสียหาย ทำให้ผู้เสียหายมีอาการแสบร้อน จากน้ำที่ลวกร่างกาย
------------
นางสาวเกม ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2565 ตนเองได้เดินทางไปที่คลินิกตามนัด หลังจากที่เดินทางไปถึง คุณหมออธิบายขั้นตอนการรักษา ซักประวัติสุขภาพ และถามอาการ ก่อนทำการรักษาด้วยวิธี 'เผายาหน้าท้อง' (ศาสตร์หัตถการ 'เผายาเครื่องร้อน')
คุณหมอบอกว่า จำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์ 95% นำสมุนไพรวางที่หน้าท้อง และจุดไฟเผาที่หน้าท้อง
ซึ่งตนเองได้ทักท้วงไปว่า จะเกิดอันตรายหรือไม่ แต่ทางคุณหมอบอกว่า ไม่ต้องกังวล มีคนเข้ามาทำแล้วหลายคน
จากนั้น คุณหมอก็เริ่มทำการรักษา โดยการนำสมุนไพรวางไว้บริเวณหน้าท้อง ราดแอลกอฮอล์ จุดไฟเผา จากนั้น ไฟก็ลุกลามตามร่างกายของตนเอง
เหตุการณ์ตอนนั้น คุณหมอได้วิ่งหนีออกไปจากห้อง แฟนของตนพยายามเข้ามาช่วยดับไฟ โดยการนำหมอนมาช่วยดับไฟ หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น คุณหมอบอกให้เข้ามาใหม่ แล้วบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง
------------
นางสาวเกม เล่าว่า หลังจากนั้น ตนเองได้เข้ารับการรักษา ซึ่งคุณหมอบอกว่า บาดแผลบริเวณหน้าท้องถูกไฟไหม้ระดับสาม
ซึ่งแรก ๆ คุณหมอทางคลินิกมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้บางส่วน ส่วนตนต้องนอนโรงพยาบาล 2 อาทิตย์ แต่จำเป็นต้องกลับไปรักษาต่อเนื่อง 2 - 3 วัน/ครั้ง
ทั้งนี้ บาดแผลถูกเผาไหม้ทั้งตัว จำเป็นต้องรักษาโดยการใช้เลเซอร์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเยอะ หลังจากนั้น ทางคลินิกกับคุณหมอก็ปัดความรับผิดชอบ ไม่ได้รับการเยียวยา และใช้เงินส่วนตัวรักษาตนเองเป็นจำนวนมาก
ตนเองจำเป็นต้องทำงาน เนื่องจากต้องใช้หน้าตา และร่างกาย ในการทำงาน เนื่องจากเป็นเน็ตไอดอล บางครั้งทำให้ตนเองรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย เนื่องจากรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ไหว
ที่ตนเองออกมาพูดในวันนี้ เนื่องจากอาชีพคุณหมอ เป็นอาชีพที่มีเกียรติเป็นอย่างมาก แต่สิ่งที่ตนเองเจอคือ คุณหมอไม่ออกมารับผิดชอบใด ๆ เลย
รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ที่ตนเองไปแจ้งความรับเรื่องไว้แล้ว แต่คดีความผ่านมานานถึง 1 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
ที่ผ่านมา ตนเองให้เวลาทางคลินิก (ที่เกิดเหตุ) มาโดยตลอด ว่าจะออกมารับผิดชอบอย่างไรบ้าง แต่สุดท้าย ระยะเวลาผ่านมาถึง 1 ปี ก็ยังไม่ได้รับการรับผิดชอบ ซึ่งทางคลินิกให้ช่วยเหลือค่าเสียหายแค่บางส่วน (จำนวน 6 แสนกว่าบาท ซึ่งค่าใช้จ่ายที่ตนเองต้องออกเองอีก 6-7 แสน) จึงตัดสินใจออกมากร้อง ต่อ 'กัน จอมพลัง' เนื่องจาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนเองใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น
