ไฟป่าระทึก! โหมไหม้กลืนเขาแหลม-เขาชะพลู เสียหายแล้ว 700 ไร่ จนท.เร่งนำ ฮ.ช่วยดับไฟ

สถานการณ์ไฟป่า “เขาแหลม – เขาชะพลู” จ.นครนายก ยังคงลุกลาม เสียหายแล้วกว่า 700 ไร่ ผู้ว่าฯ เร่งประสานนำเฮลิคอปเตอร์จากหลายหน่วยงานช่วยดับไฟ ชาวบ้านโอด ไม่เคยเห็นไฟป่ารุนแรงขนาดนี้มาก่อน

เมื่อวานนี้ (29 มี.ค. 66) เกิดเหตุไฟไหม้เขาแหลม ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ไฟป่าได้ลุกลามมายังเขานางดำซึ่งเป็นเขาลูกที่ 2 แล้ว โดยนายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก เรียกประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาอัคคีภัย ไฟป้าและหมอกควัน ในพื้นที่ตำบลเขาพระอำเภอ เมืองจังหวัดนครนายก หรือ เรียกสั้นๆ ว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันไฟป่าฯเขาพระ โดยยกระดับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ หลังสถานการณ์ยังไม่สามารถควบคุมได้

ซึ่งได้เปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นไฟป่า เกิดจากพายุฤดูร้อน เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดฟ้าผ่าลงบนเขาชะพลู ทำให้เกิดประกายไฟและไฟลุกลาม ซึ่งตอนแรกทางหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งช่วยกันดับไฟป่า แต่เนื่องจากกระแสลมแรงทำให้ไฟป่าลามไปเขาแหลม ที่อยู่หลังโรงเรียนนายร้อย จปร. พื้นที่ความเสียหายกระจายเป็นวงกว้าง ไฟไหม้ไปแล้วประมาณ 700 ไร่ หรือเกือบ 100% ของพื้นที่ป่าเขาแหลม

ล่าสุดไฟกำลังลุกลามมายังพื้นที่ป่าเขานางดำ จุดที่เรากำลังยืนรายงานสดอยู่ ณ ขณะนี้ ซึ่ง อุปสรรคสำคัญ คือ เรื่องกระแสลมแรงและทิศทางลม กำลังพัดขึ้นไปทางเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

ทางผู้ว่าฯ จึงต้องสั่งโดรนขึ้นบินสำรวจแนวไฟ พร้อมขอระดมกำลังสนับสนุนทางอากาศ เฮลิคอปเตอร์ รุ่น KA32 ของ ปภ. 1 ลำ, กองทัพบก 2 ลำ และ กองทัพอากาศ 1 ลำ เพื่อเป็นกำลังหลักในการตักน้ำ บินขึ้นไปโปรยดับไฟป่า นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมช่วยสนับสนุนอีก 2 ลำ

ซึ่งมีประเด็นดราม่าเรื่องเวลาที่เฮลิคอปเตอร์บินมาถึงล่าช้า ทางผู้ว่าชี้แจงว่าตัวเองมีอำนาจในการร้องขอกำลังสนับสนุนทางอากาศเฮลิคอปเตอร์ส่วนการจะส่งมาตอนเวลาไหน ขึ้นอยู่กับตารางบินและหน่วยงานต้นสังกัดของเฮลิคอปเตอร์ นอกจากนี้ ท่านผู้ว่าฯ ยังฝากถึงการเผยแพร่ภาพไฟป่าเขาแหลม เมื่อวานนี้ที่เห็นลักษณะเป็นไฟไหม้เขาทั้งลูก ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่ห่างจากโรงเรียนนายร้อย จปร.พอสมควร แต่มุมภาพอาจทำให้เห็นว่า อยู่ใกล้จนอาจทำให้ประชาชนเกิดความวิตกกังวลได้

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ โดยคุณนฤชา กมุทโยธิน ได้รายงานสถานการณ์สดในพื้นที่ โดยได้สำรวจพื้นที่บริเวณรอบเขานางดำซึ่งไฟกำลังลุกลามอยู่ในขณะนี้ พบบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่หมู่ 13 อยู่ใกล้เคียงกับจุดไฟไหม้มากที่สุด เช่น บ้านของ คุณยายชื่น ทวีพงษ์ อายุ 80 ปี ชาวบ้านหมู่ 13 ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก บอกว่าตัวเองเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ เพิ่งย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนครนายกบ้านของลูกเขยได้ไม่กี่ปี ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอกับไฟป่าที่รุนแรงและใกล้ตัวขนาดนี้

บ้านที่คุณยายอาศัยอยู่นี้ ห่างจากจุดไฟป่าประมาณ 400 - 500 เมตร เมื่อคืนได้ยินเสียงต้นไผ่และต้นไม้ใหญ่ถูกไฟไหม้ เสียงลั่นโป๊ะเป๊ะ ดังมาก จนนอนไม่หลับ กลัวว่าไฟจะลามมาถึงบ้าน ซึ่งถ้าลามมาจริงๆ ยายคงต้องรีบวิ่งหนีเอาตัวรอดไม่สามารถนำทรัพย์สินมีค่าอะไรออกมาได้ทัน ส่วนเรื่องผลกระทบหมอกควันและระบบทางเดินหายใจคุณยายบอกว่ายังปกติดียังไม่รู้สึกแสบคอหรือแสบจมูก

เช่นเดียวกับ นายสุธีร์ พันธมา อายุ 57 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เดียวกัน บอกว่า ด้านหลังบ้าน คือ เขาแหลมและเขานางดำ เมื่อปี 2563 เคยเกิดไฟป่าแต่ไม่รุนแรงขนาดนี้รอบนี้ถือว่ารุนแรงและไฟลุกลามเร็วมาก และที่บ้านมีแต่ผู้หญิงกับคนแก่ เมื่อคืนทุกคนในบ้านต่างนอนไม่หลับ ต้องคอยเฝ้าระวังและเตรียมตัวว่าหากไฟลามมาถึงหลังบ้านต้องรีบหนีเอาชีวิตรอด

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dnNau5yTFks