พ่อ-แม่ 'น้องต่อ' เลื่อนเข้าเครื่องจับเท็จ! ด้าน 'บิ๊กโจ๊ก' สันนิษฐาน เด็กอาจไม่อยู่แล้ว มั่นใจพ่อแม่รู้เห็น

คืบหน้ากรณี น้องต่อหนูน้อยวัย 8 เดือนหายไปปริศนา ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา ทีแรกตำรวจนัดที่จะนำตัวนิ่มและพุด พ่อแม่น้องต่อ เข้าเครื่องจับเท็จวันนี้ แต่สุดท้ายขอเลื่อนไม่มีกำหนด


หลังจากเมื่อวานนี้(14ก.พ.) ตำรวจชุดสืบสวนเชิญตัว นายพุด พ่อของน้องต่อ มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกับเก็บ DNA โดยนายพุด มีท่าทีแปลกกว่าทุกวันที่ผ่านมา พยายามหลบหน้า มีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อแต่อย่างใด


นอกจากนี้ตำรวจ ยังทยอยเชิญตัว บุคคลใกล้ชิดทั้ง พ่อนิ่ม ลุงเเจ้ ป้าสา และนายกล้า มาเก็บ DNA เพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบกับผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์


ต่อมา ตำรวจได้นำตัวนิ่ม แม่น้องต่อ กลับมาที่ สภ.บางหลวง หลังจากพาไปแยกสอบที่อื่น ระหว่างนั้น นิ่ม ได้ส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงญาติว่า "บอกพ่อด้วยนะ ว่าวันนี้กูโดนจับ หมี ฝากบอกพ่อด้วย เพื่อเขาเป็นห่วง"


โดย นิ่ม ไม่รู้ว่า ตำรวจได้เรียก พ่อของนิ่ม นายประสาน อายุ 58 ปี ให้มาพูดคุยกับลูกสาวเป็นการส่วนตัว ซึ่งมีจังหวะหนึ่งที่กำลังพูดคุย สีหน้าของนิ่ม มีน้ำตาคลอ และท่าทีดูเครียดกว่าทุกวันที่ผ่านมา


หลังจาก นิ่ม คุยกับพ่อเสร็จ ได้บอกกับสื่อว่า วันนี้ตำรวจนำตัวไปตรวจสอบเส้นทางการเดินทางของตน ในวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. ซึ่งเป็นวันก่อนเกิดเหตุ โดยวันนั้นเดินทางไปสถานที่ต่างๆ ทั้งหมด 4 ที่ ได้แก่ โรงงานที่พุดทำงาน ,สถานีอนามัยบางไทรป่า ที่ตนพาน้องต่อไปหาหมอ บ้านป้าของนิ่มที่บางเลา และบ้านลุงแจ้


ตนยืนยันว่า พูดความจริงไปหมดแล้ว และไม่ได้ฆ่า หรือขายลูกให้กับใคร หลังจากนี้หากตำรวจจะส่งเข้าเครื่องจับเท็จก็พร้อมให้ความร่วมมือ เพราะอยากตามหาลูก ส่วนประเด็นเงิน 15,000 บาท เป็นเงินค่าคลอดบุตรได้จากประกันสังคม โอนมาตอนที่น้องต่ออายุได้ 4 เดือน พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไป


ยอมรับว่าหลังเกิดเหตุ บางคืนถึงกับสะดุ้งตื่นมานั่งร้องไห้เพราะคิดถึงลูก และตราบใดที่ยังไม่พบศพลูกตอนนี้ตัวเองก็มีความหวังว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ แต่ความมั่นใจในวันนี้ยอมรับว่าน้อยลง เพราะเวลาผ่านไป 10 วันแล้ว ส่วนตัวมองว่า คงมีคนนำลูกไปเลี้ยงดูอยู่อย่างดีในตอนนี้


ขณะที่วันนี้เดิมพนักงานสอบสวน สภ.บางหลวง นัด พ่อและแม่ของน้องต่อ มาเข้าเครื่องจับเท็จที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 จังหวัดปทุมธานี แต่ปรากฎว่าเมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนขอเลื่อนออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด และไม่ได้ระบุเหตุผล ซึ่งเชื่อว่า น่าจะมีบางประเด็นที่ต้องสอบปากคำเพิ่มเติม และตอนนี้ชุดสืบสวนน่าจะยังต้องการใช้วิธีสอบปากคำเค้นความจริงอยู่


ด้านบิ๊กโจ๊ก พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การสืบสวนสอบสวนจนถึงขณะนี้มั่นใจว่า “พ่อและแม่ของเด็กรู้กันอย่างแน่นอนไม่ใช่ใครคนอื่น พร้อมสันนิษฐานว่า เด็กอาจจะไม่อยู่แล้ว" ส่วนสาเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานเอาไว้ว่า อาจจะเป็นการทำร้ายลูก การทะเลาะเบาะแว้งกัน รวมไปถึงน้องต่อวัย 8 เดือนอาจจะไม่ใช่ลูกชายของพ่อคนนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างรอผลตรวจยืนยันทางดีเอ็นเอ


นอกจากนี้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้ตำหนิตำรวจในพื้นที่ ว่าทำงานล่าช้า เหตุการณ์ผ่านมา 8 วันยังไม่สามารถยืนยันพยานหลักฐานทางคดีได้ซึ่งได้ตำหนิไปแล้ว พร้อมยืนยันว่าตำรวจมีศักยภาพเพียงพอที่จะคลี่คลายคดี ขอแค่ขยันทำงาน เท่านั้นเอง

https://youtu.be/ruJycoFN7Rc