นางสาวเกม ยังระบุอีกว่า เวลาทายารักษาแผลก็ต้องอาศัยครอบครัว หรืออาศัยแฟน ซึ่งเวลาทายาต้องใช้ระยะเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากต้องรอยาแห้ง และทายาตัวถัดไป
นอกจากนี้ ตนเองไม่สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ห้ามใช้แชมพู หรือ สบู่ อาบได้เฉพาะน้ำเปล่าเท่านั้น ทำให้ชีวิตของตนเองเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ขณะตอนที่ตนเองรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล คุณหมอไม่เคยเดินทางมาเยี่ยมตนเองเลย
หลังจากนี้ ตนเองจะดำเนินการเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม รวมถึงจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางคลินิก และคุณหมอ ที่ทำให้ชีวิตของตนเองเปลี่ยนไป
------------
แฟนหนุ่มของผู้เสียหาย นักแสดงช่องดัง ซึ่งอยู่ในห้องเกิดเหตุด้วย เผยว่า ตนคือคนในคลิป ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยหมออธิบายว่า เป็นการใช้สมุนไพรรักษาหน้าท้อง จะช่วยให้ระบบไหลเวียนดี จะช่วยระบบของผู้หญิงดีกว่า ตนจึงไม่ได้ทำ
ช่วงที่แฟนกำลังรับการรักษา โดยการฉีดแอลกอฮอล์บริเวณหน้าท้อง ตัวเองก็เริ่มแอบคิดว่า ไฟกับน้ำมันเป็นของคู่กัน และสังเกตเห็นว่า เตียงเริ่มชุ่มไปด้วยแอลกอฮอล์ที่ราด เป็นกระทะที่มีน้ำมัน และคนอยู่ข้างบนพร้อมเตรียมจุดไฟ ดูอันตรายมาก
ซึ่งหมอบอกว่า ต้องทำทั้งหมด 5 ครั้ง ตัวเองได้ย้ำตั้งแต่ครั้งที่ 2 และ 3 แล้ว บอกว่า ตอนนี้ แอลกอฮอล์ไหลไปถึงด้านหลังแล้วนะ ถึงแขนแล้วนะ แต่หมอก็ไม่ได้บอกว่าอันตราย หรือหยุด และไม่ได้อธิบายอะไรกับตัวเอง ซึ่งก็ยังดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ
จนครั้งสุดท้าย จุดไฟ และเกิดเหตุตามคลิป ยอมรับว่า ตกใจเพราะห้องเล็ก ในใจตนคิดว่า อาจจะตายกันทั้งห้อง เพราะมีแกลลอนแอลกอฮอล์ วางอยู่ด้านหลัง
ส่วนขาตนช่วงล่างก็ไฟลุกแล้ว ส่วนของแฟนตัวเองไฟก็ลุกหนัก ตนก็ช่วยแฟนดับไฟ ใจคิดอย่างเดียวว่า ขอให้รอดได้มากที่สุด เพราะทางออกเล็กนิดเดียว พวกตนอยู่ข้างในกันหมด
ตนอาศัยประสบการณ์ของเพื่อน จากเหตุการณ์ผับไฟไหม้ ใช้การเกลือกกลิ้งตัวบนพื้น ไฟถึงดับได้
ซึ่งขณะเกิดเหตุ ผู้ช่วยหมอใช้น้ำใส่มือแล้วมาเท ไฟที่ลุกท่วมตัว ไฟก็ไม่ดับ ส่วนในที่เกิดเหตุ หมอที่ทำก็วิ่งหนีออกไป
แฟนถูกไฟไหม้เสียหายรุนแรงระดับสาม เรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะหมอกับคนไข้เป็นของคู่กัน ตนไปหาหมอเพราะความเชื่อมั่น เพราะหมอมีความรู้ เราไปรับยากับเภสัชกร เราไม่เคยถามว่ายาพารามีส่วนประกอบอะไรเท่าไหร่กี่กรัม แต่เราเชื่อมั่นในเภสัชว่าจ่ายยาให้เราได้ถูกต้องตามอาการ ตามระบบระเบียบ ก่อนจะได้มาเป็นหมอเช่นเดียวกัน
พอเกิดเหตุแบบนี้ ก็ไม่รู้จะมั่นใจอะไรได้ ขนาดเป็นหมอที่มีใบประกอบวิชาชีพ และคลินิกจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ฝากถึงคนที่จะไปเข้ารับการรักษาใด ๆ ก็ตาม ต้องศึกษาข้อมูลอย่างดี เพราะทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้ หรือหากรู้สึกสงสัยแต่แรก ควรตัดสินใจหยุดทันที จะได้ไม่เกิดเหตุบานปลายแบบตัวเอง
-------------
นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ 'กัน จอมพลัง' เปิดเผยว่าได้พาน้องผู้เสียหาย มาร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากน้องถูกคลินิกดังกล่าว รักษาโดยการราดแอลกอฮอล์ลงไปที่หน้าท้อง อ้างว่าหากรักษาแบบนี้ จะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี และสามารถลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้
หลังจากที่คุณหมอราดแอลกอฮอล์เสร็จ คุณหมอจุดไฟเผา ทำให้ไฟลามไปเผาร่างกายของผู้เสียหาย แต่คุณหมอกลับวิ่งหนี ไม่เข้ามาช่วยเหลือ ต้องให้แฟนของผู้เสียหายเข้าไปช่วยดับไฟด้วยตัวเอง ผ่านมาแล้ว 1 ปี ทางคลินิกไม่ได้ออกมารับผิดชอบใด ๆ
------------
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นายแพทย์ทรงคุณนวุฒิ) ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า
หลังจากที่ได้รับเรื่องราวร้องเรียนเข้ามา เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในคลินิกเอกชน ขอยืนยันกับผู้เสียหายว่า จะดูแลผู้เสียหาย และดูแลป้องปรามทางคลินิกอย่างเต็มที่ เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรม และไม่ให้ผู้เสียหายรายอื่น ๆ เกิดขึ้นอีก
จากนั้น สธ.ได้ส่งทีมงานเข้าไปตรวจสอบคลินิกดังกล่าว เพื่อเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการดังกล่าวว่า ได้รับใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ ตรวจสอบมาตราฐานความปลอดภัยต่าง ๆ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องของความผิด
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทางคลินิกได้เปิดเป็นคลินิกเสริมความงาม ไม่ได้เปิดในลักษณะคลินิกแพทย์แผนไทย ซึ่งไม่สามารถใช้วิธีการรักษาดังกล่าวได้ ผิดมาตราฐาน ซึ่งมีความผิดหลายข้อหา
-------------
ต่อมา กัน จอมพลัง พาน้องเกมผู้เสียหายเดินทางมาที่โรงพยาบาลเฉพาะทางศัลยกรรมตกแต่ง ดับเบิ้ลยู เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลทางด้านศัลยกรรมตกแต่งโดยตรง
พญ.กันยาภา ฤกษ์งาม อาจารย์ด้านศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง เปิดเผยว่า จากการดูร่องรอยบาดแผลของผู้บาดเจ็บ จะเห็นว่าเป็นแผลไฟไหม้ระดับ 2-3 ซึ่งการดูแลรักษาของผู้เสียหายในเบื้องต้นถือว่าดีแล้ว
ผู้เสียหายจะมีแผลเป็นบริเวณหน้าท้อง กว้าง 1 ฝ่ามือ ส่วนด้านหลังประมาณ 2 ฝ่ามือ ทำให้ผิวโดยรอบเปลี่ยนสี และไม่เรียบเนียน ผู้เสียหายมีอาการคัน และเจ็บบริเวณแผล ถือว่าบาดแผลลึกและรุนแรงในระดับ 2-3
ลักษณะแผลเป็น มีลักษณะนูน ขั้นตอนของการรักษาจำเป็นต้องฉีดยาสเตียรอยด์ และจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาในการรักษา
ส่วนในเรื่องของสีผิว จะต้องดูแลโดยใช้ครีมบำรุง ใช้ระยะเวลาในการรักษาหนึ่งปีครึ่ง-สองปี
ส่วนการตกแต่งศัลยกรรม ผ่าตัดเพื่อแก้ไขผิว จะไม่คุ้ม เนื่องจากจำเป็นต้องตัดชิ้นเนื้อส่วนอื่นของร่างกายมารักษาบาดแผล และบาดแผลยังกลับมาไม่เหมือนเดิม
-------------
วานนี้ (4 ธ.ค. 66) เวลา 12.00 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ 'กัน จอมพลัง' พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน เข้าตรวจสอบคลินิกแห่งหนึ่ง ย่านบางเขน
ภายหลังที่ นางสาวเกม (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี เน็ตไอดอลสาวแฟนนักแสดงช่องดัง ร้องกระทรวงสาธารณสุข ใช้บริการคลินิก หมอใช้วิธีการรักษาเผายาหน้าท้อง ทำให้เลือดลมไหลเวียนดี-ลดไขมันหน้าท้อง แลกกับการให้โปรโมทคลินิก โดยใช้แอลกอฮอล์ 95% เทราดบนตัว แล้วจุดไฟ จนไฟลุมลามทั่วตัว หลังไฟลุก หมอวิ่งหนีไม่ช่วยคนไข้ บ่ายเบี่ยงรับผิดชอบ
จากการลงพื้นที่พบว่า คลินิกยังเปิดให้บริการตามปกติ มีเจ้าหน้าที่ให้บริการอยู่ด้านใน หน้าคลินิกติดป้ายข้อความรักษาอาการต่าง ๆ อาทิ เผายา // ฝังเข็ม // ครอบแก้ว // นวดปรับโครงสร้างร่างกาย // ผิวสวยหน้าใส // ไมเกรน // นอนไม่หลับ // ออฟฟิศซินโดรม
เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบด้านใน โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพ ใช้เวลาตรวจสอบชั่วโมงครึ่ง
--------------
จากนั้น นายชาตรี พินใย ผู้อำนวยการกองกฎหมาย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ออกมาเปิดเผยว่า
จากการตรวจสอบ พบว่า เป็นการรักษาแบบแพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยพบว่า คลินิกดังกล่าวมีแพทย์แผนจีน 1 คน ทั้งที่ขออนุญาตเป็นสหคลินิก ต้องมีแพทย์แผนไทยประยุกต์อยู่ด้วย ซึ่งมีความผิดตามกฏหมาย
การเข้าตรวจสอบครั้งนี้ ไม่พบผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ซึ่งจะมีความผิดตามมาตรา 35 พ.ร.บ.สถานพยาบาล
จากนี้ จะมีการดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป ส่วนการโฆษณาในสื่อโซเชียล เช่น เฟซบุ๊ก พบว่า ไม่มีการขอโฆษณาก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน
ส่วนการตรวจมาตรฐานต่าง ๆ หากไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ก็จะส่งสภาการแพทย์แผนไทย พิจารณาทางด้านจริยธรรมต่อไป
-----------
ทั้งนี้ทาง สบส. ได้ออกมาตรการทางปกครอง ออกคำสั่งให้ปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ให้แก้ไขภายใน 15 วัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ดำเนินการสถานดังกล่าวไม่สามารถมาพบได้ ไม่อยู่ในสถานที่ที่เข้าตรวจ ต้องถูกดำเนินคดี ฉะนั้น การเปิดสถานพยาบาลตามกฏหมาย ต้องมีผู้ดำเนินการสถานพยาบาลอยู่ตลอดเวลาทำการ
ส่วนเรื่องมาตรฐานสถานที่ไม่ผิดปกติ ส่วนมาตรฐานการรักษาน่าจะมีความผิดปกติ ทั้งเครื่องมือ ยา เครื่องเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ต้องให้ อย.มาร่วมตรวจ ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ต้องเจอข้อหาอะไรบ้าง
ส่วนเรื่องการจุดไฟเผายาเพื่อทำการรักษา ตามมาตรฐานการแพทย์แผนไทยใ นเบื้องต้นน่าจะสามารถดำเนินการได้ แต่สถานที่น่าจะมีการเซฟตี้มากกว่านี้ ทั้งการป้องกันการเยียวยาต่าง ๆ
ซึ่งในวันเกิดเหตุ ไม่มีการป้องกันใดๆ มันเป็นเหตุความประมาท อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการแก้ไขตามที่ออกคำสั่ง ก็จะพิจารณาว่าจะสั่งปิดหรือไม่
สำหรับการรักษาผู้เสียหายในวันเกิดเหตุ มีแพทย์แผนจีนเป็นคนรักษาคนแรก คนรักษาคนต่อมาเป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ ซึ่งไม่ได้ทำประวัติ เลยผิดจรรยาบรรณแน่นอน
ส่วนแพทย์ที่ทำการรักษาผู้เสียหายพบว่า เป็นแพทย์แผนไทยประยุกต์ ตอนนี้ ลาออกจากคลินิกไปแล้ว ยืนยันมีการดำเนินคดีแน่นอน ทั้งทางแพ่ง และอาญา ในส่วนของคลินิกต้องจัดทำประวัติผู้ป่วย หากฝ่าฝืนก็จะสั่งปิดต่อไป
-------------
วานนี้ (4 ธ.ค. 66) ทีมข่าวได้ไปคุยกับอาจารย์แพทย์แผนไทย อ.คมสัน ทินกร ณ อยุธยา คลินิกการแพทย์แผนไทย หม่อมราชวงศ์สอาด ทินกร และรองคณบดี วิทยาลัยแพทย์ตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
อ.คมสัน ได้สาธิตการ 'เผายา' อย่างถูกวิธี และปลอดภัย ให้ทีมข่าวดู ซึ่งการเผายาอยู่ในละครของช่อง 3 เรื่อง ทองเอก หมอยาท่าโฉลง โดย มาริโอ้ เมาเร่อ ได้มาเรียนการเผายาวิธีขั้นตอนการรักษาจากอาจารย์แพทย์แผนไทย v.คมสัน เพื่อประกอบฉากละคร รวมถึง ญาญ่า อุรัสยา ก็เรียนการเผายาที่นี่ เพื่อนำไปแสดงละครเรื่องลายกินนรี
อ.คมสัน เผยว่า หัตถการเผาเครื่องยาร้อนใช้กับอาการ...
- หนาวเนื้อเข้ากระดูก
- ลมเหน็บชาตะคริว
- ลดอาการขัดแข้งขัดขาปวดเมื่อยตามเนื้อตามตัว
- ช่วยจุดไฟธาตุในการย่อยอาหาร
- ช่วยลดอาการท้องอืดเฟ้อเรอเปรี้ยว
- ช่วยบรรเทาอาการลมเสียดเข้าสะโพก
- ปวดหลัง
- ปวดเจ็บที่หัวเข่า
- และ ฯลฯ
กลไกการบำบัดนั้น ใช้ความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม ร่วมกับเครื่องยาที่มีรสร้อน เข้าไปบำบัดตรงบริเวณที่เกิดอาการตรง ๆ
การหัตถการนี้ กระทำโดยผู้ผ่านการฝึกฝนผ่านการเรียนรู้จากครูบาอาจารย์มาแล้วเท่านั้น และมักกระทำโดยหมอ มิใช่ผู้อื่นใดจะกระทำได้เป็นทั่วไป
ถ้าผู้อื่นกระทำแทน ต้องอยู่ในความดูแลของหมอตลอดการปฎิบัติหัตถการนั้น เหตุเพราะต้องใช้ไฟในการหัตถการ จำเป็นต้องมีความระวังไว้เป็นพื้นฐาน ซึ่งถ้าปฎิบัติอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาทแล้ว หัตถการนี้มีคุณเพื่อการบำบัดอย่างยิ่ง
ก่อนที่จะใช้หัตถการนี้หมอจะทำการตรวจวินิจฉัยเสียก่อน หากมีความร้อนภายในมากจะไม่กระทำ และหากมีอาการปวดหัว ,ตัวร้อน,มึนเวียนศรีษะ ,หน้ามืดตาลาย หมอจะใช้หัตถการฝั่งด้านเย็นแทนฝั่งด้านร้อน เช่น การเผายา เป็นต้น เพราะจะยิ่งมีความร้อนเพิ่มขึ้นไปอีก ทำให้เกิดกองลมซ้ำเข้าไปไม่ควร แต่หากหลังจากวินิจฉัยแล้วว่า ทำหัตถการนี้เหมาะควร หมอจะนวดบริเวณที่มีอาการเสียก่อน เสมือนการกระตุ้น
จากนั้น จะนำผ้าชุบน้ำบิด แล้ววงล้อมบริเวณที่จะหัตถการนั้น นำเครื่องยาอันประกอบด้วยเครื่องยารสร้อน อาทิ เหง้าไพล, เหง้ากระทือ, เหง้าขิง, เหง้าข่า, เหง้าขมิ้น, เหง้าตะไคร้ ลงสระในวงที่ทำไว้เบื้องต้น
จากนั้น โรยผงเกลือแกงเพื่อนำยา และความร้อนผ่านผิวหนังลงไปภายใน นำผ้าชุบน้ำอีกผืนหนึ่ง คลุมปิดวงเครื่องยาที่สระไว้จนมิดชิด แล้วนำแอลกอฮอล์ 95% ราดลงแต่พอควร และจุดไฟ
คนไข้จะรู้สึกเพียงแค่อุ่น ๆ เท่านั้น เพราะเปลวไฟอยู่เพียงผืนผ้าที่เปียกน้ำอยู่ และยังมีชั้นเครื่องยาขวางความร้อนจากเปลวไฟนั้นอยู่อีกเป็นชั้นที่สอง
ในขณะเดียวกัน หมอจะถือผ้าชุบน้ำไว้อีกผืน เพื่อป้องกันเปลวไฟนั้น หากคนไข้แจ้งว่า ร้อนพอควรแล้ว หมอจะคลุมดับไฟทันที เป็นจบขั้นตอนหัตถการ
อย่างไรก็ตาม หัตถการนี้ได้เริ่มแพร่จากหมอพื้นบ้าน มีการนำไปใช้ร่วมกับหัตถการชนิดอื่น ๆ ของแพทย์แผนไทย
โดยทั่วไป ทุกภูมิภาคของประเทศ เกิดการพัฒนาเป็นรูปแบบที่ปลอดภัยยิ่ง มีการกำหนดสูตรตำรับของเครื่องยา มีการตวงใช้ปริมาณของแอลกอฮอล์อย่างมาตราฐาน เช่น ในการเผายา ครั้งที่หนึ่งประมาณ 80-100 cc. ครั้งที่สองประมาณ 50-70 cc. ครั้งที่สามประมาณ 30-50 cc. มีขั้นตอนการปฎิบัติที่รัดกุมขึ้น มีการเฝ้าระวังในระหว่างการหัตถการนี้ อันเป็นข้อบังคับในปฎิบัติหัตถการ มีข้อพึงระวังมีข้อห้ามอย่างชัดเจนรัดกุม มีการกำหนดเครื่องมืออุปกรณ์การใช้ เช่น ขนาดกะละมังสแตนเลส ,ขนาดของผ้าขนหนูที่ใช้ ,ปริมาณการใช้แอลกอฮอล์ต่อครั้ง เป็นต้น
ปัจจุบันหัตถการเผาเครื่องยาร้อนนี้ มีหมอไทยในโรงพยาบาลของรัฐ และสถานประกอบการของเอกชน (คลินิก) นำมาใช้เกิดเป็นผลที่ดีต่อการพยาบาลอาการไข้ ซึ่งสามารถตรวจสอบ และสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ จากแพทย์แผนไทยปฎิบัติการณ์ ประจำสถานพยาบาลที่มีหัตถการนี้อยู่ทั่วประเทศ จะได้เข้าใจ และแลเห็นถึงคุณประโยชน์ของหัตถการนี้ว่า หากกระทำได้อย่างถูกต้องรัดกุมแล้ว นับมีค่ายิ่งที่จะผดุงรักษาสมบัติของชาติชิ้นนี้ไว้
การหัตถการในการแพทย์แผนไทย นอกเหนือจากการนวด ยังมีอีกมากมาย...
- การพอกเครื่องยาเย็น
- การประคบเย็น
- การชะโลมยา
- การนึ่งหม้อยา
- การย่างยา ฯลฯ
นับเป็นนวัตกรรมในการบำบัดรักษาอย่างแยบคาย แต่ก็ต้องเรียนรู้ฝึกฝนทักษะในการหัตถการดังเช่นหัตถการนวด เพื่อประโยชน์ในการพยาบาลไข้
“คลินิกที่เป็นข่าว ขั้นตอนการทำ หรือวิธีการรักษา ผิดตั้งแต่แรก ถ้าไม่ใช่สถานประกอบการแพทย์แผนไทยก็มีความผิด การเผายาต้องมีทักษะความชำนาญ
ในคลิป แอลกอฮอล์ไหลลงมาที่หลังแล้ว หมอยังจุดไฟอีก จะไม่ให้ไฟไหม้ได้ยังไง ขอถามหน่อยเรียนมาจากที่ไหน ไม่ใช่ใครจะทำก็ได้ ต้องทำโดยผู้มีใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมเท่านั้น คนทำต้องระมัดระวังสูง มีทักษะมีความรู้ ไม่ประมาท มีสติขณะทำหัตถหการ”
-------------
อุปกรณ์ในหัตถการ 'เผายา' ประกอบด้วย เครื่องยาหัตถการ /เหง้าไพล/เหง้าขมิ้นอ้อย สิ่งละสองส่วน /เหง้าขิง/เหง้าข่า/เหง้าตะไคร้/เหง้ากระทือ สิ่งละหนึ่งส่วน /กะละมังขนาดกลาง 1 ใบ / ผ้าขนหนูขนาดกลาง 3 ผืน/ Al 95% ตวงแล้ว 300 cc. / เกลือสมุทร 30 กรัม /น้ำมันนวด 1 ขวด/ที่จุดแก๊ส 1 อัน
ลำดับขั้นตอนการรักษาทั้ถูกวิธี แพทย์แผนไทยทำการตรวจวินิจฉัยกำเดาอุ่นกายปรกติ และกำเดาอุ่นกาย บริเวณที่จะปฎิบัติหัตถการ ตรวจวัดปรอทไข้ และตรวจวัดความดันโลหิต ว่าเป็นปรกติ/ แจ้งลำดับขั้นตอนหัตถการให้คนไข้ทราบ /ใช้น้ำมันนวด ๆ กระตุ้นบริเวณที่จะกระทำหัตถการอย่างเบามือประมาณ 5-10 นาที /ใช้ผ้าชุบน้ำแล้วบิดหมาดวงรอบบริเวณหัตถการให้มีรัศมีไม่เกินครึ่งคืบ / ใช้เกลือแกงโรยบริเวณที่วงรอบนั้น /สระเครื่องยาถมลงไปประมาณหนึ่งข้อนิ้วมือ /โรยเกลือแกงอีกชั้นหนึ่งให้ทั่วแต่พอควร /นำผ้าชุบน้ำบิดหมาดลงคลุมทับบริเวณที่จะหัตถการให้ชายผ้าวงรอบเกินออกจากวงผ้ารอบแรกนั้น
จากนั้นนำผ้าชุบน้ำบิดหมาดอีกผืน (เพื่อเตรียมไว้ดับเปลวไฟ) เทแอลกอฮอล์ รอบที่ 1ไม่เกินกว่า 100 cc. โดยค่อย ๆ เทกระจายให้ทั่ววงรอบแรกเท่านั้นอย่างระมัดระวังห้ามเกินขอบของวงที่กำหนดอย่างเด็ดขาด /แจ้งคนไข้เพื่อทราบก่อนที่จะจุดไฟในวงรอบของแอลกอฮอล์ ที่ได้เทไว้แล้ว /ให้ผู้ปฎิบัติหัตถการถือผ้าเตรียมดับเปลวไฟไว้ตลอดเวลา คอยสอบถามคนไข้ว่าร้อนหรือไม่ร้อนแค่ไหนอย่างสม่ำเสมอ ถ้าแจ้งว่าร้อนเกินควรให้รีบดับเปลวไฟเสีย
หลังจากดับเปลวไฟแล้วให้ใช้ฝ่ามือค่อยๆ กดในวงรอบเพื่อกระจายกองลมและความร้อนที่เกิดขึ้น อีกทั้งเพื่อตรวจสอบระดับของความร้อนในแต่ละรอบหัตถการนั้น /เปิดผ้าออกแล้วใช้มือเกลี่ยเครื่องยาไม่ให้กดทับกัน พร้อมตรวจความร้อนและความแห้งของเครื่องยา ถ้าแห้งเกินไปให้เติมเครื่องยาเปียกเพิ่มเข้าไปอีก/ จากนั้นตรวจสอบผ้าขนหนูที่ใช้ปิดวงรอบหากแห้งไปให้ชุบน้ำแล้วบิดหมาดอีกครั้ง /ปิดผ้าหมาดนั้นเข้าที่ตรวจสอบชายผ้าว่าเกินวงรอบหัตถการออกมา เทแอลกอฮอล์ รอบที่ 2 ไม่เกินกว่า 70 cc. แล้วปฎิบัติขั้นตอนตามรอบแรกอย่างเคร่งครัด
จากนั้นทำตามขั้นตอนข้างต้นซ้ำอย่างระมัดระวัง เทแอลกอฮอล์รอบที่ 3 ไม่เกินกว่า 50 cc. แล้วปฎิบัติดั่งขั้นตอนข้างต้น /นำวงผ้าและโกยเครื่องยาออกเช็ดบริเวณนั้นด้วยผ้าสะอาดให้หมดจด /ค่อย ๆ นวดกระจายกองลมอีกครั้ง /สอบถามคนไข้หลังปฎิบัติหัตถการเรียบร้อย
ข้อควรระวัง ให้ตรวจกำเดาอุ่นกาย วัดปรอทไข้และความดันโลหิตก่อนปฎิบัติหัตถการทุกครั้ง /แจ้งลำดับขั้นตอนการหัตถการให้คนไข้ทราบและเข้าใจเสมอก่อนปฎิบัติหัตถการ /หากตรวจสอบพบว่าคนไข้ร้อนเกินไปให้หยุดหัตถการทันทีแม้คนไข้ร้องขอ /ให้หมั่นสังเกตุกริยาที่ผิดปกติไปของคนไข้หากตรวจพบให้สอบถามคนไข้ทันที /ในระหว่างจุดมีเปลวไฟให้ผู้ปฎิบัติหัตถการนั่งอยู่กับที่เตรียมพร้อมดับไฟได้ทันที ให้เทAlด้วยความระมัดระวังไม่ควรเกินวงรอบเด็ดขาด ถ้าเกินเขตที่กำหนดให้เปลี่ยนผ้าขนหนูบิดน้ำหมาดผืนใหม่ทันทีแล้วเทแอลกอฮอล์ใหม่
ข้อห้าม ห้ามปฎิบัติหัตถการนี้กับคนไข้ดังต่อไปนี้ วัดปรอทแล้วมีไข้ / มีความดันโลหิตสูง/ มีกำเดาอุ่นกายกำเริบ /มีอาการทางอุธังคมาวาตากำเริบ /มีภาวะบวมอักเสบชัดเจน ห้ามใช้แอลกอฮอล์เกินกว่าค่าเฉลี่ยที่กำหนดในแต่ละครั้งหัตถการ /เมื่อจุดเปลวไฟแล้วห้ามผู้ปฎิบัติการห่างจากคนไข้เด็ดขาด /ห้ามทำหัตถการนี้เกินกว่า 3-5 รอบ แม้คนไข้ร้องขอ/ เมื่อจุดไฟแล้วห้ามเทแอลกอฮอล์ซ้ำอย่างเด็ดขาด
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/QyeBpRzJWt8